นายกรัฐมนตรีระบุอดีตนายกรัฐมนตรีพาต่างชาติไปดูวิธีการปลูกข้าวที่สุพรรณบุรี เพราะจะเปิดตลาดขายข้าวกับตะวันออกกลาง ส่วนกรณีรัฐมนตรีจักรภพฯ ถูกกล่าวหาต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ 08.30 น. นะครับ ก่อนจะเริ่มรายการมีกำหนดว่าผมจะพูดอะไร เขามีใบบอกมา 2 ใบ ขอให้ตอบก่อนตอนเริ่มรายการ เพราะถ้าเก็บไว้ตอนหลังเดี๋ยวจะไม่ตอบ ผมก็จะตามใจท่านผู้ที่ส่งเข้ามาแต่วัน
สื่อเสนอข่าวอดีตนายกฯ พาต่างชาติไปดูวิธีการปลูกข้าวที่สุพรรณบุรี
เรื่องการทำนาที่สุพรรณบุรี ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนั้น ไม่ทราบว่าที่ถามมานี่หมายความว่าอย่างไรครับ เพราะตามที่เป็นข่าว เป็นข่าวได้ขนาดนั้น หรือว่าทำไมถึงเป็นขนาดนั้น คือยังไงขนาดไหนก็สุดแท้แต่ บัดนี้เขาเข้าใจกันดีแล้วครับ คือจริง ๆ มีอดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) พาคนต่างชาติไปดูการทำนา ทำไมถึงไปดูตรงนั้น เขาเป็นโรงเรียนสอนการทำนา เขามีวิธีการสาธิต มีเรื่องควาย วิธีการดำอะไรต่าง ๆดำด้วยเครื่อง ก็พาไปดู เจตนาเขาบอกว่าเขาจะเปิดรายการขายข้าวทางตะวันออกกลาง แต่ข่าวออกมากลายเป็นว่าพรรคการเมืองเขาไม่ถูกกัน อดีตนายกรัฐมนตรีไปยุ่งกับทางนี้เขา แล้วไปไกลถึงขนาดว่าจะมาซื้อที่ดินปลูกข้าวทำอุตสาหกรรมเป็นข้าว ไปกันใหญ่เลยครับ ถึงขนาดว่ากล่าวกันว่าเป็นคนจะขายชาติกันเลย ข่าวก็ชั่วค่ำชั่วคืน เช้าออกมาก็ตกลงเป็นที่เข้าใจกันดีว่าไม่ใช่ เขาก็ยืนยันครับ นี่ละครับขอให้ดูว่าการเสพข่าวในสมัยนี้เป็นอย่างไร เจตนาเขาก็ทำแค่นั้นเอง จะทำยังไงได้ครับ ผมไม่อยากจะพูดอธิบายมาก เดี๋ยวบอกเป็นทนายอีกแล้ว เรื่องมันเท่านี้เอง คนที่อยากจะซื้อข้าวเขาก็อยากจะดู และมีโรงเรียนสอนการปลูกข้าว เขาไม่ได้ปิดบัง คนหน้าตาพวกนั้นก็ไม่น่าจะมาทำนาเลย เขาก็มาดู ข่าวออกมา ไปร้ายกาจถึงขนาดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนขายชาติ ด่ากันขนาดนั้นเลยครับ นี่ก็เคราะห์ดีท่านหัวหน้าพรรคชาติไทย (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ท่านออกมาจัดการ ท่านบอกท่านเข้าใจทุกอย่าง ถึงได้เรียบร้อยไป ผมได้ยินตอนตอบคำถาม เพราะว่าผมรู้คำตอบ
กรณีนายจักรภพฯ ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
ข้อที่ 2 เขาขับไล่จักรภพ (นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) กันทั้งบ้านทั้งเมืองไปป้องกันอยู่ทำไมคนเดียว ผมเองก็ จะให้ผมทำอย่างไรละครับ บ้านเมืองเรามีหลักเกณฑ์นะครับ เรียกว่ามีขื่อมีแป ใครจะนั่น เขาไม่ขับไล่กันทั้งบ้านทั้งเมืองละครับ มีคนพวกหนึ่งเขาต้องการจะขับไล่ คนพวกหนึ่งผมยืนยันได้ แล้วผมก็เป็นหัวหน้าเขาอยู่ แล้วผมก็ได้อ่านเอกสารของเขา ผมบอกอย่างนี้ต้องให้ตำรวจวินิจฉัย ถ้าขึ้นไปถึงอัยการถึงศาลได้ยิ่งดี ก็เท่านั้นละครับ พรรคการเมืองส่งเอกสารเข้ามา ผมไม่อยากจะย้อนถามว่าคุณเป็นศาลหรือ คุณวินิจฉัยเสร็จปั๊บ สั่งให้ผมจัดการเลย คุณเป็นศาลเหรอ อะไรกันนักหนาขนาดนั้นครับ ช่องทางเขามีอยู่ ทำเสียอย่างนี้สุด เขาจะพิจารณาตัวเขาเองอย่างไรสุดแท้แต่ เขารำคาญเต็มทีแล้ว แต่ว่าโดยแท้จริงนั้นต้องวินิจฉัยครับ ตำรวจเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ต่อไปก็เป็นอัยการ ต่อไปก็ถึงศาล พอคดีความถึงศาลก็มีกฎหมายมีอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ขนาดนี้ครับ รุนแรงนะครับ รุนแรงมาเลย พวกที่เขายื่นแก้รัฐธรรมนูญเขาก็โดนด่ารุนแรง พรรคประชาธิปัตย์ออกอะไรฉบับที่ 1 โอ้โหทำไมพูดจาว่ากล่าวคนที่ไปยื่น ทำหน้าทำตา เป็นคนเลวทรามต่ำช้าขนาดที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทำไมครับ ก็เขาฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปมุดหัวอยู่ไหนครับ ไม่มีใครมาพูดจาว่ากล่าวเลย เห็นไปยืนเขามือกุม ๆ อยู่กับเขา แล้วทีคราวนี้เขาจะปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิของเขานะครับ ยังไม่ทันจะอะไรกันเลยครับ โอ้โห ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 อย่างกับคณะปฏิวัติ อ่านถ้อยคำแล้ว ผมบอกพรรคการเมืองนี้เป็นเอามาก เวลานี้เป็นเอามากครับ แต่ก่อนก็พูดจากันมันต้องแก้ เดี๋ยวนี้บอกไม่แก้แล้วครับ ก็ไม่แก้ก็ไม่แก้ พูดซะให้ชัดเสียเลย ตรงนี้ไม่ได้มีคำถามหรอกครับ
คือเรื่องคุณจักรภพ ผมทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผมต้องให้ความเป็นธรรมเขา และผมเห็นว่าพรรคการเมืองพรรคฝ่ายค้านไม่ใช่ศาล ผมบอกแล้วถ้ามาผมยื่นวันนี้ ผมปลด มายื่นอีกกล่าวหาอีก ผมปลด มายื่น 35 วัน คณะรัฐมนตรีก็หมดเลย เอาหลักเกณฑ์หลักการอะไรมาครับ มีขั้นตอนมีกระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการอยู่ ผมก็ให้ความเป็นธรรม เพราะผมอ่านเอกสาร ผมอ่านทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ที่ถอดมา ผมอ่าน แล้วเรื่องพรรคนี้ถามผมบอก ไม่ ให้ตำรวจเขาดูสิว่าเป็นอย่างไร ต้องอย่างนี้สิครับ บ้านเมืองถึงจะอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองเก่าแก่ยื่นมาปั๊บ ต้องกลัวเกรง ไม่ละครับ ผมไม่กลัวละครับ ผมไม่เกรงด้วยถ้าทำแบบนี้ เริ่มประเดิมก็เอาอย่างนี้เสียก่อนแล้วกัน ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปที ไม่อย่างนั้นก็พูดกันอยู่นั่น ขนาดนี้บอกว่าทั้งบ้านทั้งเมืองเขาขับไล่จักรภพ เครื่องไหนวัดมาทั้งบ้านทั้งเมือง ก็พูดกันไปพูดกันมา ก็ดูแต่เรื่องข้าว เอาไปดูว่าเขาปลูกอย่างไร เขาตั้งใจจะซื้อ เขาจะเปิดตลาดตะวันออกกลาง กลายเป็นว่าคนพาไปขายชาติ มันบ้ากันขนาดนี้ครับ ตกลงเวลานี้อะไรมันชั่วข้ามคืน เอาละเอาเรื่องดูสิว่าผมไปแส่กับเขาด้วยเป็นยังไง
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ให้การต้อนรับ
ก็จะเริ่มต้นตรงนี้ก่อนครับวันที่ 22-23 พฤษภาคม ฟิลิปปินส์บอกว่าพร้อมก็ไปเยี่ยมได้ ก็เพื่อนบ้านครับ เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ เป็นประเทศที่ 8 ที่ผมไป ไกลที่สุดก็คือไปกรุงจาการ์ตา 3 ชั่วโมง ไปฟิลิปปินส์ 3 ชั่วโมง 25 นาที ไปก็เรียบร้อยดีครับ ท่านประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ (นางกลอเรีย มาคาปากัล อาโรโย) ก็ต้อนรับเรียบร้อย ผู้คนที่มารับรอง ก็เหมือนกับเป็นคนรู้จักคุ้ยเคยกันทั้งนั้น รัฐมนตรีที่มาประจำตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร (นายอาร์เธอณิ กัว ยัพ) ก็ได้คุยกันพูดจากัน มีพิธีรีตรองเรียบร้อย Malacanang ผมก็เคยไป แต่ไม่เคยได้ไปทำพิธีตรวจแถวอะไรกันเท่านั้นเอง ไปถึงเขาก็ให้ไปพบกับทีมไทยแลนด์ก่อน ซึ่งเป็นประโยชน์มาก คือจริง ๆ เขาบอกไปให้โอวาททีมไทยแลนด์ ผมบอกไม่มี ผมมาฟังทีมไทยแลนด์คุย ท่านทูตคุย ท่านทูตก็เก่งครับ บอกข้อมูลพื้นฐานอะไรเสร็จเรียบร้อย คุยทีมไทยแลนด์ ก็พบประชาชนคนไทย เสร็จเรียบร้อย คนไทยไปที่นั่นต้องกล้าหาญนะครับ ที่กล้าหาญเพราะว่ามีไต้ฝุ่นปีละ 20-24 ลูก ก็ได้อยู่ที่นั่นละครับ ต้องทำงานกันอยู่ที่นั่น โรงแรมที่พักก็ดี ดุสิตธานี ใหญ่โตมโหฬาร มีปั๊ม ปตท. อยู่ในมะนิลา ก็เป็นความภาคภูมิใจของเรานะครับ แต่ว่าทั้งหมดในนั้นคือว่า คนมะนิลาก็นินทาซะนิดหน่อย ขับรถขบวนนายกรัฐมนตรียังซิ่งเลย ปรู้ดปร๊าด ๆ ต้องใช้คำนี้เหมาะที่สุดเลยครับ ซิ่งทุกรอบเลยครับ
สนับสนุนการท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์
เสร็จเรียบร้อยมาถึงตอนเย็นไปตรวจแถวเสร็จเรียบร้อย ท่านประธานาธิบดีก็มานั่งคุย อันนี้ยาวเลยครับ คุยกันมากมายหลายเรื่อง ก็คุยกันเรื่องต่าง ๆ ท่านทูตก็ให้ข้อมูลพื้นฐาน เขาอยากได้เรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะว่าประเทศเขาปีหนึ่งมีคนไปเที่ยว 2 ล้านคน ประเทศไทยปีหนึ่งมีคนมาเที่ยว 15 ล้านคน ยังไงกันแน่ ก็ดูเรื่องสายการบิน เขาบินมาเรา 2 ลำ เราบินไปเขาลำเดียว ก็ยืนยันขอว่าขอการบินให้เพิ่มมากขึ้น ผมก็เลยสนทนากับท่านประธานาธิบดี ท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย นั่งรวมอยู่ด้วยกัน คุยกันชัดเจนเลยครับ เราก็บอกเลยว่าเรามีที่เรียกว่า sub-regent ทำหกอันมีจีนมาด้วย ซึ่งไม่ใช่อาเซียน ผมบอกถ้าฟังประธานาธิบดีแล้ว ผมคิดว่าควรจะนึกถึงอาเซียนด้วยกัน คือเรียกว่าเป็นแพ็คเกจทัวร์ ไม่ได้เอา 1-2-4 ตรงใกล้ ๆ เอาทั้งหมดเลย คือใครจะมาก็ได้อ่านเล่มเดียวกันเลย เล่มเดียวกันบอกเรื่องอาเซียน ใครมีอะไรดีต้องมาใส่ที่เดียวกันหมด คือเห็นแล้วอยากไปทุกประเทศ ทุกคนมีของดีของตัวเองอยู่ ฟิลิปปินส์เขาก็มีของดีครับ คุยกัน ผมก็ยกตัวอย่าง ๆ เกาะคอริจิดอร์ ที่นายพลแมคอาเธอร์เคยลุยน้ำบอกว่า I Shell Return น่ะละครับ คนอเมริกันเขาก็ต้องคิดถึงอันนี้ ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เขามีโน้นมีนี่มีอะไรต่ออะไรพอสมควร แต่ที่ดีของเขาที่ผมไปช่วยเขาคิดคือ เขามี Seafood เรื่องอาหารทะเลของเขายอดจริงๆ ครับ กั้งตัวเบ้อเริ่มเลย ของเราครึ่งเดียว ของเขาตัวเท่าตัว ท่านประธานาธิบดีบอกว่าลงไปทางใต้แถวมินดาเนาถูก มามะนิลาแพงหน่อย ผมบอกที่ผมเห็นกั้งตัวเดียวทำมาให้กินอยู่ในจาน 2 ตัวใหญ่ ผมเห็นกั้งถ้าเผื่อถอดเปลือกถ่ายสีให้เห็น แล้วผมในฐานะทำกับข้าว ผมบอกนี่เห็นได้ชัดเลยทำอย่างนี้ ถ้าทำแบบไทย สมมติทอดกระเทียมพริกไทยอร่อยสุดแล้ว 3 รสเปรี้ยวหวานสับปะรดก็อร่อยแล้ว เราทำหั่นสด ๆ ผัดฉ่าก็อร่อยแล้ว เห็นกับข้าวได้หลายอย่าง แม้กระทั่งสุดท้ายทำข้าวต้มกั้ง ก็ยังต้องน่าอร่อย
