รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำการปฏิรูปจะให้ก้าวหน้าและยั่งยืน ผู้นำต้องมีทัศนคติที่ดี พัฒนารูปแบบการทำงานแบบบูรณาการ และการบริหารราชการด้วย good governance (การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี)
วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 09.00 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ได้เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม "โครงการพัฒนาขีดสมรรถนะและวิชาชีพของกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ" ณ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อาคารวิทยกิตติ์
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาขีดสมรรถนะและวิชาชีพของกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติให้เกิดผลในทางปฏิบัตินี้ เกิดจากแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพข้าราชการให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ที่อยู่บนหลักการของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ. 2546 -2550 โดยมีเป้าประสงค์หลักประการหนึ่ง คือ การยกระดับขีดความสามารถและมาตรฐานการทำงานให้อยู่ในระดับสูงและเทียบเท่าเกณฑ์สากล (High performance) ซึ่งมี "คน" เป็นผู้ขับเคลื่อน ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ผู้ที่เป็นที่ปรึกษาที่พร้อมจะขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการให้เป็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าและยั่งยืน ต้องคำนึงถึงเรื่องหลัก 3 ประเด็นคือ มีทัศนคติที่ดี ร่วมกันคิดที่จะแก้ปัญหา เช่น ขณะนี้มีปัญหาเกี่ยวกับความซ้ำซ้อนของโครงสร้างและองค์กร รวมถึงการทำงานที่ขาดการบูรณาการ และสุดท้ายต้องบริหารราชการด้วย good governance (การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี) ซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริต และตรวจสอบได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 เวลา 09.00 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ได้เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม "โครงการพัฒนาขีดสมรรถนะและวิชาชีพของกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ" ณ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อาคารวิทยกิตติ์
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาขีดสมรรถนะและวิชาชีพของกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติให้เกิดผลในทางปฏิบัตินี้ เกิดจากแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพข้าราชการให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ที่อยู่บนหลักการของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ. 2546 -2550 โดยมีเป้าประสงค์หลักประการหนึ่ง คือ การยกระดับขีดความสามารถและมาตรฐานการทำงานให้อยู่ในระดับสูงและเทียบเท่าเกณฑ์สากล (High performance) ซึ่งมี "คน" เป็นผู้ขับเคลื่อน ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ผู้ที่เป็นที่ปรึกษาที่พร้อมจะขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการให้เป็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าและยั่งยืน ต้องคำนึงถึงเรื่องหลัก 3 ประเด็นคือ มีทัศนคติที่ดี ร่วมกันคิดที่จะแก้ปัญหา เช่น ขณะนี้มีปัญหาเกี่ยวกับความซ้ำซ้อนของโครงสร้างและองค์กร รวมถึงการทำงานที่ขาดการบูรณาการ และสุดท้ายต้องบริหารราชการด้วย good governance (การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี) ซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริต และตรวจสอบได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--