ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเผยผลตรวจสอบ 29 เว็บไซต์ที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ย้ำหากเจ้าของเว็บไซต์ปล่อยปละละเลยถือว่ามีส่วนกระทำความผิดด้วย
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้รายงานผลการดำเนินงานตามที่ ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสม ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักงานความมั่นคง กรมการปกครองประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามี 29 เว็บไซต์ที่มีข้อความไม่เหมาะสมและสามารถตรวจสอบได้ โดยพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่ส่งข้อความมาจากต่างประเทศ 7 เว็บไซต์ และเป็นเว็บไซต์ภายในประเทศ 22 เว็บไซต์ ทั้งนี้ใน 29 เว็บไซต์ มี 2 เว็บไซต์ที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาและรายละเอียดได้ ส่วนที่เหลือ 27 เว็บไซต์ สามารถตรวจสอบได้หมด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์และอธิบายให้รับทราบว่าถึงแม้ข้อความจะมาจากต่างประเทศ แต่เจ้าของเว็บไซต์จะต้องรู้และควรรู้ว่าเป็นข้อความไม่เหมาะสม และยังปล่อยปละละเลยถือว่าเจ้าของเว็บไซต์มีส่วนกระทำความผิดด้วย แต่ต้องพิจารณาว่ามีความผิดร่วมแค่ไหน หากรู้และมีเจตนาที่จะให้ข้อความดังกล่าวมีการเผยแพร่ จะต้องมีความผิดฐานตัวการร่วมกัน ถ้าสนับสนุนก็เป็นความผิดฐานสนับสนุน และข้อกฎหมายถือว่าเป็นความผิดเกิดขึ้นในราชอาณาจักรต้องมีบทบัญญัติในการลงโทษ อย่างไรก็ตาม เจ้าของเว็บไซต์ต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยการกำหนดให้คนที่โพสต์เข้าไปในเว็บจะต้องแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจน ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ และจะพยายามทำให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในข้อความที่ไม่สมควรไม่บังควร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยหรือหลีกเลี่ยง แต่รัฐบาลที่ผ่านมามีความเข้าใจว่าหากมีข้อความมาจากต่างประเทศแล้วภายในประเทศไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ความจริงแล้วเราต้องรับผิดชอบ และรัฐบาลจะดำเนินการต่อไปให้กรมการปกครองเป็นเจ้าภาพ โดยประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม หากเว็บไซต์ใดไม่ให้ความร่วมมือทางกระทรวงมหาดไทยจะประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้แต่งตั้งเจ้าพนักงานคณะหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายคือมีความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และส่งชื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานเพื่อไปปฏิบัติการ โดยยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอหมายมาตรวจค้น และดำเนินการกับเว็บไซต์นั้น แต่ขณะนี้ทุกเว็บไซต์ให้ความร่วมมือยังไม่ต้องถึงขั้นที่ต้องไปดำเนินการตรวจค้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้รายงานผลการดำเนินงานตามที่ ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสม ซึ่งตนได้มอบหมายให้สำนักงานความมั่นคง กรมการปกครองประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามี 29 เว็บไซต์ที่มีข้อความไม่เหมาะสมและสามารถตรวจสอบได้ โดยพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่ส่งข้อความมาจากต่างประเทศ 7 เว็บไซต์ และเป็นเว็บไซต์ภายในประเทศ 22 เว็บไซต์ ทั้งนี้ใน 29 เว็บไซต์ มี 2 เว็บไซต์ที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาและรายละเอียดได้ ส่วนที่เหลือ 27 เว็บไซต์ สามารถตรวจสอบได้หมด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ติดต่อเจ้าของเว็บไซต์และอธิบายให้รับทราบว่าถึงแม้ข้อความจะมาจากต่างประเทศ แต่เจ้าของเว็บไซต์จะต้องรู้และควรรู้ว่าเป็นข้อความไม่เหมาะสม และยังปล่อยปละละเลยถือว่าเจ้าของเว็บไซต์มีส่วนกระทำความผิดด้วย แต่ต้องพิจารณาว่ามีความผิดร่วมแค่ไหน หากรู้และมีเจตนาที่จะให้ข้อความดังกล่าวมีการเผยแพร่ จะต้องมีความผิดฐานตัวการร่วมกัน ถ้าสนับสนุนก็เป็นความผิดฐานสนับสนุน และข้อกฎหมายถือว่าเป็นความผิดเกิดขึ้นในราชอาณาจักรต้องมีบทบัญญัติในการลงโทษ อย่างไรก็ตาม เจ้าของเว็บไซต์ต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยการกำหนดให้คนที่โพสต์เข้าไปในเว็บจะต้องแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจน ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ และจะพยายามทำให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในข้อความที่ไม่สมควรไม่บังควร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยหรือหลีกเลี่ยง แต่รัฐบาลที่ผ่านมามีความเข้าใจว่าหากมีข้อความมาจากต่างประเทศแล้วภายในประเทศไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ความจริงแล้วเราต้องรับผิดชอบ และรัฐบาลจะดำเนินการต่อไปให้กรมการปกครองเป็นเจ้าภาพ โดยประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม หากเว็บไซต์ใดไม่ให้ความร่วมมือทางกระทรวงมหาดไทยจะประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้แต่งตั้งเจ้าพนักงานคณะหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายคือมีความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และส่งชื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานเพื่อไปปฏิบัติการ โดยยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอหมายมาตรวจค้น และดำเนินการกับเว็บไซต์นั้น แต่ขณะนี้ทุกเว็บไซต์ให้ความร่วมมือยังไม่ต้องถึงขั้นที่ต้องไปดำเนินการตรวจค้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--