ก็คุยกับท่านบอกนี่ ผมอยู่บนโต๊ะอาหาร ผมเลยยกเป็นตัวอย่างให้ท่าน บอกนี่คือวัตถุดิบของการส่งเสริมการท่องเที่ยว บอกไทยก็ใช้อาหาร แต่ของเราเฉย ๆ แต่ฟิลิปปินส์ต้องใช้คำว่า Seafood และเขาก็มี มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวปีละ 20 ล้านคน มากกว่าไทยอีกครับ เขาบอกไปทำที่นั่น เพิ่มไปกว่า 5 ล้าน เขามีคาสิโน ฟิลิปปินส์มีคาสิโนแต่ไม่โฆษณา มี Casino Bereau of The Philippine มี 10 แห่ง ไม่โฆษณา ปล่อยหงอยเหงาอย่างนั้นธรรมดา เพราะเมืองนั้นเปลี่ยนสภาพศูนย์การประชุมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ สมัยก่อนนี้ตอนท่านมากอสอยู่ เขาเป็นศูนย์การประชุม ภรรยาเป็นนายกเทศมนตรี สามีเป็นประธานาธิบดี ขึ้นชื่อลือชาทั้งประเทศเขาใช้ภาษาอังกฤษได้ นั่นละครับก็คุยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย ตกลงกัน ผมก็บอกว่าผมจะช่วยสนับสนุน เพราะว่าส่งเสริมการท่องเที่ยว ถ้าเป็นแพ็คเกจ และถ้าตกลงกันได้ว่าถ้าเราเลือกนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวซำเหมา ถ้า stamp วีซ่าว่าเข้ามะนิลา ก็เข้ากรุงเทพฯ ได้ stamp กรุงเทพฯ ก็เข้ามะนิลาได้ 10 ประเทศอาเซียน อย่างทางยุโรปเขาเรียก เซนเกน เขาทางนี้ได้เข้าทางนั้นได้ ไม่ต้องไปไกลหรอกครับ ไม่ต้องพูดภาษาเดียวกัน เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้
ยินดีขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ในราคามิตรภาพ
ไปเพื่อนบ้านก็คุยกันครับ สุดท้ายก็คุยกันเรื่องข้าว ก็พูดจากันชัดเจนครับ ท่านบอกว่าอยากจะซื้อจากไทย ผมบอกผมยินดี แต่ผมบอกเลยเพราะท่านทูตก็บอกแล้วว่า เขาก็พอมียังพอกิน แต่เขาอยากจะซื้อที่ไม่แพงและผูกพัน 3 ปี เราก็ไม่อยากไปเซ็นสัญญาอะไรผูกพันอย่างนั้น ก็บอกเรื่องวิธีการให้ท่านเลย บอกว่าเรื่องซื้อขายอะไร ถ้าเผื่อซื้อกันเอกชนก็เป็นราคาตลาดธรรมดา แต่ว่าขอให้ติดต่อกับประเทศไทยในยามที่จะขาด อีก 3 เดือนจะขาด 6 เดือนจะขาด และต้องการเท่าไร จะกี่แสนตันบอกมาเลย มาเลเซียเราก็ทำลักษณะนี้ ให้ทูตกับทูตติดต่อกัน ไม่ต้องมาต่อรองราคา เราก็บอกราคามิตรภาพของเรามี นั่นก็เป็นอาเซียนด้วยกันก็พูดได้ เราก็ตัดสินใจว่าดำเนินการอย่างนี้ จะได้หมดเรื่องวิพากษ์วิจารณ์กันเสียที คือถ้าท่านอยากจะไปให้เขาประมูลอะไรกัน ก็ให้เอกชนไปสู้กันธรรมดา แต่ถ้าท่านจำเป็น ท่านจะไม่มี บอกมาเลย เราขายรัฐต่อรัฐให้ ก็ไปกันอย่างนี้ครับได้ประโยชน์ได้คุยกัน
มีข่าวถ่ายรูปมาลงหนังสือพิมพ์ว่าผมไปตลาด ก็ไปครับ เพราะว่าผมได้คุยกับสถาบันวิจัยข้าว International Rice Research Institute (IRRI) ขับรถออกไปชั่วโมงครึ่ง กลับชั่วโมงครึ่ง อยู่ที่ลอสบาญอส ผมก็คำนวณดูแล้วต้องลก ๆ ลั่ก ๆ ก็เลยบอกว่า เบอร์ 1 ก็ไม่อยู่ เป็นอเมริกัน เบอร์ 2 เป็นอังกฤษ เขายินดีจะเอาเอกสารทั้งหมดมาคุย บอกเหมือนกัน ไปที่โน่นกับที่นี่ ก็เลยยกมาคุยที่นี่ ก็ทุ่นครับ ผมอยู่ 1 ชั่วโมงกับสถาบันวิจัยข้าว คุยกันเรียบร้อย คุยกันละเอียด ผมบอกผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องสนใจต้องรู้ เพราะว่า IRRI ที่เขาเรียกว่า อีร์รี เป็นศูนย์การพัฒนาข้าว และคนไทยเราเรียกว่าไปสัมพันธ์อยู่กับที่นี่ หม่อมเจ้าจักรพันธุ์ เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ นักวิชาการการเกษตร เป็นแถวเลยครับ ชื่อคุณมีชัย วีระไวทยะ ยังไปอยู่ในบัญชีนั้นด้วยเลยครับ คือคุณมีชัยก็สนใจเรื่องข้าวกับเขาเหมือนกันนะครับ ก่อนหน้าจะมาสนใจเรื่องถุงยางอนามัย (Condom) ปรากฏว่าเขาดีครับ ท่านยกมาให้หมด ผมได้เอกสารมาปึ้งเบ้อเริ่ม แต่ที่น่าภูมิใจคือประเทศเราเป็นคู่คิดคู่สนทนาปรึกษาหารือกันกับ IRRI และเมื่อไม่นานนี้เขาทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เขาบอกว่าท่านทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องการเกษตรอย่างยิ่งเลย และก็คุยกับนายเบอร์ 2 เป็นอังกฤษ แต่อยู่ที่ IRRI มา 17 ปีแล้ว ปีนี้ IRRI ครบรอบ 50 ปี ปีหน้าจะครบรอบ 60 ปีสัมพันธไมตรีไทย-ฟิลิปปินส์ จะฉลองร่วมกัน ผมบอกเลยวันนี้มาเยี่ยมสถาบันซึ่งเป็นที่ที่ประสิทธิประสาทวิชาการให้
คือทั้งหมดเขามีเรื่องบาดหมางน้ำใจกันนิดหน่อยในอดีต คือเขาบอกว่าถ้าจะใช้พันธุ์ของเขาที่ออกไป ควรจะใช้อีร์รี แล้วเบอร์เท่าไร ในอดีตนานมาแล้ว ก็มีพันธุ์ที่ออกมา บังเอิญไปปลูกแล้วได้หอม หอมก็กลายเป็นต้นฉบับของข้าวหอมมะลิ ก็ตั้งชื่อว่าหอมมะลิ ก็ผิดข้อตกลง เขาก็ห้ามไม่ให้ใช้ชื่ออย่างนั้น ผมก็บอกผมเห็นด้วย ก็ควรจะนับถือเขาหน่อย เพราะเขาอยากจะใช้เบอร์ของเขา ชื่อของเขา ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องนี้ก็จบเรื่องกันไปนานแล้ว ผมก็รู้ตื้นลึกหนาบางเพราะท่านทูตท่านเป็นคนรอบรู้ ท่านก็ให้ข้อมูล ก็คุยกันเรียบร้อยดี มีเจ้าหน้าที่มาด้วย 3 คน ทั้งฟิลิปปินส์ทั้งอังกฤษ คุยเรื่องของข้าวที่นั่น ผมบอกว่ามีคนไปลงข่าว Herald Teribune ผมพูดพาดพิงเรื่อง Orec เขาเทียบกับ Opec เราไม่ได้คิด Orec ผมพูดว่าในบรรดาผู้ปลูกข้าวแถวเรียงกัน ตั้งแต่เวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย พม่า 5 ประเทศ น่าจะมาตกลงสนทนากัน คือเจตนาของผมต้องการเรื่อง คือข่าวมาจากเมืองจีนเรื่องไฮบริดจ์ ของเราแต่ก่อนเราปลูก 400 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อมา 500 กิโลกรัมต่อไร่ 800 ก็นับว่าเก่ง เดี๋ยวนี้ปลูกได้ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ จีนบอกปลูกได้ 2,000 กิโลกรัมต่อไร่
ผมต้องฟังหูผึ่งเลย ผมก็บอกอย่างนี้คนปลูกข้าวน่าจะมารวมตัวกันคิดหน่อย เพราะเราถูกเขาตำหนิว่าเอาที่ปลูกข้าวไปปลูกพวกพืชน้ำมันต่าง ๆ เลยทำให้ข้าวขายตลาด ความจริงเปล่าครับ ความจริงไม่ใช่เรื่องนั้นเลย ตกลงผมก็แสดงความเห็นเราน่าจะมาประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องว่า ยืนยันว่าเราปลูกในที่ที่ปลูกข้าว ไม่ได้ปลูกเอาไปปลูกพืชน้ำมัน แต่เราจะสนทนากันเรื่องหาพันธุ์มาปลูก ไทยเราก็เก่งจะไม่ปิดบังว่าปลูกแล้ว ไม่ให้นั่น แต่เขาบอกว่าต้องปิดบัง เขาไม่ให้พูด วิธีปลูกอย่างไรเขาไม่ให้พูด บอกว่าเป็นเทคนิคของส่วนตัวของแต่ละกันแล้วกัน ก็โอเค เมื่อเป็นอย่างนั้นเสร็จเรียบร้อย ผมพูดเพียงเท่านั้นละครับ มีคนไปต่อกันนิดหน่อยบอกถ้ามี Opec ก็ควรจะมี Orec เท่านั้นละครับ Herald Teribune ลงแล้วลงอีก บอกว่าอวดประณามนายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นหัวโจก จะทำเป็น Rice Cartel Cartel คือรวมหัวกันค้า กำหนดราคาเอง ชี้แจงเท่าไรก็ไม่ฟัง คนพวกนี้ประหลาดครับ เหมือนบางชาติ เกลียดอย่างนี้ เกลียดก็เกลียดไม่ฟังเหตุผล เกลียด ๆ ๆ พอด่า ๆ ๆ ๆ ผมว่าพฤติการณ์คล้ายกันหมด แล้วเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังมีพฤติการณ์คล้ายกันอย่างไร ตอนที่คุณบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ มา
