เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี พร้อมหารือถึงการลงทุนและการกระชับความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ กับรัฐบาลไทย ตามกรอบความตกลงเขตการค้าเสรีทวิภาคีไทย-ออสเตรเลีย ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายวิลเลียม แพตเตอร์สัน
(Mr. William Patterson) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ มีการสนทนาสรุป ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและขอบคุณเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ที่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศออสเตรเลียด้วยดีตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง โดยส่วนตัวแล้ว มีความประทับใจวัฒนธรรมของออสเตรเลีย โดยเฉพาะวัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน และความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมือง
ระหว่างการสนทนา ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างไทยและออสเตรเลีย โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง แผนการสร้างเส้นทางคมนาคมในอนุภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณและทำให้การค้าในอนุภูมิภาคมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศคู่ค้านอกภูมิภาคด้วย ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียก็มีความสนใจการพัฒนาด้านพลังงาน โดยเอกอัครราชทูตออสเตรเลียได้กล่าวเกี่ยวกับประโยชน์ของพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ก๊าซ Eternal และก๊าซ โซฮอลล์ E-20 และแจ้งว่า นักธุรกิจชาวออสเตรเลียจำนวนมาก มีความสนใจในการทำเหมืองแร่ในไทย และเห็นว่า ระบบ One Stop Service จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อและดำเนินธุรกิจของชาวออสเตรเลียในไทยได้เป็นอย่างดี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายวิลเลียม แพตเตอร์สัน
(Mr. William Patterson) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ มีการสนทนาสรุป ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและขอบคุณเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ที่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศออสเตรเลียด้วยดีตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง โดยส่วนตัวแล้ว มีความประทับใจวัฒนธรรมของออสเตรเลีย โดยเฉพาะวัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน และความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมือง
ระหว่างการสนทนา ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างไทยและออสเตรเลีย โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง แผนการสร้างเส้นทางคมนาคมในอนุภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณและทำให้การค้าในอนุภูมิภาคมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศคู่ค้านอกภูมิภาคด้วย ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียก็มีความสนใจการพัฒนาด้านพลังงาน โดยเอกอัครราชทูตออสเตรเลียได้กล่าวเกี่ยวกับประโยชน์ของพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ก๊าซ Eternal และก๊าซ โซฮอลล์ E-20 และแจ้งว่า นักธุรกิจชาวออสเตรเลียจำนวนมาก มีความสนใจในการทำเหมืองแร่ในไทย และเห็นว่า ระบบ One Stop Service จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อและดำเนินธุรกิจของชาวออสเตรเลียในไทยได้เป็นอย่างดี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--