นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
วันนี้ เวลา 12.20 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวเปลือกนาปรังที่ลดต่ำลงมากและเตรียมจะเข้ามาปิดถนนใน 4 มุมเมืองนั้น ทำให้รัฐบาลต้องเรียกประชุมรัฐมนตรีที่มีความรู้เรื่องข้าวเป็นอย่างดี 11 คน เพื่อหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรัฐบาลจะรับจำนำข้าวในราคา 14,000 บาทต่อตัน จะทำทั่วประเทศในจำนวนข้าวนาปรังที่กำลังจะออก ทั้งนี้ ได้คำนวณดูปริมาณข้าวที่จะออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลจะดำเนินการมอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกไปรับจำนำข้าวทั้งหมด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดวิธีการทั้งหมดว่าจะดำเนินการรับจำนำที่ไหนอย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อเวลาที่เราดูสถานการณ์นั้น ราคาข้าวขึ้นไปสูงมากจนผิดปกติ และเมื่อราคาข้าวตกลงมาผิดปกติก็เห็นว่าเป็นการถูกดึงลงอย่างผิดปกติ เพราะมีกระบวนการวิธีการที่ทำให้เกิดขึ้น ฉะนั้นด้วยความรับผิดชอบของรัฐบาล จะทำให้ชาวนาขายข้าวรวมถึงข้าวเหนียวที่จะผลิตออกมาได้ในราคา 14,000 บาทต่อตัน ซึ่งจะดำเนินการทันทีในวันพรุ่งนี้ จึงขอประกาศให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ราคาที่รับจำนำข้าวตันละ 14,000 บาทเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง เพื่อต้องการแก้ปัญหา เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือนถ้าต้องการจะมาไถ่คืน การคืนเงินถ้ามูลค่าข้าวเป็น 15,000 ต่อตันก็จะคืนตัวเงินให้ 1,000 บาท โดยไม่คืนตัวข้าวกลับคืนไป ทั้งนี้ ก่อนที่จะแปรรูปจากข้าวเปลือกเป็นข้าวจ้าว จะเข้ากระบวนการอบ เข้าไซโล จนเรียบร้อย ซึ่งจะทำแม้แต่ข้าวเก่าที่มีอยู่ในสต๊อก 2.1 ล้านตัน ที่มีข้าวเก่าที่เป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์อยู่ถึง 1.1 ล้านตัน ซึ่งข้าวตรงนี้ต่างประเทศเข้าใจผิดว่าเป็นข้าวไม่ดี ความจริงแล้วเป็นเพียงข้าวที่ไม่มียางเท่านั้น จึงได้สั่งการให้นำข้าวเก่า 5 ส่วน ข้าวใหม่ 2 ส่วนมาผสมกันเป็นข้าวมาตรฐานเพื่อขายให้ประเทศด้วย และเมื่อข้าวนาปีออกมาก็จะซื้อข้าวนาปีเก็บไว้ในสต๊อกเพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องราคาข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกเจ้า กระทรวงการคลังได้มอบหมาย ธ.ก.ส. ดำเนินการให้เงินสนับสนุนโรงสี ในกรณีข้าวเปลือกเหนียวที่มีปัญหาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้สังเกตว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าที่ราคาลดลงอย่างผิดปกติ ในขณะที่ราคาข้าวสารในตลาดโลกยังมีทิศทางที่ไม่มีความผันผวนผิดปกติอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกแล้วเห็นได้ชัดเจนว่า ปัญหาที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการส่งออกของประเทศอื่น ๆ ที่เป็นผู้ผลิตข้าว และจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวนั้นยังไม่เกิดขึ้น เป็นเพียงการคาดการณ์ในอนาคตล่วงหน้าอีกนานพอสมควร ฉะนั้นความผิดปกติที่เกิดขึ้นของราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าในขณะนี้จึงเป็นความผิดปกติของกลไกการตลาดที่ผิดปกติ จึงได้มอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการทำโครงการรับจำนองจำนำข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียว เพื่อให้ชักจูงให้กลไกการตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติโดยที่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปบิดเบือนกลไกตลาด โดย ธ.ก.ส. ได้จัดทำรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 11 คน ได้พิจารณาและได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของการกำกับดูแล นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่าขอให้รัฐมนตรีต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ได้ไปดูพื้นที่จัดเป็นเขตเป็นโซนต่าง ๆ ไปช่วยกำกับดูแลให้กลไกต่าง ๆ เดินได้อย่างถูกต้องโปร่งใส ขณะเดียวกันขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการควบคุมกลไกต่าง ๆ ตามขั้นตอนการดำเนินงานของ ธ.ก.ส.