ทีนี้ก็คุยกันเรียบร้อย คุยกันชั่วโมงหนึ่ง ผมก็พอมีเวลาเหลือ เราจะคุยกับเขาสิบโมงเช้า เราก็ขอไปตลาดหกโมงเช้า ก็ไปดูเชื่อไหมครับว่าทั้งหมดตลาดสดใน 10 อาเซียน เหลือเรากับฟิลิปปินส์ที่ยังตลาดสดกันเต็มที่ ของเราตลาดสดในกรุงเทพฯ เอกชนมี 165 รัฐบาลมี 51 ทั้งหมดมี 200 กว่า เก็บตลาดสดไว้ ชาวทันสมัยหน่อย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เอาใส่ Super Market หมดแล้ว ไม่มีหรอกครับตลาดสดแบบนี้ Wet Market , Fresh Market ก็ไม่มี แต่จะดูทีขับออกไปชั่วโมงหนึ่ง เหมือนไปดูตลาดไทของเราอย่างนั้น ตลาดขายส่ง นอกนั้นแล้วเข้ามาเข้า Super Market หมด ราคาก็เปลี่ยนแปลง มีแพ็คเกจยิ่งดี เพราะฉะนั้น เราเลยไปขอดู ตลาดเขาใหญ่ครับ ของวางกันเต็มแผง หมู เนื้อ ปลา ปลาน่าสนใจที่สุด ท่านปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ท่านไปด้วยครับ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญปลา โอ้โห เห็นตัวไหน ๆ ท่านชี้ได้เลย ปลานวลจันทร์เยอะเลยครับ ปลานวลจันทร์อยู่เต็มเลยครับ ตัวงาม ๆ ทั้งนั้นเลย ตัวขนาดพอดีจาน โต ๆ ก็มี แล้วก็หั่นมา และปลาบังเอิญมีก้าง เขารับถอดก้างด้วย เอาแหนบมาถอนเอาก้างออกด้วย ตัวหนึ่งคิด 20 เปโซ เขาดีครับ ปลา เรามีผู้เชี่ยวชาญไปด้วยยิ่งสนุกเลยครับ ตัวนั้นเป็นตัวนี้ ตัวนี้ตัวนั้น ตัวนี้อยู่ข้างใต้ ตัวนี้อยู่ข้างบน สถานทูตบอกว่าจะเลี้ยงข้าวกลางวัน ท่านทูตเลี้ยงข้าวกลางวัน ท่านทำอะไร ท่านจะทำสปาเกตตี้แบบคลุกเสร็จ และท่านจะมีอะไรนิด ๆ หน่อย ท่านบอกสถานทูตท่านอบขนมปังเอง กุ๊กไทยนะครับ กุ๊กปริญญา อบขนมปังเอง ทำอะไรต่ออะไรเอง ขนาด Thousand Island Dressing ก็ทำเอง ท่านจะเลี้ยง ผมบอกโอเค งั้นผมจะขอตอบแทน มีทีมไทยแลนด์อยู่ 10 คน สถานทูตมีคนกี่คนบอก 10 ผมจะทำกับข้าวให้กิน 20 คน ก็สนุกครับ ธรรมดาถามราคาเขาไม่เคยซื้อ คราวนี้ซื้อเลยครับ ไปจ่ายเสร็จเรียบร้อยเลย นักข่าวฟิลิปปินส์ก็พอกันครับ ขึ้นไปเหยียบบนเขียงหมูเขาจะถ่ายรูปผม ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ผมซื้อกับข้าวเสร็จ ผมก็ไปทำกับข้าวให้กิน ไม่ใช่อะไรแปลกนี่ครับ เขาเลี้ยงกลางวัน ผมทำผัดเส้นใหญ่ไม่ใส่ซีอิ้ว เจอเส้นฟิลิปปินส์ชื้นไปหน่อย ท่านทูตก็กรุณาไปซื้ออีกตลาดมาให้ ใส่ตู้เย็นไว้ บางอย่างถ้าร้อน ๆ ใส่ตู้เย็นเอาไปผัดดีครับ แต่เย็น ๆ ไปใส่ตู้เย็น มันเย็นมันแฉะ ก็กินกันได้เรียบร้อย เล่าให้ฟังเท่านั้นครับ ไม่มีอะไรพิเศษ พิสดาร และไม่มีอะไรที่ผิดปกติครับ ตามปกติเขาจะเลี้ยงเรา เราก็เลี้ยงเขาตอบหน่อยเท่านั้น ก็เดินทางกลับ เอาละครับเอาเรื่องนี้เพียงเท่านี้
ประเทศต่าง ๆ ส่งความช่วยเหลือแก่พม่า
ถัดไปจะเล่าเรื่อง ผมจะคุยเรื่องน้ำตอนท้ายให้ฟังหน่อย ก็เล่าเรื่องของการที่ไปยุ่งกับเขาเรื่องนี้คือว่า ผมไปเยี่ยมพม่า และพม่ามาเยี่ยมผม ผมก็ไปประชุมที่เมืองลาว ไปถกเถียงกันหน่อยเรื่องอะไรต่ออะไร เรื่องเขาจะไม่ให้พม่าเป็นเจ้าภาพ ผมก็ไปบอกแล้วไปเชิญเขามาทำไมกัน 6 ประเทศเชิญเขามา จะไม่ให้เขาเป็น ตกลงเขาจะลงกัน 6 ประเทศ นายกฯ 6 ประเทศลงมติบอกพม่าอีก 3 ปีคุณเป็นเจ้าภาพ คุณก็ว่าอย่างไร ก็คุยกันดี ท่านกลับมาเยี่ยมผม กินข้าวที่บ้าน คุยกันใกล้ชิด ก็เป็นประโยชน์ตรงที่ว่าเกิดเหตุนาร์กีส ท่านก็บอกเลยว่าที่จริงไม่คิดว่าจะเข้าทางยะไข่ มีภูเขาอยู่สูง 3,000 ฟุต โดนภูเขา พอลงมาต่ำหน่อยเข้าอิรวดี ใครจะคิดมาเวลาดึกดื่นขนาดนั้น พายุนี่ หมุน 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เคลื่อนที่ช้า 13 ชั่วโมงกว่าจะพ้นออกไป เพราะฉะนั้น ก็อาการหนักเลย ผมไปก็ไปเยี่ยมไปฟังไปฟังความดู คนนั้นก็ฝากข่าวไป ท่านเลขาธิการก็ฝากข่าวไป ผมบอกผมอยากให้ท่านเลขาธิการสหประชาชาติมา จะได้เป็นตัวแทนจะได้มาเห็นอะไรต่ออะไร และท่านทูตอเมริกันที่กรุงเทพฯ ก็อยากจะมาดู เขาบอกเชิญ ผมบอกไม่ต้องเชิญก็ได้ ถ้าเขาขอวีซ่าให้เขาก็แล้วกัน ท่านก็จะคิดดูหน่อย ไป ๆ มา ๆ ก็ตกลงว่าเชิญให้เข้าไปเยี่ยม ทางอเมริกันยังไม่ให้ไป แต่ให้สหประชาชาติเข้าไป คุณบัน คี มูน แล้วก็เปิดประตู เขาจะนัดกันประชุมที่กรุงเทพฯ เรื่องที่เกี่ยวกับคนที่นั่น 40 ประเทศที่เขาช่วย
ปรากฏพม่าบอกไปประชุม วันนี้ที่ทำเนียบประชุมอยู่ที่แลงกูล คุณบัน คี มูน ก็ได้ไปเยี่ยม วันที่ 21 พฤษภาคมท่านมา แล้ววันที่ 22 ก็ไปอยู่พม่า ไปดูไปเจรจาความ ก้าวหน้านะครับก็กลับมาเล่าให้ฟัง รุ่งขึ้นกลับมาก็ไปเมืองจีน ไปเช้าเย็นกลับ ไปดูมาเหนื่อยเลยครับ พอเสร็จเรียบร้อยลงจากเครื่องบิน ก็ลงเครื่องบินฟากกะโน้น บน. 6 ผมนั่งอยู่ทางวีไอพี ก็มาเจอกัน ท่านเลขาธิการอาเซียน คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นไทย มาด้วยกัน คุยกับคุณสุรินทร์หน่อย ประเดี๋ยวท่านเลขาธิการมาก็เจอ 2 เลขามานั่งอยู่ด้วยกัน เขาก็ทำพิธีว่าคนนี้ไปก่อนไปตั้งรอ นายกฯ ไทยไปสุดท้าย เขาขอมาครับ ผมบอกผมต้องให้ ไม่มีปัญหาที่ว่างอยู่ โกดัง 3 ใหญ่ทันสมัยเลยครับ เครื่องบินจอดหน้าโกดังเลย แล้วเราก็ให้ความสะดวก เรื่องนี้ผมต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องให้ความร่วมมือกัน ทางสหประชาชาติ คุณบัน คี มูน ก็คุย คุณสุรินทร์ก็คุย เสร็จเรียบร้อยก็ไปเดินดู
ตรงนี้ที่ผมต้องนินทาคนทำ ทั้งนักข่าวทั้งหลายทั้งปวง ไม่รู้จะพูดยังไงถูก เขาบอกต่อไปเชิญท่าน 2 เลขาธิการและนายกรัฐมนตรีไทยก็ไปเดินดูตรวจของที่กองมา คนส่งมาก็มาเก็บเป็นศูนย์ที่นี่ จะทยอยขึ้นเครื่องบินไปพม่าทุกวัน อย่างนี้ถ้า 3 คนเดิน และข้างหน้ามีคนโค้งและถ่ายแป๊บๆ และไปแหวกหน่อย เขาให้ไปดูของครับ นี่ยิ่งเดินไปยิ่งเดินไปก็ยิ่งแน่นขึ้น ๆ มีแต่นักข่าวอยู่ข้างหน้าโค้งเป็นสระอิ และถ่ายรูปแว๊บ ๆ เข้าตา ห่างประมาณ 2-3 เมตร เขาจะให้ไปดูของ กล้องแทนที่จะหันของกับเราที่ไปดู จะถ่ายข้าง ๆ ว่าทั้ง 3 คนไปยืนเอามือไขว้หลังตรวจดูของดูอะไรต่ออะไร มีแต่นักข่าวอยู่ข้างหน้า ถ่ายแว๊บ ๆ ถ่ายแฟลชเข้าไป ผมก็ต้องเสียกิริยามารยาทละครับ ไม่รู้ว่าจะเสียอย่างไร ผมบอกนี่พ่อคุณขอให้แหวกออกไปหน่อย เขาจะให้ถ่ายของข้างหน้าให้คนไปดู แล้วมาอยู่ถ่ายอย่างนี้ นักข่าวฝรั่งมี 2-3 คนเท่านั้น นอกนั้นไทยทั้งนั้น แต่ฟังภาษาไทยไม่ออก ไม่รู้ไม่ชี้เลยครับ ถ่ายกันอยู่นั่น ขึ้นเสียงไปอีกก็กลายเหมือนว่าคนอันธพาลไปเที่ยวว่าเขา ไม่รู้จะทำยังไง เขาพาไปดูใต้ท้องเครื่องบิน ข้าวของที่จะเก็บไว้ มองไม่เห็นข้างบนใต้เครื่องบิน ไปอยู่ใต้ท้องเครื่องบินมองขึ้นไปนักข่าวทั้งนั้น ถ่ายรูปกันแว๊บ ๆ ๆ อะไรกันนักหนา ผมบอกนี่คุณแหวกออกไป แหวกออกหน่อย เขาจะดูของว่าใส่เครื่องบินใส่ได้เท่าไร น้ำหนักเท่าไร คนจะอธิบาย พูดไปเถอะข้างบนถ่ายแต่แฟลช ไหวไหมครับอย่างนี้ จำเป็นต้องพูดไหม ต้องพูดครับ ใครเป็นบรรณาธิการ ใครเป็นนั่น ก็สั่งสอนนักข่าวเสียบ้าง สั่งสอนช่างภาพเสียบ้างว่าควรจะทำอย่างไร ถ่ายคน 3 คนเดินถ่ายได้ไหม ต้องแหวกออกไปเขาจะดูอะไร ต้องถ่ายจากด้านข้างให้เห็นคน 3 คนเดิน ให้เห็นของ มันถึงจะภาพออกมาว่ายังไง นี่จะเอาแต่คนเดินหน้าแล้วถ่ายเข้าตาทั้งนั้น ไม่ว่ากันตอนนี้จะไปว่ากันตอนไหน ไม่ว่าวันนี้จะว่าวันไหน เพราะเหตุเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ เป็นอย่างนี้ละครับ แก้ตัวมาสิว่ายังไง ที่ทำถูกต้องหรือไม่ ไม่ถูกหรอกครับ ผมขายหน้าเขาตรงที่ว่าผมต้องขึ้นเสียงต่อหน้าเลขาธิการสหประชาชาติ ต่อหน้าท่านเลขาธิการอาเซียน คนไทยด้วยกันเองไม่เป็นไร ท่านคงรู้นิสัยผม ไม่ไหวนะครับ ไม่ไหวจริง ๆ รุมกันยุ่บยั่บ ๆ คือจะถ่ายภาพเอาแต่ตัวคนออกไป บรรยากาศเป็นไงครับ คนกับเครื่องบินเดินไปดูชี้ของ เขาจะขนเข้า เจ้าหน้าที่เขาอธิบาย ถ้าถอยไปไกล ๆ แล้วถ่าย ซูมก็มี ได้ภาพได้อะไรชัดเจน ไปกั้นไปทำคอกเข้าก็กลายเป็นไม่มีประชาธิปไตยบ้านเมืองนี้ พอปล่อยเข้าก็เป็นอย่างนี้ละครับ รุมกันเหมือนกับว่าเจอเหยื่อแล้วต้องเอากันให้ได้ ต้องถ่ายกัน ก็พูดซะคราวนี้ครับ นายกฯ ประเทศอื่นเขาไม่พูดหรอก แต่นายกฯ ไทยต้องพูด ให้รู้เสียบ้างว่าอะไรเป็นยังไง เพราะว่าเต็มทีแล้วครับบ้านเมืองนี้
การทำประชามติเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ
เสร็จแล้วก็อยากจะพูดซะตรงนี้หน่อยว่า เรื่องที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ผมบอกแล้วว่าผมจำเป็นจะต้องดำเนินการเพราะว่าเขายื่นมา ตกลงแบ่งกันแล้ว แต่เขายังดำเนินการ เขาจะยื่น พอยื่นเสร็จเขาจะปลุกระดม วันนี้จะปลุกระดมจะล่อกัน แล้วผมจะทำยังไง ผมก็ต้องดำเนินการ ต้องขอบคุณอาจารย์สุขุม นวลสกุล เมื่อเช้านี้ทางช่อง 3 เขาเอามาเลย 4 ข้อ ท่านบอกข้อ 1 ข้อ 2 เข้าแล้วใช้ได้แล้วถูกต้องแล้ว ขอบคุณมากเลยครับ ผมไม่ต้องไปทำรายละเอียด เรียบร้อยครับ แล้วทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ท่านก็คิดว่าต้องมีกฎหมายต้องอะไร คราวที่แล้วโยงใยมาจากว่า รัฐธรรมนูญมาเสร็จแล้วให้ลงประชามติ อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนั้น กำลังนี้กฎหมายประชามติ ของเราผมจำได้ว่าเคยมี กำลังจะให้เขาดูว่ามี ไม่มี ถ้าไม่มี ก็ออกพระราชกำหนด ไม่มีปัญหาครับ ออกพระราชกำหนดไม่ต้องเลือก บังเอิญคราวนี้เกี่ยวกับเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ แต่มันไม่ต้องไปเข้าอะไรกับใครหรอกครับ ลงประชามติอย่างเดียวว่าแก้หรือไม่ เท่านั้นละครับ จะได้แบ่งฝ่ายกันเลย ถ้าบอกว่าไม่แก้ ก็ไม่ต้องแตะต้อง ทิ้งไว้อย่างนี้ เพราะประชามติว่าอย่างนั้น ถ้าบอกแก้ ผมให้เวลา 45 วัน หากเดือนครึ่งรณรงค์กันเลยครับ ใครจะบอกเลวดีเลวยังไง ทำไมถึงจะต้องแก้ เป็นยังไง เขย่งยังไง ต่างคนต่างหันมาสู้กันเลยครับ สู้กันในทางความคิด แล้วชวนประชาชนไปโหวตเลยว่าแก้หรือไม่แก้ ถ้าเขาบอกแก้ แก้ยังไงก็ไปว่ากันอีกที ก็อยู่ที่จำนวนคนแก้เขาเป็นคนวินิจฉัย ถูกต้องตามกฎหมาย มาด้วยการเลือกตั้ง มาด้วยการแต่งตั้ง เขาถูกต้อง คนทั้งหมดละครับ 150 บวก 480 และเขาก็มีกำหนดไว้เสร็จว่าจะแก้อย่างไร อธิบายให้ชัดเจนซะนะครับ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร จะทำไม่ได้ โน่นไม่ได้ยังไง ผมอยู่มะนิลาเขาโทรศัพท์ไปบอกข่าว เขาบอกว่าก้าวก่าย รัฐบาลก้าวก่ายสภา บอกจะออกพระราชกำหนดวินิจฉัย เขาบอกสภายื่นแล้ว เอาเถอะว่าไปเถอะ สภาเขาไม่มีสตางค์มาจัดการทำเรื่องพรรค์อย่างนี้ รัฐบาลเป็นคนทำ ประชามติต้องรัฐบาลเป็นคนตัดสินใจดำเนินการ เข้าใจเรื่องซะแล้วก็ปล่อยตามสภาพ ให้เดินหน้าไปตามธรรมชาติบ้าง
โครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขงเพื่อการเกษตรในภาคอีสาน
ทีนี้จะคุยให้ฟังเรื่องที่ว่าผมกำลังจะประชุมเรื่องน้ำ และโครงการต่าง ๆ ทำไว้แล้วหลายเล่มเรียบร้อยครับ ผมก็ส่งไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต่าง ๆ ที่จะได้ช่วยกันออกความคิดเห็น ได้ช่วยกันแสดงความเห็นต่าง ๆ มา ถึงจะเล่าให้ฟังได้ว่าตกลงจะทำอย่างไรน้ำเอามานี้ อย่าลืมนะครับมีผู้ช่วยศาสตราจารย์เขียนลงหนังสือพิมพ์ว่า เรื่องผันน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรในอีสานเพียงแต่คิดก็โง่แล้ว ผมก็จำคำนี้ไว้เลยครับ ลงในหนังสือพิมพ์ เพียงแต่คิดก็โง่แล้ว ผมต้องยอมโง่ครับ เพราะว่าเราอยากจะได้น้ำมาเพื่อการเกษตรทางภาคอีสาน นาภาคอีสานนั้นนาน้ำฝนเท่านั้นนะครับ แล้วน้ำที่มีนี้ สภาพทางภูมิศาสตร์ก็แสดงให้เห็นว่าเขื่อนใหญ่อยู่ทางตะวันตก และ...ที่รับน้ำใช้อยู่ทางตะวันออก มีแม่น้ำสองสาย แม่น้ำพองเป็นแม่น้ำเล็ก แม่น้ำชีเป็นแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำมูลเป็นแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำชีกับแม่น้ำมูลไปเจอกันก่อน ถึงตรงนั้นก็ออกไปทางยโสธร ออกไปที่อุบลราชธานี ฝั่งวารินชำราบไปนั่น แล้วก็ออกไปที่โขงจียมลงแม่น้ำโขง สภาพของมันน้ำอยู่ตะวันตกไหลไปลงตะวันออก ไหลลงแต่มีไม่มากพอ แม่น้ำโขงนี้ประเทศไทยหันหน้าขึ้นไปจังหวัดเลย พอเลยก็ผ่านไปอุดรธานี ผ่านหนองคาย แล้วก็โค้งไปก็ลงมาถึงอุบลราชธานี จำง่ายครับ เลยถึงเวียงจันทน์ หนองคาย แล้วลงไปมาโค้งมาอุบลฯ มุกดาหาร เดี๋ยวก็โขงเจียมแล้วเข้าเขมรไป เส้นทางยาว 700 กิโลเมตรครับแม่น้ำโขงที่สัมผัสประเทศไทยอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องคิดครับ วันนี้จะคิดให้ฟังว่า ยืดยาดไหม ไม่ยืดยาดหรอกครับ เราตัดสินใจเซ็นชื่อกับลาวไปแล้วด้วย
คิดอะไรครับ คือเริ่มต้นก็อยากจะให้ผันแม่น้ำโขงเข้ามาในของเรา โบราณจริง ๆ ที่ท่านพลตรี ถวิล อยู่เย็น เล่าให้ฟังไว้ก็คือว่าที่ปักลายห่าง 29 กิโลเมตร มะม่วง 7 ต้นบ้านเรา ไปดูมาแล้วไปตรวจมาแล้วตั้งแต่เป็นรองนายกรัฐมนตรี น้ำจะขึ้นสูงทั้งหมด 15 — 20 เมตร เลยจากปกติ 3 เมตรก็จะเข้าอุโมงค์ วิ่งตลอดมา 29 กิโลฯ มาออกน้ำปาด ปล่อยธรรมชาติเข้าน้ำปาดก็จะลงเขื่อนสิริกิติ์ นี่เป็นเบื้องต้นเลยครับเอาน้ำโขงมาใส่ทางนี้ น้ำสาละวินใส่เขื่อนภูมิพลจะพูดกันทีหลังวันหลัง แต่วันนี้จะพูดถึงอีสาน ซึ่งความคิดที่ได้รวบกันมาทั้งหมดแล้วก็เล่าให้ท่านฟังได้วันนี้เพื่อเป็นความหวังว่า จะดำเนินการได้ แรกที่สุดคือว่าที่จังหวัดเลย ที่เชียงคานระดับน้ำธรรมดามี 214 เขาเอาเวลาที่เหลือน้อยที่สุดเอา 194 ตรง 194 นั่นละครับถอยออกมาตรงเขื่อนอุบลรัตน์ ยาวประมาณสัก 80 กว่ากิโลเมตร ก็มีคนเห็นด้วยละครับเปิดทางให้น้ำแม่น้ำโขงเข้ามาในประเทศไทย แล้วจะวิ่งใต้อุโมงค์ที่จะขุดประมาณ 80 กิโลเมตร ไม่ต้องไปสร้างอ่างอื่นอะไรครับ ลงเขื่อนอุบลรัตน์ ส่งเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ แล้วจากเขื่อนอุบลรัตน์จะมีน้ำที่จะสูงขึ้นมากขึ้น จะส่งออกไปลงไปยาว ลงไปถึง ที่จริงจะหวังน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ เข้ามาที่ลำตะคอง บัดนี้จะมาใกล้ลำตะคอง มาแถวด่านขุนทด หลวงพ่อคูณ แล้วจะสูบขึ้นเพียง 30 เมตร สูบเดียวเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นถ้าน้ำผ่องถ่ายมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ มาถึงด่านขุนทดแล้วก็จะยกระดับขึ้น 20 — 30 เมตรเท่านั้น สูบหนเดียวเท่านั้นครับ ก็จะส่งลงลำตะคอง แล้วพอลำตะคองน้ำมากขึ้นก็ธรรมดา คือมาจากเขาใหญ่ลงธรรมดาแล้ว น้ำลำตะคองจะเป็นต้นน้ำมูลสายหนึ่ง คือเป็นน้ำที่ส่งไปเลี้ยงโคราช และจากโคราชก็จะเลี้ยวไป ไปเชื่อมกับน้ำมูลที่ลงมาจากสายน้อยสายใหญ่ ทางลำพระเพลิง
คำอธิบายง่าย ๆ อันนี้คือว่าเอาน้ำจากเหนือจังหวัดเลยคือที่เชียงคาน เข้ามาในประเทศไทย แล้วเข้าอุโมงค์ แล้วจะส่งมาลงที่เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนอุบลรัตน์นั้นส่วนหนึ่ง คือเขื่อนอุบลรัตน์ถ้าเปิดออกไปแล้วลงน้ำพองแล้วก็จะเข้าน้ำชี และจะเข้าทางอีสาน นี่ส่วนหนึ่งครับแล้วยังเอื้อเฟื้อได้อีกคือลงมาจนกระทั่งถึงด่านขุนทด แล้วก็ยกระดับเพียง 20 — 30 เมตร ก็จะส่งลงลำตะคอง ก็จะเป็นต้นน้ำที่จะส่งไปให้น้ำได้เลี้ยงทางอีสาน ทางโคราช ที่เป็นน้ำบริโภคน้ำใช้
ถัดไปคือว่าที่น่าสนใจจริง ๆ อันนี้ธรรมชาติมีอยู่แล้วครับ ที่โพนพิสัยมีประตูน้ำที่ทำเอาไว้แล้ว น้ำโขงถ้าขึ้นธรรมดาถ้าวัดจากหนองคายที่ผมจำได้ง่าย ๆ คือ 12 เมตรอยู่แปะแม่น้ำ 13 เมตรท่วมของหนองคาย 1 เมตร ธรรมชาติเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อตรงโพนพิสัยเขาก็ทำไว้ ถ้าน้ำเต็มแม่น้ำละก็จะเกินอยู่ถึง 6 เมตร เขาทำประตูไว้แล้วเรียบร้อยครับ แต่ทำไว้แล้วให้น้ำเข้ามาไม่ได้ เพราะว่าที่ดินที่น้ำจะเข้ามานั้นยังไม่ได้ตกลงกันเรื่องว่าจะจ่ายค่าเวนคืนอะไรอย่างไร ที่เอกชนจะต้องที่รับน้ำ ผมก็บอกได้ทันทีเลยว่า น้ำแม้แต่ตอนนี้จะไม่ขึ้นมา 6 เมตรล้ำกว่าธรรมดา เพราะมีเขื่อนที่จะเฉลี่ยน้ำให้ต่ำกว่าธรรมดา น้ำหน้าน้ำมันจะต่ำกว่า ก็จะตกลงกันเรื่องกรรมสิทธิ์ของที่ดินข้างหลังนั้น รัฐบาลต้องลงไปดูแลครับ เพราะน้ำถ้าปิดประตู ธรรมดาถ้าน้ำเต็มเปิดประตูน้ำจะเข้ามาเต็มหมดเลยครับ เข้าเต็มหมดเลยถ้าปิดประตูแล้วน้ำแม่น้ำโขงต่ำ มันก็อยู่เต็ม แล้วน้ำนี้ไปได้ถึงลำปาว ไปได้ถึงลำปาวเข้าไปข้างในเลยครับ เรื่องนี้น่าสนใจมาก เราก็เลยตั้งใจไว้เลยว่า แม้ว่าน้ำจะไม่ล้นเหมือนอย่างแต่ก่อนเพราะว่าจีนทำเขื่อน 3 เขื่อนอยู่ข้างบน แต่น้ำที่เคยแล้งนั้นจะไม่แล้ง เพราะว่ามีเขื่อนแล้วจะทำให้น้ำซึ่งเคยแล้งแห้งเดินข้ามนั้นเดินข้ามไม่ได้ จะมีน้ำเหมือนกับที่ทางเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก สมัยก่อนหน้าแล้งเดินข้ามได้ แต่พอมาสมัยนี้มีเขื่อน ทุกวันน้ำต้องปล่อยจากเขื่อน ต้องทำให้ไฮโดร ต้องทำทุกวัน ปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เพราะฉะนั้นน้ำจะต้องติดท้องแม่น้ำตลอด แม่น้ำโขงก็อยู่ในลักษณะนี้
ไทย-ลาว ตกลงร่วมมือในโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขง
ทีนี้เราก็ตกลงว่าถ้าจะทำง่าย ๆ ที่สุดคือประตูน้ำปิดแล้วสูบเลยครับ ขึ้นมาใกล้เท่าไรแล้วต้องสูบลง แล้วตกลงเรื่องที่ แล้วน้ำจะเข้ามาถึงลำปาว นี่บริเวณแสดงให้เห็น แต่ที่น่าสนใจที่สุดนั้นที่จะอธิบายต่อไปนี้คือว่า จีนทำเขื่อน 3 เขื่อน 1 — 2 -3 ไม่ใช่เพื่อการเกษตร เอาน้ำทำไฟฟ้าทั้งนั้นเลย แปลว่าทำไฟฟ้าก็ต้องปล่อยตลอด เพราะฉะนั้นน้ำจะต้องอยู่หลังเขื่อนเต็มอยู่ กักอยู่ แล้วเขาก็ปล่อยลงมา เมื่อปล่อยลงมาแล้วน้ำของเราซึ่งหน้าน้ำมีมาก บัดนี้หน้าน้ำก็จะมีไม่มาก แต่ว่าจะมีน้ำตลอดทั้งปี เป็นประโยชน์ครับ เพราะฉะนั้นถ้าจีนทำลักษณะนั้นได้ ไทยกับลาวก็ตกลงกันสองฟาก ลาวติดแม่น้ำโขง 1,400 กิโลเมตร ไทยติดแม่น้ำโขง 700 กิโลเมตร บัดนี้ไทยกับลาวก็จับมือกันแล้วแน่นอน เราไม่เรียกเขื่อนครับ เขื่อนเป็น Dam แต่อันนี้ถ้ากันข้าง ๆ เขาเรียก Levee (เขื่อนกันน้ำท่วม) ตัวนี้ธรรมดาถ้าเป็นน้ำเป็นลำธารกั้นพัวะลงไปเขาเรียกว่า Check Dam ก็เรียกว่าฝายแม้ว Check Dam นี้ถ้ามีน้ำอยู่ข้างบนแล้วถ้าเผื่อไม่มีกันไว้ มันตกลงมาก็ไหลหมด พอกันไว้ ต้องพูดถึงห้วยฮ่องไคร้(ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริห้วยฮ่องไคร้) ที่ดอยสะเก็ด อยู่นอกเชียงใหม่ออกไปหน่อย แต่ก่อนเป็นภูเขา ต้นไม้มีหรอกครับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า ตรงนี้ถ้าใส่กันไว้ตรงนี้ก็จะมีน้ำเป็นอ่างเก็บน้ำข้างบน แล้วน้ำค่อย ๆ ปล่อยลงมา ปล่อยเป็นลำธารออกไปหมด อาบทั้งหมด ถ้าปล่อยอาบก็โชกก็หายหมด เขาก็ทำ Check Dam เป็นลำธาร ๆ ๆ แล้วก็เป็น Check Dam ซึ่ง Check Dam แปลว่าน้ำถอยหลังครับ แล้วก็โดนล้นลงมาก เพราะฉะนั้นน้ำจะไหลช้าลง แล้วจะได้ใช้ประโยชน์