ด้าน นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวถึงรายละเอียดขั้นตอนการรับจำนองจำนำข้าวเปลือกว่า เป็นวิธีกระบวนการที่คุ้นเคยอยู่แล้ว ที่ ธ.ก.ส.ได้นำมาปรับปรุงให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและราคา โดยยังเป็นโครงการรับจำนำข้าว แต่การจำนำข้าวนาปรังในช่วงนี้แตกต่างจากการจำนำข้าวนาปีที่เป็นข้าวแห้ง เพราะข้าวนาปรังเป็นข้าวเปียกที่มีความชื้น รวมทั้งเป็นช่วงหน้าฝนที่มีมรสุม ในกระบวนการจำนำของ ธ.ก.ส. จึงเก็บเป็นข้าวเปลือกไม่ได้ โดยเมื่อรับจำนำแล้วจึงจะส่งข้าวเปลือกตามกระบวนการแปรรูปเป็นข้าวสาร คณะกรรมการชุดแรกจะทำงานเพื่อรับจำนำข้าวเปลือก ชุดที่ 2. จะดำเนินการรับข้าวเปลือกไปแปรรูป และชุดที่ 3. ดำเนินการเรื่องการขายข้าวสาร ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 3 ชุดจะร่วมมือกันทำงานและตรวจสอบความเรียบร้อย เมื่อออกมาเป็นข้าวสารแล้วกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลจะร่วมดำเนินการจัดการขายข้าวเพื่อนำเงินมาเข้าคืนสู่ระบบ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 12.20 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวเปลือกนาปรังที่ลดต่ำลงมากและเตรียมจะเข้ามาปิดถนนใน 4 มุมเมืองนั้น ทำให้รัฐบาลต้องเรียกประชุมรัฐมนตรีที่มีความรู้เรื่องข้าวเป็นอย่างดี 11 คน เพื่อหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรัฐบาลจะรับจำนำข้าวในราคา 14,000 บาทต่อตัน จะทำทั่วประเทศในจำนวนข้าวนาปรังที่กำลังจะออก ทั้งนี้ ได้คำนวณดูปริมาณข้าวที่จะออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลจะดำเนินการมอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกไปรับจำนำข้าวทั้งหมด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดวิธีการทั้งหมดว่าจะดำเนินการรับจำนำที่ไหนอย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อเวลาที่เราดูสถานการณ์นั้น ราคาข้าวขึ้นไปสูงมากจนผิดปกติ และเมื่อราคาข้าวตกลงมาผิดปกติก็เห็นว่าเป็นการถูกดึงลงอย่างผิดปกติ เพราะมีกระบวนการวิธีการที่ทำให้เกิดขึ้น ฉะนั้นด้วยความรับผิดชอบของรัฐบาล จะทำให้ชาวนาขายข้าวรวมถึงข้าวเหนียวที่จะผลิตออกมาได้ในราคา 14,000 บาทต่อตัน ซึ่งจะดำเนินการทันทีในวันพรุ่งนี้ จึงขอประกาศให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ราคาที่รับจำนำข้าวตันละ 14,000 บาทเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง เพื่อต้องการแก้ปัญหา เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือนถ้าต้องการจะมาไถ่คืน การคืนเงินถ้ามูลค่าข้าวเป็น 15,000 ต่อตันก็จะคืนตัวเงินให้ 1,000 บาท โดยไม่คืนตัวข้าวกลับคืนไป ทั้งนี้ ก่อนที่จะแปรรูปจากข้าวเปลือกเป็นข้าวจ้าว จะเข้ากระบวนการอบ เข้าไซโล จนเรียบร้อย ซึ่งจะทำแม้แต่ข้าวเก่าที่มีอยู่ในสต๊อก 2.1 ล้านตัน ที่มีข้าวเก่าที่เป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์อยู่ถึง 1.1 ล้านตัน ซึ่งข้าวตรงนี้ต่างประเทศเข้าใจผิดว่าเป็นข้าวไม่ดี ความจริงแล้วเป็นเพียงข้าวที่ไม่มียางเท่านั้น จึงได้สั่งการให้นำข้าวเก่า 5 ส่วน ข้าวใหม่ 2 ส่วนมาผสมกันเป็นข้าวมาตรฐานเพื่อขายให้ประเทศด้วย และเมื่อข้าวนาปีออกมาก็จะซื้อข้าวนาปีเก็บไว้ในสต๊อกเพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำ ซึ่งทั้งหมดนี้ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องราคาข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกเจ้า กระทรวงการคลังได้มอบหมาย ธ.