ห้วยฮ่องไคร้กลายเป็นที่เขียวชอุ่มไปทั้งภูเขาทั้งหมด ก็เป็นโรงเรียน โรงเรียนเหนือคือห้วยฮ่องไคร้ โรงเรียนตะวันออกเฉียงเหนือก็อยู่ที่สกลนคร โรงเรียนภาคกลางอยู่เขาหินซ้อน ฉะเชิงเทรา โรงเรียนภาคใต้อยู่ที่ทางใต้ โรงเรียนที่คนจะต้องศึกษาก็ไปดูไปเรียน ก็มีสอนทุกอย่างอยู่ในนั้น สอนเป็นตัวอย่าง เพราะฉะนั้นวิธีการที่คิดคือว่า Check Dam คือฝายแม้วกั้นแล้วน้ำถอยหลัง แล้วก็ใช้แล้วล้นลงมา บัดนี้ไทยกับลาวตกลงกันแล้วครับ ว่าแม่น้ำโขงเมื่อกั้นแล้วให้น้ำถอยหลังแล้วน้ำจะล้นลงไป แปลว่าแทนที่จะไหลลงไปถึงผ่านเขมร ผ่านเวียดนาม แล้วลงทะเลหมดนั้น บัดนี้กักไว้ใช้ คือเป็น Check Dam แต่จะเป็น Check Dam อยู่ในแม่น้ำโขง ล่างสุดนั้นอยู่ที่บ้านกุ่ม อุบลราชธานี ที่ตกลงไว้แล้วเซ็นสัญญากันแล้วด้วยครับ กำลังทำทฤษฎี study ก็คือจะทำ Check Dam อันนี้สูงขึ้นมา 18 เมตรครับ เขื่อนใหญ่ ๆ สูงมโหฬารต้องเป็นตัว V อย่างนี้เขื่อนถึงจะใหญ่อย่างนี้ เขื่อน Hoover เขาเรียกเป็นออบ เป็น Gorge อย่างของจีน Three Gorgeous เขาเรียก 3 ผา ความจริงต้องเรียกว่า 3 หลืบ เป็นหลืบน้ำเข้ามาเขื่อน 3 หลืบ
ทีนี้ตัวนี้ของเราแม่น้ำโขง ถ้ามาจากสูง ๆ ผมเคยนั่งเรือลงจากจิงหง คือสิบสองปันนา นั่ง 12 ชั่วโมงมาเชียงราย 280 กิโลเมตร ตอนนั้นเป็นที่เรียกภาษาฝรั่งว่า Socket คือสูงขึ้นไปเป็นตัว V ป้านอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นน้ำแม่น้ำโขงเวลาน้ำมากจะขึ้นจากพื้นธรรมดา 15 เมตรขึ้น 20 เมตรเป็นพิเศษ มันขึ้นขนาดหนัก จีนก็เลยทำเขื่อน 3 เขื่อน แต่เป็นเขื่อน Hidro คือไฟฟ้า ต้องปล่อยน้ำตลอด ดันไฟฟ้าก็ปล่อยน้ำตลอด เพราะฉะนั้นน้ำหน้าน้ำมันถูกเก็บไว้ แต่ถ้าน้ำต่อมาไม่ปล่อย ต้องปล่อยต้องเดินไฟ ไม่อย่างนั้นต้องออก Spillway ก็ทำให้น้ำหน้าแล้งซึ่งมันจะไม่มีนั้นมีครับ มีน้ำมากเดินเรือได้ด้วย ลงมาข้างล่าง เมื่อวันก่อนผมไปประชุมที่ลาว ผ่านสะพานข้ามสะพาน ผมนั่งรถไปครับ ข้ามดูกำลังจะสงกรานต์ ถ้าตอนสงกรานต์นี้เดินข้ามฟากเลยครับ แต่น้ำมี น้ำมีพอเล่นสงกรานต์ได้เลย ก็แสดงว่าที่กรมชลประทานเล่าให้ผมฟังนั้นเป็นความจริงแน่นอนว่ามีเขื่อนแล้วทำให้มีน้ำ ไม่ใช่มีเขื่อนแล้วน้ำหมด
เล่าให้ฟังตรงนี้คือว่าบัดนี้เราตัดสินใจแล้วครับ เราจะทำ Levee ขวางแม่น้ำโขง ไทยกับลาวจะทำ 3 จุด จะมีที่บ้านกุ่ม จะมีที่โพนพิสัย แล้วก็จะมีที่อีกแห่งหนึ่ง ผมนึกชื่อไม่ออก 3 ชื่อครับ จะมีนี่กัน สูงไม่มากครับสูง 18 เมตร ตรงบ้านกุ่มตรงโน้นลาวตรงนี้ไทย เป็นตัวเหมือนกับคราวฝายแม้ว 18 เมตร สูง 18 เมตรจะทำให้น้ำจากสันเขื่อนถอยหลังไปยาวที่จะเต็มลำแม่น้ำโขง เต็มตลอดครับ 110 กิโลเมตร ฝายแม้วกั้นลงไปก็ถอยยาวไป ปลูกหอมปลูกกระเทียมหมดกั้นลงไป คือข้างบนถอยลงมา น้ำไหลตะแคง น้ำแม่น้ำโขงไหลลงเสมอไม่มีไหลขึ้น เพราะฉะนั้นใส่ Check Dam ลงไปปั๊บที่บ้านกุ่ม ถอยหลัง 110 กิโลเมตร ทางลาวบอกว่าท่วมหมู่บ้านลาว 7 หมู่บ้าน แต่ช่างมันเถอะ ทางไทยท่วม 2 ลาวท่วม 7 นายกรัฐมนตรีลาวบอกตกลง 7 กับ 2 ท่วม แต่เราได้ใช้น้ำแน่นอน น้ำจะอยู่ถอยหลังไป 110 กิโลเมตร นี่อันแรกครับ
อันที่สองจะอยู่ที่โพนพิสัย ก็จะถอยบ้าง อันนี้ตัวเลขยังไม่มา ก็จะถอย สุดท้ายนี้อยู่ตอนก่อนจะถึงเลย แปลว่าเราจะมีกั้น 3 ฉึก เพราะฉะนั้นเท่ากับมีน้ำเต็มแม่น้ำโขงอยู่ตลอด 1 ล็อค 2 ล็อค 3 ล็อค ถ้ามันเต็มแล้วเป็นอย่างไรครับ เต็มแล้วก็จะเอาน้ำที่ผมว่านี้ ที่โพนพิสัย ตอนนี้พอขึ้นถึงระดับก็ปล่อยเปิดประตูเลยครับ ข้างหลังเปิดประตูแล้วเข้ามาไม่ต้องสูบเลย ระหว่างที่ยังไม่สร้างนี้ปิดประตูแล้วสูบเอาน้ำเข้าก่อน แต่พอกั้นเขื่อนเสร็จเรียบร้อย ระดับสูงเสร็จเปิดประตูแล้วเข้าเลยครับ น้ำจะเข้ายาวไปถึงลำปาว เข้าไปข้างใน เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งหมด น้ำที่จะเข้าจากที่ Tunnel ที่ก็จะทำ น้ำที่จะยกระดับที่เหนืออยู่ทางเหนือนั้นก็จะทำ แปลว่าน้ำแม่น้ำโขงจะมีการเต็มลำแม่น้ำตลอดทั้งปีครับ เวลาที่หน้าน้ำมาจริง ๆ ต้องออก Spillway แต่เดี๋ยวนี้มันมาไม่จริงแล้ว เพราะน้ำมามากแต่ไม่ได้ล้น เพราะจีนมีเขื่อน Hidro จีนทำได้ ไทยกับลาวก็ตกลงจับมือกัน อธิบายอย่างนี้ท่านต้องพอมองเห็นครับ ถ้าเป็นคลองธรรมดาแล้วตะแคงน้ำไหลลง กั้นลงไปก็ต้อง Down ลงไป เสร็จแล้วก็เรียก Overflow ออก Spillway ต้องลดลงมา ก็ไหลลงมา ๆ ตรงโน้นกั้นอีกก็ไหลลงมา นี่ละครับคือสิ่งซึ่งรัฐบาลนี้จะเป็นคนทำ แล้วลงมือเซ็นสัญญากับลาวไปแล้ว ต่อไปจะเซ็นอีกเส้นหนึ่ง จะเซ็นที่ตรงกับโพนพิสัย แล้วจะเซ็นอีกอันหนึ่งที่ตรงเหนือหนองคายขึ้นมา เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ว่าถ้าไม่คิดไม่กล้าตัดสินใจก็ไม่มีวันได้ทำ แต่รัฐบาลนี้คิดและตัดสินใจ แล้วจะลงมือทำ
ยืนยันทำโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขงให้ถูกต้องตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ
อีกอันหนึ่งซึ่งเขาคำนวณอยู่ ซึ่งผมก็บอกว่าถ้าทำก็ทำ สุดแท้แต่ น้ำที่น้ำงึม น้ำงึมเป็นที่ที่น้ำมาก แล้วทางลาวเขาก็ปล่อยน้ำจากเขื่อนของเขาแล้วลงแม่น้ำโขง เราก็จะขอน้ำที่มาจากน้ำงึม พอผ่านแม่น้ำโขงกำลังนี้เขาคิดให้ฟังเป็น Tunnel เป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำโขงมาประเทศไทย ตัวระดับสูงของทางน้ำงึมลงมานี้สูงกว่าครับ ทางไทยต่ำกว่า เพราะฉะนั้นน้ำที่เขาจะปล่อยลงแม่น้ำโขง เราก็จะขอแบ่งลง Tunnel แล้วก็เหมือนกาลักน้ำ ลงมาแล้วข้ามเข้าประเทศไทย นั่นก็เป็นอีกแนวหนึ่ง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ใหญ่โตมโหฬาร มีผู้คนที่เขามีทั้งเทคโนโลยี เขามีทั้งเงินที่เขาจะทำ ก็พวกนี้ละครับ จะมีโอกาสได้พัฒนา ทั้งหลายทั้งปวงก็จะบอกให้ฟังว่าจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งกฎหมายในประเทศของเราเอง ทั้งการหาแหล่งเงินมาทำ ทั้งวิธีการ
อย่างไรก็ตามแต่น้ำเวลานี้ อีสานปลูกข้าวปีละ 10 ล้านตัน ข้าวเปลือกแต่ใช้น้ำฝน มีน้ำที่เอาเข้าไปจากแม่น้ำมูลน้ำชี ก็มีระยะ ปีหนึ่งจะขาดอยู่ 4 เดือน เมื่อดำเนินการอย่างนี้แล้วก็จะดำเนินการอย่างเดียวกันเพราะแม่น้ำมูลก็ไม่เดินเรือ แม่น้ำชีก็ไม่เดินเรือ เวลานี้เขามีฝายยางอะไรต่าง ๆ เราจะพัฒนาเรื่องนี้ละครับ น้ำเข้ามาแล้วทำเป็นล็อค ๆ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่ใช่วิธีพิสดารอะไรนักหนาที่ทำไม่ได้ และจำเป็นจะต้องทำด้วย ก็รายงานคืบหน้าไว้ครับ เขาส่งสัญญาณ 10 นาทีจะหมดเวลา ผมจะเฉลี่ย ๆ แบ่งตอบคำถามบ้าง เพราะว่าถ้าไม่ตอบคำถามก็เหมือนกับว่าพูดเอาแต่ได้ข้างเดียว
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม เรื่องการขึ้นราคาน้ำมันทุกปั๊มควรจะต้องโชว์ต้นทุนให้ประชาชนดูด้วยเพื่อความโปร่งใส เพราะปีที่แล้ว ปตท.กำไรสูงมาก ปีนี้ควรจะช่วยชาติเพราะเดือดร้อน
นายกรัฐมนตรี พูดอย่างนี้ง่าย ๆ ดีกว่าครับว่า ใครจะทำมาหากินอย่างไรจะมาแสดงความสุจริตกันนั้น บางทีไม่ได้ทุจริตหรอกครับ เขาก็กันไว้ เขากันไว้ที่เขาจะหากำไรในธุรกิจของเขา เขาเป็นบริษัทซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ ความโปร่งใสต้องมีอยู่ในตัวแล้ว แต่ว่าทำธุรกิจการค้าต้องให้โอกาสเขาบ้างครับ จะร้องทุกข์ว่าให้เอากำไรมาแบ่งหน่อยมาลดราคาหน่อยก็พอได้ครับ แต่ว่าลองจะดูสิว่าในทางสากลนี้ เขาจะทำอย่างไรกันไหม คือแม้ ปตท. จะเอื้อเฟื้อมา ต่อไปก็หดหายกำไรหด คือไปทำอย่างนั้นเข้าปั๊บคนที่ถือหุ้นเขาบอกว่าอย่างนี้ได้อย่างไร ทำธุรกิจอย่างนี้ต้องมีกำไรบ้างอย่างนั้น ผมไม่ออกรับแทนเขาหรอกครับ แต่ว่าที่สิ่งบอกมานี้เขาคงเอื้อเฟื้อได้เป็นครั้งคราว ท่านรัฐมนตรี พลโทหญิงฯ (พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ท่านก็พยายามเบี่ยงไปเอาโน่นเอานี่ คือถ้าหากสมัยก่อนไม่บ้าเลือดขนาดนี้ สมัยบาร์เรลละ 50 เหรียญ 60 เหรียญก็ยังพอนั่นได้ มันเข้าไปหยุด มันหยุดอยู่กับที่ แล้วเขาก็นั่นไว้ เขาเก็บแพงแล้วก็หยุดตรงแพง เขาเก็บสะสมไว้ มันแพงขึ้นอีกเขาก็เอามาช่วย เดี๋ยวนี้ไม่ มันเดินตามวัน เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องตลก
ผมขอท่านทั้งหลายได้โปรดเถอะครับว่า ถ้าเราสู้มันไม่ได้ก็ต้องหาทางเบี่ยงบ่ายไปอย่างอื่น เวลานี้แอลกอฮอล์เข้าไป E 80 เติม 20 เชื่อว่าไม่นานจะต้องได้ 30 — 40 คิดทางนี้ดีกว่า คิดทางดีเซลท่านจะทำอะไรต่าง ๆ ก็น่าจะคิดมากกว่า แต่ความบ้าของคนที่ขึ้นราคามันไม่มีเหตุผล ก็คิดสิบอกถ้าเกิน 100 ก็บ้าแล้ว แล้วมา 110 120 เมื่อวันที่น้ำมันดิบสุดท้าย 129 ป่านนี้ขึ้นไป 130 แล้วก็พูดกันแบบชนิดทำหน้าตาเยาะเย้ยถากถาง จะขึ้นไม่ถึง 150 จะขึ้นไม่ถึง 200 ไอ้บ้าคนหนึ่งพูดเมื่อวานบอกว่าจะ 300 เหรียญ ถึงบ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องใช้กันแล้วครับ ต้องย้ายไปใช้ทางอื่นแล้ว ถึงขนาดนั้นกำลังนี้ราคานี้ไม่มีเหตุผล คือถ้าปั่นราคาทองยังพอได้บ้าง มันของมีค่าแล้วปั่นกันไปปั่นกันมา นี่ปั่นราคาแล้วเศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วนหมด คนในโลกจะยอมให้เล่นอย่างนี้เท่าไรก็สุดแท้แต่ หัวโจกที่เที่ยวไปชี้แจงใครต่อใครต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็อยากจะดูสิว่าการปั่นนี้มันมาจากคนที่หุบปากไม่พูดอย่างไรหรือเปล่า น่าคิดนะครับ ไม่มีเหตุผล ราคาน้ำมันซึ่งขึ้นเอา ๆ ไม่ใช่หมด ไม่ใช่ ยังมีอยู่ แต่ว่าปั่นราคากันตามใจชอบ แล้วอ้างว่าเพราะดอลลาร์อเมริกาตก มันจะตกอะไรหนักหนา มันสวนทางกับที่ขึ้น เหตุผลที่ฟัง ๆ ไม่ขึ้นหรอกครับ การปั่นอย่างนี้ควรจะมีรับผิดชอบ ราคาข้าวขึ้นมาหน่อยเดียวเท่านั้นมีคนแว้กเข้ามาแล้ว แต่ราคาน้ำมันขึ้นพรวด ๆ ผมก็คำถามยังตอบไม่ตรงหรอกครับ แต่ว่าเหมือนกับไปออกรับแทน ปตท.เขา เขาเป็นธุรกิจครับ เจาจะแบ่งปันกำไรมาให้นั่น ถ้าหมดตัวไปแล้วคนถือหุ้นเขาจะว่าอย่างไร ธุรกิจการค้าต้องพอสมควรแก่เหตุ เขาค้ามากเขาก็กำไรมาก เท่านั้นเองละครับ
คำถาม อยากทราบว่าทางการจะให้เรียนฟรี 12 ปีเมื่อไร ทำไมยังถูกเก็บระดมทรัพยากร
นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ต้องพูดให้เห็นชัดเจนครับ เรียนฟรีเขาให้เรียนฟรีอะไรอย่างไรต่าง ๆ แล้วสิ่งที่ควรจะต้องทำก็คือโรงเรียนต้องบอกมาเลยบอกว่า ถ้าฟรีแค่นี้อยู่ไม่ได้ต้องเก็บแค่นี้ ประกาศมาเลยให้รู้กันไป ไม่อย่างนั้นก็งุบงิบ ๆ บอกว่าเรียนฟรี รัฐบาลต้องการให้เรียนฟรีครับ แต่อะไรอื่น ๆ ซึ่งคนเป็นเจ้าของโรงเรียนเขามีวิธีการที่จะพลิกแพลง ท่านทั้งหลายต้องมีหน้าที่เอามาช่วยประจาน บอกเลยว่านี่ไม่จำเป็นทำทำไม ผู้ปกครองประจานเลยครับ ไม่ต้องไปออกชื่อว่าเป็นใคร ส่งเอกสารมาถึงผมก็ได้ ผมจะช่วยประจานต่อให้ ว่าโรงเรียนนั้นต้องการอย่างไร นี่สิครับที่จะคิด เรื่องต้นทุนน้ำมันกับต้นทุนโรงเรียน โรงเรียนควรจะแสดงอย่างยิ่งว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร เรียนฟรีเขาตกลงมีแน่นอนครับ 12 ปี แต่ว่าอย่างอื่นนั้นก็ต้องขอตรวจสอบว่าโรงเรียนเขาจะเข้ามาทำให้ปั่นป่วนอย่างไร
คำถาม ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐแพงมาก ราชการเบิกได้ปีละ 15,000 บาท ค่าเล่าเรียนปีละ 40,000 บาทอยากให้ช่วยกรุณาดูด้วย
นายกรัฐมนตรี 40,000 บาท เขาเรียนตามหน่วยกิตครับ คำนวณราคากันอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ว่าเบิกได้ 15,000 บาท เรียนปีละ 40,000 บาท ผมจะถามนายแพทย์สุรพงษ์ฯ (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ดูว่า เรื่องอย่างนี้เป็นไปได้อย่างไร จะถามคุณสมชายฯ รัฐมนตรีด้วย (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) ข้อนี้ตอบทันทีไม่ได้ครับ แต่จะแยกไว้ต่างหาก ใบนี้ต้องเอาไปถาม ค่าเล่าเรียน 40,000 บาทแต่เบิกได้ 15,000 บาท ทำไม ต้องมีคนตอบคำถามครับ แล้วผมยังจะมาพูดที่นี่อยู่ เอามาชี้แจงแน่นอนครับ
คำถาม ให้ท่านพิจารณาให้สิทธิเบิกเงินค่าพยาบาลแก่ลูกจ้างประจำที่เกษียณแล้ว อายุราชการ 25 ปีขึ้นไปบ้าง จะรอฟังคำตอบ
นายกรัฐมนตรี ต้องเอาไปดูครับ อย่างนี้ต้องไปถามเลยว่าตำราเป็นอย่างไร เขาอย่างไรครับ บางอย่างตอบได้ตอบทันทีครับ ตอบไม่ได้ต้องเอาไปดูว่าทำอย่างไร
คำถาม อยากให้ท่านสมัครฯ ช่วยดูแลนโยบายการทำหมันสุนัขด้วย ติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเขตต่าง ๆ บอกไม่ใช่หน้าที่ อยากทราบให้หน่วยงานไหน
นายกรัฐมนตรี ค่าทำหมันต้องมีค่าใช้จ่าย มีสัตวแพทย์จำนวนไม่มากครับ กทม. ที่อยู่ผมจำได้เขามี 35 คน แล้วสุนัขเรามีเป็นล้าน จะได้ทำกันหมดอย่างไร ที่จริงเอกชนเขาก็รับทำครับ ถ้าเผื่อเรารักหมาของเราก็ให้เอกชนทำ เขามีที่ทำครับ จะขอรายละเอียดให้ก็แล้วกันครับ ที่จริงทำให้เขาทำพอสมควร จะขอรายละเอียด ผมไปงานก็นั่งที่นั่งใกล้ ๆ กับผู้ว่าฯ อภิรักษ์ฯ (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) บ่อย ๆ จะสอบถามให้เรื่องนี้ครับ
คำถาม อยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยปรับราคาแท็กซี่มิเตอร์ และต่อวิทยุสื่อสารรายเดือน
นายกรัฐมนตรี มีคนร้องทุกข์มาเยอะ เรื่องนี้ก็จะดูสิครับว่า ความจริงยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมควรจะมีคนมานั่งช่วยคิดให้หน่อยครับ อะไรต่ออะไรปรับได้แต่แท็กซี่ไม่ให้เขาปรับ อ้างว่าเขาใช้แก๊ส เรื่องพรรค์อย่างนี้ตัวแก๊สก็ถูก ใช้ทุกคนไม่ใช้ทุกคน ขอรับไปดูให้ก็แล้วกันครับ เรื่องต่อนี่ก็เหมือนกัน ค่าวิทยุสื่อสาร
คำถาม อยากทราบว่ารัฐบาลจะจัดตั๋วรถเมล์ราคาถูกให้นักเรียน นักศึกษาหรือไม่ รถเมล์เอ็นจีวีมีกี่คันแล้ว
นายกรัฐมนตรี ผมจะบอกให้ฟังครับ เขากำลังจะเริ่มดำเนินการ ผมก็เริ่มเดือดร้อนเพราะผู้คนก็มาร้องทุกข์เอากับผมเข้าแล้ว คือว่าเขาจะทำรถเมล์ใหม่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ เขาจะทำใหม่หมดเลยครับ 6,000 คันใช้แก๊สหมดเลย ไปใช้แก๊สแล้วราคาไม่แพง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น เวลานี้ที่เขาตรวจสอบ ขสมก. แล้ว แย่ คือว่าจำนวนรถนี้ รถที่ยังอยู่ คน 18,000 ยังอยู่เหมือนเดิม จำนวนรถที่วิ่งน้อยลง เอกชนก็วิ่งอยู่ เขาก็จะไปอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ เขาก็จะทำทั้งองคาพยพ คือจะเปลี่ยนทั้งระบบเลย 6,000 คันใช้แก๊สหมด รถดีเรียบร้อยหมดติดแอร์ทุกคัน แล้วเขาจะลดราคาโดยการขายบัตร ขายบัตรประจำเดือน ขายบัตรนักเรียน ขายบัตรอะไร ซึ่งลดนั่งได้ทั้งวัน ได้สองเที่ยวอะไรต่าง ๆ เขาจะเสนอรายละเอียด อีก 2 -3 วันผมจะได้ดูรายละเอียดเรื่องนี้ครับ ต้องมีความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ครับ แต่เกิดเรื่องแน่นอนครับ ผมก็เดือดร้อนเพราะว่าพวกที่เขาวิ่งรถเอกชนสมทบเขาก็คงไม่ค่อยชอบใจเรื่องนี้หรอกครับ
คำถาม พวกนักข่าวที่ชอบให้ร้ายคนอื่นควรจะมีบทลงโทษมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่สร้างความเสียหายกับประเทศชาติ ควรมีโทษให้หนัก
นายกรัฐมนตรี เอาละครับ จะนักข่าวไม่นักข่าวไม่ทราบหรอกครับ ประกอบหลายคนครับ ไปโทษนักข่าว นักข่าวก็เอาข่าวไป คนที่เขาทำข่าวเขาก็มี Re writer เขามีหัวหน้าข่าว ยังมีคอลัมนิสต์อีกครับ ยังมีเจ้าของหนังสือพิมพ์อีก และยังมีขบวนการอีก เขาเรียกขบวนการ 18 อรหันต์ ถ้าเผื่อใครไม่ชอบรัฐบาล ต้องการจะทำลายล้างรัฐบาล 18 อรหันต์จัดการช่วยจัดการเลยครับ ไอ้หัวโจก 18 อรหันต์ก็มีชื่อออกอยู่ครับ รายการที่ผมโดนเข้าไปนี่ ที่ผมโดนชิมไปบ่นไป ก็แบบนี้ครับ ยังไม่พอครับ กินไปบ่นไป ทาง กกต. ก็รับพิจารณาว่าพอฟังความ ยังจะพยายามอีกครับ มีคนพยายามจะหาเหตุหาโน่นหาอะไรต่ออะไรอีก คือจะเอาออกให้ได้ครับเจตนา 18 อรหันต์นี่ละครับเป็นคนช่วยจัดการ ขบวนการนี้ยังอยู่ครับเพียงแต่แก่ไปหน่อยเท่านั้นเอง เห็นหน้าทางโทรทัศน์หน้าตาแก่ขึ้น
คำถาม รายการวิทยุชุมชน 92.25 เครื่องส่งแรงมาก รบกวนคลื่นอื่น จะจัดการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ผมว่าบ้านเมืองไม่เป็นธรรมนี่ละครับ ผมจะบอกใครรับผิดชอบ กสช. ตัวย่ออะไรต่าง ๆ ช่วยดูหน่อยเถอะครับ วิทยุเถื่อนทำผิดกฎหมาย ออกแรงได้ 92.5 ครอบคลุมหมด แต่ 92.75 ร้องทุกข์ ไปตรงโน้นก็ฟังไม่ได้ ไปตรงนี้ก็ฟังไม่ได้ คนสุจริตคนทำตรงไปตรงมาถูกคนเถื่อนมันทับ แล้วอย่างไรกันตกลงอย่างไรครับ ผมก็ถามตรงนี้ละครับ ใครรับผิดชอบตรงนี้ช่วยดูหน่อยเถอะ ผมสงสารวิทยุแท็กซี่ ต้องช่วยเขา ต้องจัดการ เขาเจตนาดีกับบ้านเมืองนะครับ แต่รับไม่ได้ น่าสงสารครับ น่าสงสาร รับบริจาคจากผู้คนผู้ฟัง หาสตางค์อะไรไม่ได้ ส่วนไอ้บ้านั่นไม่รู้เอาสตางค์มาจากไหน 92.25 น่ะ เล่นโครม ๆ ๆ
คำถาม โครงการวงแหวนรอบนอกวงแหวนฝั่งตะวันออกทำไมต้องมีเก็บเงิน ทำเป็นทางคู่ขนาน
นายกรัฐมนตรี คืออย่างนี้ครับ กรุณาเถอะครับ ที่เสียสตางค์บ้างนั้น ถ้ากู้เงินเขามาทำต้องเก็บเงินครับ เงินจากกระเป๋ารัฐบาลเองไม่ต้องเก็บ เพราะบางส่วนถ้าสร้างเองเขาก็ไม่เก็บ ตรงไหนที่กู้มาเขาก็เก็บ ถ้าหากไปเจอเก็บเงินก็อย่าไปใช้มันเท่านั้นเอง ขับเลี่ยงไปทางอื่น คู่ขนานไม่ได้หรอกครับ เขามีทางอื่นอยู่แล้วครับ แต่วงแหวนช่วยให้สะดวก กรุณาจ่ายความสะดวกบ้างเถอะครับ
คำถาม อยากให้สร้างทางรถไฟมาตรฐานโลก
นายกรัฐมนตรี พูดมานานแล้วครับ แต่ก็การดำเนินการก็ดำเนินการแล้วครับเวลานี้ สร้างทางรถไฟไม่ใช่ไปสร้างเล่น ๆ ครับ โครงรางรถไฟจะทำออกจากคุนหมิง ที่ประเทศจีนผ่านประเทศลาว ผ่านประเทศไทยไปออกประเทศพม่า 4 ประเทศครับโครงการนี้ ในหลักการได้ดำเนินการแล้ว ผมจะไปเจรจาความกับจีนในรายละเอียด ก็บังเอิญไปเจอแผ่นดินไหวเสียก่อน ก็ขอเรียนนะครับว่าจะเริ่มต้น แต่ของพรรค์อย่างนี้ต้องให้เวลาครับ จะพยายามเริ่มต้นให้ได้ในรัฐบาลนี้ครับ มีโอกาสก็อก ๆ แก็ก ๆ มา แต่ว่าได้มีโอกาสตัดสินใจ ได้ทำหลายอย่าง แต่ที่น่าสงสัยคือว่าคนที่พยายามไม่อยากให้ผมอยู่ทำนี้ประหลาดตรงนี้ครับ ทำลายกันจะเอาให้ได้ จะเอาสมัครฯ ออกจากตำแหน่งให้ได้ นี่แปลว่าไม่อยากให้ทำงานให้บ้านเมืองได้สำเร็จ บังเอิญการตัดสินใจทุกอย่างจบครับ รถไฟฟ้าชานเมืองจะลงมือกันตอนนี้ครับ ขบวนการที่จะเอาออกให้ได้นี่จะว่าอย่างไร