ก.ส. ดำเนินการให้เงินสนับสนุนโรงสี ในกรณีข้าวเปลือกเหนียวที่มีปัญหาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้สังเกตว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าที่ราคาลดลงอย่างผิดปกติ ในขณะที่ราคาข้าวสารในตลาดโลกยังมีทิศทางที่ไม่มีความผันผวนผิดปกติอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกแล้วเห็นได้ชัดเจนว่า ปัญหาที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการส่งออกของประเทศอื่น ๆ ที่เป็นผู้ผลิตข้าว และจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวนั้นยังไม่เกิดขึ้น เป็นเพียงการคาดการณ์ในอนาคตล่วงหน้าอีกนานพอสมควร ฉะนั้นความผิดปกติที่เกิดขึ้นของราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าในขณะนี้จึงเป็นความผิดปกติของกลไกการตลาดที่ผิดปกติ จึงได้มอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการทำโครงการรับจำนองจำนำข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียว เพื่อให้ชักจูงให้กลไกการตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติโดยที่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปบิดเบือนกลไกตลาด โดย ธ.ก.ส. ได้จัดทำรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 11 คน ได้พิจารณาและได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของการกำกับดูแล นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่าขอให้รัฐมนตรีต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ ได้ไปดูพื้นที่จัดเป็นเขตเป็นโซนต่าง ๆ ไปช่วยกำกับดูแลให้กลไกต่าง ๆ เดินได้อย่างถูกต้องโปร่งใส ขณะเดียวกันขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการควบคุมกลไกต่าง ๆ ตามขั้นตอนการดำเนินงานของ ธ.ก.ส.
ด้าน นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวถึงรายละเอียดขั้นตอนการรับจำนองจำนำข้าวเปลือกว่า เป็นวิธีกระบวนการที่คุ้นเคยอยู่แล้ว ที่ ธ.ก.ส.ได้นำมาปรับปรุงให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและราคา โดยยังเป็นโครงการรับจำนำข้าว แต่การจำนำข้าวนาปรังในช่วงนี้แตกต่างจากการจำนำข้าวนาปีที่เป็นข้าวแห้ง เพราะข้าวนาปรังเป็นข้าวเปียกที่มีความชื้น รวมทั้งเป็นช่วงหน้าฝนที่มีมรสุม ในกระบวนการจำนำของ ธ.ก.ส. จึงเก็บเป็นข้าวเปลือกไม่ได้ โดยเมื่อรับจำนำแล้วจึงจะส่งข้าวเปลือกตามกระบวนการแปรรูปเป็นข้าวสาร คณะกรรมการชุดแรกจะทำงานเพื่อรับจำนำข้าวเปลือก ชุดที่ 2. จะดำเนินการรับข้าวเปลือกไปแปรรูป และชุดที่ 3. ดำเนินการเรื่องการขายข้าวสาร ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 3 ชุดจะร่วมมือกันทำงานและตรวจสอบความเรียบร้อย เมื่อออกมาเป็นข้าวสารแล้วกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลจะร่วมดำเนินการจัดการขายข้าวเพื่อนำเงินมาเข้าคืนสู่ระบบ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--