คำถาม การเบิกโบนัสข้าราชการเมื่อไรจะได้ รอนาน
นายกรัฐมนตรี ก็เขาบอกเขาจ่ายแล้วนี่ครับ ผมจะไปถามให้ครับทำไมยังเบิกไม่ได้ ใครไปยักย้ายไว้อย่างไร
คำถาม ประกันสังคมเรื่องสุขภาพนั้นอยากให้เบิกตามความเป็นจริง
นายกรัฐมนตรี จะต้องถามทางฝ่ายที่เขาเกี่ยวข้องครับ ผมตอบทันทีไม่ได้ครับ
คำถาม ให้นายกฯ พูดเรื่องหวยบนดิน รางวัลที่ 1 45 รางวัลจริงหรือ เลขท้าย 2 — 3 ตัวจะหมุนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี เขากำลังเริ่มออกข่าวมาครับ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้ คราวหน้าจะเอามาพูดเรื่องหวยบนดินว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร จะถามรัฐมนตรีฯ คลัง ให้
คำถาม ทุนการศึกษา กยศ. กรอ. ขณะนี้มีนักศึกษาปี 1 เท่านั้น น่าจะให้โอกาสปี 2 ปี 3 คุณสมบัติได้รับทุนด้วย
นายกรัฐมนตรี ทุนให้เฉพาะปีแรกได้อย่างไรครับ ต้องได้ทุกปีครับเรื่องนี้ ตัวย่อใหม่ 2 ตัวนี้ผมต้องไปดูก่อน ย่อกันจนกระทั่งจำไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่รับ ตรงนี้ต้องเอาใส่กระเป๋าไปเฉพาะ เพราะจะต้องไปตามเรื่องให้ เขายกป้ายเวลาหมดครับ ก็มีสิ่งละอันพันละน้อยที่พยายามจะเก็บเอามาพูดให้ฟังด้วย และอาทิตย์หน้า 08.30 น. พบกันใหม่ครับ วันนี้ผมมีรายการรออยู่หลายอย่างข้างนอก ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ 08.30 น. นะครับ ก่อนจะเริ่มรายการมีกำหนดว่าผมจะพูดอะไร เขามีใบบอกมา 2 ใบ ขอให้ตอบก่อนตอนเริ่มรายการ เพราะถ้าเก็บไว้ตอนหลังเดี๋ยวจะไม่ตอบ ผมก็จะตามใจท่านผู้ที่ส่งเข้ามาแต่วัน
สื่อเสนอข่าวอดีตนายกฯ พาต่างชาติไปดูวิธีการปลูกข้าวที่สุพรรณบุรี
เรื่องการทำนาที่สุพรรณบุรี ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนั้น ไม่ทราบว่าที่ถามมานี่หมายความว่าอย่างไรครับ เพราะตามที่เป็นข่าว เป็นข่าวได้ขนาดนั้น หรือว่าทำไมถึงเป็นขนาดนั้น คือยังไงขนาดไหนก็สุดแท้แต่ บัดนี้เขาเข้าใจกันดีแล้วครับ คือจริง ๆ มีอดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) พาคนต่างชาติไปดูการทำนา ทำไมถึงไปดูตรงนั้น เขาเป็นโรงเรียนสอนการทำนา เขามีวิธีการสาธิต มีเรื่องควาย วิธีการดำอะไรต่าง ๆดำด้วยเครื่อง ก็พาไปดู เจตนาเขาบอกว่าเขาจะเปิดรายการขายข้าวทางตะวันออกกลาง แต่ข่าวออกมากลายเป็นว่าพรรคการเมืองเขาไม่ถูกกัน อดีตนายกรัฐมนตรีไปยุ่งกับทางนี้เขา แล้วไปไกลถึงขนาดว่าจะมาซื้อที่ดินปลูกข้าวทำอุตสาหกรรมเป็นข้าว ไปกันใหญ่เลยครับ ถึงขนาดว่ากล่าวกันว่าเป็นคนจะขายชาติกันเลย ข่าวก็ชั่วค่ำชั่วคืน เช้าออกมาก็ตกลงเป็นที่เข้าใจกันดีว่าไม่ใช่ เขาก็ยืนยันครับ นี่ละครับขอให้ดูว่าการเสพข่าวในสมัยนี้เป็นอย่างไร เจตนาเขาก็ทำแค่นั้นเอง จะทำยังไงได้ครับ ผมไม่อยากจะพูดอธิบายมาก เดี๋ยวบอกเป็นทนายอีกแล้ว เรื่องมันเท่านี้เอง คนที่อยากจะซื้อข้าวเขาก็อยากจะดู และมีโรงเรียนสอนการปลูกข้าว เขาไม่ได้ปิดบัง คนหน้าตาพวกนั้นก็ไม่น่าจะมาทำนาเลย เขาก็มาดู ข่าวออกมา ไปร้ายกาจถึงขนาดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนขายชาติ ด่ากันขนาดนั้นเลยครับ นี่ก็เคราะห์ดีท่านหัวหน้าพรรคชาติไทย (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ท่านออกมาจัดการ ท่านบอกท่านเข้าใจทุกอย่าง ถึงได้เรียบร้อยไป ผมได้ยินตอนตอบคำถาม เพราะว่าผมรู้คำตอบ
กรณีนายจักรภพฯ ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
ข้อที่ 2 เขาขับไล่จักรภพ (นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) กันทั้งบ้านทั้งเมืองไปป้องกันอยู่ทำไมคนเดียว ผมเองก็ จะให้ผมทำอย่างไรละครับ บ้านเมืองเรามีหลักเกณฑ์นะครับ เรียกว่ามีขื่อมีแป ใครจะนั่น เขาไม่ขับไล่กันทั้งบ้านทั้งเมืองละครับ มีคนพวกหนึ่งเขาต้องการจะขับไล่ คนพวกหนึ่งผมยืนยันได้ แล้วผมก็เป็นหัวหน้าเขาอยู่ แล้วผมก็ได้อ่านเอกสารของเขา ผมบอกอย่างนี้ต้องให้ตำรวจวินิจฉัย ถ้าขึ้นไปถึงอัยการถึงศาลได้ยิ่งดี ก็เท่านั้นละครับ พรรคการเมืองส่งเอกสารเข้ามา ผมไม่อยากจะย้อนถามว่าคุณเป็นศาลหรือ คุณวินิจฉัยเสร็จปั๊บ สั่งให้ผมจัดการเลย คุณเป็นศาลเหรอ อะไรกันนักหนาขนาดนั้นครับ ช่องทางเขามีอยู่ ทำเสียอย่างนี้สุด เขาจะพิจารณาตัวเขาเองอย่างไรสุดแท้แต่ เขารำคาญเต็มทีแล้ว แต่ว่าโดยแท้จริงนั้นต้องวินิจฉัยครับ ตำรวจเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ต่อไปก็เป็นอัยการ ต่อไปก็ถึงศาล พอคดีความถึงศาลก็มีกฎหมายมีอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ขนาดนี้ครับ รุนแรงนะครับ รุนแรงมาเลย พวกที่เขายื่นแก้รัฐธรรมนูญเขาก็โดนด่ารุนแรง พรรคประชาธิปัตย์ออกอะไรฉบับที่ 1 โอ้โหทำไมพูดจาว่ากล่าวคนที่ไปยื่น ทำหน้าทำตา เป็นคนเลวทรามต่ำช้าขนาดที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทำไมครับ ก็เขาฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปมุดหัวอยู่ไหนครับ ไม่มีใครมาพูดจาว่ากล่าวเลย เห็นไปยืนเขามือกุม ๆ อยู่กับเขา แล้วทีคราวนี้เขาจะปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิของเขานะครับ ยังไม่ทันจะอะไรกันเลยครับ โอ้โห ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 อย่างกับคณะปฏิวัติ อ่านถ้อยคำแล้ว ผมบอกพรรคการเมืองนี้เป็นเอามาก เวลานี้เป็นเอามากครับ แต่ก่อนก็พูดจากันมันต้องแก้ เดี๋ยวนี้บอกไม่แก้แล้วครับ ก็ไม่แก้ก็ไม่แก้ พูดซะให้ชัดเสียเลย ตรงนี้ไม่ได้มีคำถามหรอกครับ
คือเรื่องคุณจักรภพ ผมทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผมต้องให้ความเป็นธรรมเขา และผมเห็นว่าพรรคการเมืองพรรคฝ่ายค้านไม่ใช่ศาล ผมบอกแล้วถ้ามาผมยื่นวันนี้ ผมปลด มายื่นอีกกล่าวหาอีก ผมปลด มายื่น 35 วัน คณะรัฐมนตรีก็หมดเลย เอาหลักเกณฑ์หลักการอะไรมาครับ มีขั้นตอนมีกระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการอยู่ ผมก็ให้ความเป็นธรรม เพราะผมอ่านเอกสาร ผมอ่านทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ที่ถอดมา ผมอ่าน แล้วเรื่องพรรคนี้ถามผมบอก ไม่ ให้ตำรวจเขาดูสิว่าเป็นอย่างไร ต้องอย่างนี้สิครับ บ้านเมืองถึงจะอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองเก่าแก่ยื่นมาปั๊บ ต้องกลัวเกรง ไม่ละครับ ผมไม่กลัวละครับ ผมไม่เกรงด้วยถ้าทำแบบนี้ เริ่มประเดิมก็เอาอย่างนี้เสียก่อนแล้วกัน ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปที ไม่อย่างนั้นก็พูดกันอยู่นั่น ขนาดนี้บอกว่าทั้งบ้านทั้งเมืองเขาขับไล่จักรภพ เครื่องไหนวัดมาทั้งบ้านทั้งเมือง ก็พูดกันไปพูดกันมา ก็ดูแต่เรื่องข้าว เอาไปดูว่าเขาปลูกอย่างไร เขาตั้งใจจะซื้อ เขาจะเปิดตลาดตะวันออกกลาง กลายเป็นว่าคนพาไปขายชาติ มันบ้ากันขนาดนี้ครับ ตกลงเวลานี้อะไรมันชั่วข้ามคืน เอาละเอาเรื่องดูสิว่าผมไปแส่กับเขาด้วยเป็นยังไง
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ให้การต้อนรับ
ก็จะเริ่มต้นตรงนี้ก่อนครับวันที่ 22-23 พฤษภาคม ฟิลิปปินส์บอกว่าพร้อมก็ไปเยี่ยมได้ ก็เพื่อนบ้านครับ เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ เป็นประเทศที่ 8 ที่ผมไป ไกลที่สุดก็คือไปกรุงจาการ์ตา 3 ชั่วโมง ไปฟิลิปปินส์ 3 ชั่วโมง 25 นาที ไปก็เรียบร้อยดีครับ ท่านประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ (นางกลอเรีย มาคาปากัล อาโรโย) ก็ต้อนรับเรียบร้อย ผู้คนที่มารับรอง ก็เหมือนกับเป็นคนรู้จักคุ้ยเคยกันทั้งนั้น รัฐมนตรีที่มาประจำตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร (นายอาร์เธอณิ กัว ยัพ) ก็ได้คุยกันพูดจากัน มีพิธีรีตรองเรียบร้อย Malacanang ผมก็เคยไป แต่ไม่เคยได้ไปทำพิธีตรวจแถวอะไรกันเท่านั้นเอง ไปถึงเขาก็ให้ไปพบกับทีมไทยแลนด์ก่อน ซึ่งเป็นประโยชน์มาก คือจริง ๆ เขาบอกไปให้โอวาททีมไทยแลนด์ ผมบอกไม่มี ผมมาฟังทีมไทยแลนด์คุย ท่านทูตคุย ท่านทูตก็เก่งครับ บอกข้อมูลพื้นฐานอะไรเสร็จเรียบร้อย คุยทีมไทยแลนด์ ก็พบประชาชนคนไทย เสร็จเรียบร้อย คนไทยไปที่นั่นต้องกล้าหาญนะครับ ที่กล้าหาญเพราะว่ามีไต้ฝุ่นปีละ 20-24 ลูก ก็ได้อยู่ที่นั่นละครับ ต้องทำงานกันอยู่ที่นั่น โรงแรมที่พักก็ดี ดุสิตธานี ใหญ่โตมโหฬาร มีปั๊ม ปตท. อยู่ในมะนิลา ก็เป็นความภาคภูมิใจของเรานะครับ แต่ว่าทั้งหมดในนั้นคือว่า คนมะนิลาก็นินทาซะนิดหน่อย ขับรถขบวนนายกรัฐมนตรียังซิ่งเลย ปรู้ดปร๊าด ๆ ต้องใช้คำนี้เหมาะที่สุดเลยครับ ซิ่งทุกรอบเลยครับ
สนับสนุนการท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์
เสร็จเรียบร้อยมาถึงตอนเย็นไปตรวจแถวเสร็จเรียบร้อย ท่านประธานาธิบดีก็มานั่งคุย อันนี้ยาวเลยครับ คุยกันมากมายหลายเรื่อง ก็คุยกันเรื่องต่าง ๆ ท่านทูตก็ให้ข้อมูลพื้นฐาน เขาอยากได้เรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะว่าประเทศเขาปีหนึ่งมีคนไปเที่ยว 2 ล้านคน ประเทศไทยปีหนึ่งมีคนมาเที่ยว 15 ล้านคน ยังไงกันแน่ ก็ดูเรื่องสายการบิน เขาบินมาเรา 2 ลำ เราบินไปเขาลำเดียว ก็ยืนยันขอว่าขอการบินให้เพิ่มมากขึ้น ผมก็เลยสนทนากับท่านประธานาธิบดี ท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย นั่งรวมอยู่ด้วยกัน คุยกันชัดเจนเลยครับ เราก็บอกเลยว่าเรามีที่เรียกว่า sub-regent ทำหกอันมีจีนมาด้วย ซึ่งไม่ใช่อาเซียน ผมบอกถ้าฟังประธานาธิบดีแล้ว ผมคิดว่าควรจะนึกถึงอาเซียนด้วยกัน คือเรียกว่าเป็นแพ็คเกจทัวร์ ไม่ได้เอา 1-2-4 ตรงใกล้ ๆ เอาทั้งหมดเลย คือใครจะมาก็ได้อ่านเล่มเดียวกันเลย เล่มเดียวกันบอกเรื่องอาเซียน ใครมีอะไรดีต้องมาใส่ที่เดียวกันหมด คือเห็นแล้วอยากไปทุกประเทศ ทุกคนมีของดีของตัวเองอยู่ ฟิลิปปินส์เขาก็มีของดีครับ คุยกัน ผมก็ยกตัวอย่าง ๆ เกาะคอริจิดอร์ ที่นายพลแมคอาเธอร์เคยลุยน้ำบอกว่า I Shell Return น่ะละครับ คนอเมริกันเขาก็ต้องคิดถึงอันนี้ ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เขามีโน้นมีนี่มีอะไรต่ออะไรพอสมควร แต่ที่ดีของเขาที่ผมไปช่วยเขาคิดคือ เขามี Seafood เรื่องอาหารทะเลของเขายอดจริงๆ ครับ กั้งตัวเบ้อเริ่มเลย ของเราครึ่งเดียว ของเขาตัวเท่าตัว ท่านประธานาธิบดีบอกว่าลงไปทางใต้แถวมินดาเนาถูก มามะนิลาแพงหน่อย ผมบอกที่ผมเห็นกั้งตัวเดียวทำมาให้กินอยู่ในจาน 2 ตัวใหญ่ ผมเห็นกั้งถ้าเผื่อถอดเปลือกถ่ายสีให้เห็น แล้วผมในฐานะทำกับข้าว ผมบอกนี่เห็นได้ชัดเลยทำอย่างนี้ ถ้าทำแบบไทย สมมติทอดกระเทียมพริกไทยอร่อยสุดแล้ว 3 รสเปรี้ยวหวานสับปะรดก็อร่อยแล้ว เราทำหั่นสด ๆ ผัดฉ่าก็อร่อยแล้ว เห็นกับข้าวได้หลายอย่าง แม้กระทั่งสุดท้ายทำข้าวต้มกั้ง ก็ยังต้องน่าอร่อย
ก็คุยกับท่านบอกนี่ ผมอยู่บนโต๊ะอาหาร ผมเลยยกเป็นตัวอย่างให้ท่าน บอกนี่คือวัตถุดิบของการส่งเสริมการท่องเที่ยว บอกไทยก็ใช้อาหาร แต่ของเราเฉย ๆ แต่ฟิลิปปินส์ต้องใช้คำว่า Seafood และเขาก็มี มาเลเซียมีนักท่องเที่ยวปีละ 20 ล้านคน มากกว่าไทยอีกครับ เขาบอกไปทำที่นั่น เพิ่มไปกว่า 5 ล้าน เขามีคาสิโน ฟิลิปปินส์มีคาสิโนแต่ไม่โฆษณา มี Casino Bereau of The Philippine มี 10 แห่ง ไม่โฆษณา ปล่อยหงอยเหงาอย่างนั้นธรรมดา เพราะเมืองนั้นเปลี่ยนสภาพศูนย์การประชุมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ สมัยก่อนนี้ตอนท่านมากอสอยู่ เขาเป็นศูนย์การประชุม ภรรยาเป็นนายกเทศมนตรี สามีเป็นประธานาธิบดี ขึ้นชื่อลือชาทั้งประเทศเขาใช้ภาษาอังกฤษได้ นั่นละครับก็คุยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย ตกลงกัน ผมก็บอกว่าผมจะช่วยสนับสนุน เพราะว่าส่งเสริมการท่องเที่ยว ถ้าเป็นแพ็คเกจ และถ้าตกลงกันได้ว่าถ้าเราเลือกนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวซำเหมา ถ้า stamp วีซ่าว่าเข้ามะนิลา ก็เข้ากรุงเทพฯ ได้ stamp กรุงเทพฯ ก็เข้ามะนิลาได้ 10 ประเทศอาเซียน อย่างทางยุโรปเขาเรียก เซนเกน เขาทางนี้ได้เข้าทางนั้นได้ ไม่ต้องไปไกลหรอกครับ ไม่ต้องพูดภาษาเดียวกัน เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้
ยินดีขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ในราคามิตรภาพ
ไปเพื่อนบ้านก็คุยกันครับ สุดท้ายก็คุยกันเรื่องข้าว ก็พูดจากันชัดเจนครับ ท่านบอกว่าอยากจะซื้อจากไทย ผมบอกผมยินดี แต่ผมบอกเลยเพราะท่านทูตก็บอกแล้วว่า เขาก็พอมียังพอกิน แต่เขาอยากจะซื้อที่ไม่แพงและผูกพัน 3 ปี เราก็ไม่อยากไปเซ็นสัญญาอะไรผูกพันอย่างนั้น ก็บอกเรื่องวิธีการให้ท่านเลย บอกว่าเรื่องซื้อขายอะไร ถ้าเผื่อซื้อกันเอกชนก็เป็นราคาตลาดธรรมดา แต่ว่าขอให้ติดต่อกับประเทศไทยในยามที่จะขาด อีก 3 เดือนจะขาด 6 เดือนจะขาด และต้องการเท่าไร จะกี่แสนตันบอกมาเลย มาเลเซียเราก็ทำลักษณะนี้ ให้ทูตกับทูตติดต่อกัน ไม่ต้องมาต่อรองราคา เราก็บอกราคามิตรภาพของเรามี นั่นก็เป็นอาเซียนด้วยกันก็พูดได้ เราก็ตัดสินใจว่าดำเนินการอย่างนี้ จะได้หมดเรื่องวิพากษ์วิจารณ์กันเสียที คือถ้าท่านอยากจะไปให้เขาประมูลอะไรกัน ก็ให้เอกชนไปสู้กันธรรมดา แต่ถ้าท่านจำเป็น ท่านจะไม่มี บอกมาเลย เราขายรัฐต่อรัฐให้ ก็ไปกันอย่างนี้ครับได้ประโยชน์ได้คุยกัน
มีข่าวถ่ายรูปมาลงหนังสือพิมพ์ว่าผมไปตลาด ก็ไปครับ เพราะว่าผมได้คุยกับสถาบันวิจัยข้าว International Rice Research Institute (IRRI) ขับรถออกไปชั่วโมงครึ่ง กลับชั่วโมงครึ่ง อยู่ที่ลอสบาญอส ผมก็คำนวณดูแล้วต้องลก ๆ ลั่ก ๆ ก็เลยบอกว่า เบอร์ 1 ก็ไม่อยู่ เป็นอเมริกัน เบอร์ 2 เป็นอังกฤษ เขายินดีจะเอาเอกสารทั้งหมดมาคุย บอกเหมือนกัน ไปที่โน่นกับที่นี่ ก็เลยยกมาคุยที่นี่ ก็ทุ่นครับ ผมอยู่ 1 ชั่วโมงกับสถาบันวิจัยข้าว คุยกันเรียบร้อย คุยกันละเอียด ผมบอกผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องสนใจต้องรู้ เพราะว่า IRRI ที่เขาเรียกว่า อีร์รี เป็นศูนย์การพัฒนาข้าว และคนไทยเราเรียกว่าไปสัมพันธ์อยู่กับที่นี่ หม่อมเจ้าจักรพันธุ์ เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ นักวิชาการการเกษตร เป็นแถวเลยครับ ชื่อคุณมีชัย วีระไวทยะ ยังไปอยู่ในบัญชีนั้นด้วยเลยครับ คือคุณมีชัยก็สนใจเรื่องข้าวกับเขาเหมือนกันนะครับ ก่อนหน้าจะมาสนใจเรื่องถุงยางอนามัย (Condom) ปรากฏว่าเขาดีครับ ท่านยกมาให้หมด ผมได้เอกสารมาปึ้งเบ้อเริ่ม แต่ที่น่าภูมิใจคือประเทศเราเป็นคู่คิดคู่สนทนาปรึกษาหารือกันกับ IRRI และเมื่อไม่นานนี้เขาทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เขาบอกว่าท่านทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องการเกษตรอย่างยิ่งเลย และก็คุยกับนายเบอร์ 2 เป็นอังกฤษ แต่อยู่ที่ IRRI มา 17 ปีแล้ว ปีนี้ IRRI ครบรอบ 50 ปี ปีหน้าจะครบรอบ 60 ปีสัมพันธไมตรีไทย-ฟิลิปปินส์ จะฉลองร่วมกัน ผมบอกเลยวันนี้มาเยี่ยมสถาบันซึ่งเป็นที่ที่ประสิทธิประสาทวิชาการให้
คือทั้งหมดเขามีเรื่องบาดหมางน้ำใจกันนิดหน่อยในอดีต คือเขาบอกว่าถ้าจะใช้พันธุ์ของเขาที่ออกไป ควรจะใช้อีร์รี แล้วเบอร์เท่าไร ในอดีตนานมาแล้ว ก็มีพันธุ์ที่ออกมา บังเอิญไปปลูกแล้วได้หอม หอมก็กลายเป็นต้นฉบับของข้าวหอมมะลิ ก็ตั้งชื่อว่าหอมมะลิ ก็ผิดข้อตกลง เขาก็ห้ามไม่ให้ใช้ชื่ออย่างนั้น ผมก็บอกผมเห็นด้วย ก็ควรจะนับถือเขาหน่อย เพราะเขาอยากจะใช้เบอร์ของเขา ชื่อของเขา ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องนี้ก็จบเรื่องกันไปนานแล้ว ผมก็รู้ตื้นลึกหนาบางเพราะท่านทูตท่านเป็นคนรอบรู้ ท่านก็ให้ข้อมูล ก็คุยกันเรียบร้อยดี มีเจ้าหน้าที่มาด้วย 3 คน ทั้งฟิลิปปินส์ทั้งอังกฤษ คุยเรื่องของข้าวที่นั่น ผมบอกว่ามีคนไปลงข่าว Herald Teribune ผมพูดพาดพิงเรื่อง Orec เขาเทียบกับ Opec เราไม่ได้คิด Orec ผมพูดว่าในบรรดาผู้ปลูกข้าวแถวเรียงกัน ตั้งแต่เวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย พม่า 5 ประเทศ น่าจะมาตกลงสนทนากัน คือเจตนาของผมต้องการเรื่อง คือข่าวมาจากเมืองจีนเรื่องไฮบริดจ์ ของเราแต่ก่อนเราปลูก 400 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อมา 500 กิโลกรัมต่อไร่ 800 ก็นับว่าเก่ง เดี๋ยวนี้ปลูกได้ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ จีนบอกปลูกได้ 2,000 กิโลกรัมต่อไร่
ผมต้องฟังหูผึ่งเลย ผมก็บอกอย่างนี้คนปลูกข้าวน่าจะมารวมตัวกันคิดหน่อย เพราะเราถูกเขาตำหนิว่าเอาที่ปลูกข้าวไปปลูกพวกพืชน้ำมันต่าง ๆ เลยทำให้ข้าวขายตลาด ความจริงเปล่าครับ ความจริงไม่ใช่เรื่องนั้นเลย ตกลงผมก็แสดงความเห็นเราน่าจะมาประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องว่า ยืนยันว่าเราปลูกในที่ที่ปลูกข้าว ไม่ได้ปลูกเอาไปปลูกพืชน้ำมัน แต่เราจะสนทนากันเรื่องหาพันธุ์มาปลูก ไทยเราก็เก่งจะไม่ปิดบังว่าปลูกแล้ว ไม่ให้นั่น แต่เขาบอกว่าต้องปิดบัง เขาไม่ให้พูด วิธีปลูกอย่างไรเขาไม่ให้พูด บอกว่าเป็นเทคนิคของส่วนตัวของแต่ละกันแล้วกัน ก็โอเค เมื่อเป็นอย่างนั้นเสร็จเรียบร้อย ผมพูดเพียงเท่านั้นละครับ มีคนไปต่อกันนิดหน่อยบอกถ้ามี Opec ก็ควรจะมี Orec เท่านั้นละครับ Herald Teribune ลงแล้วลงอีก บอกว่าอวดประณามนายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นหัวโจก จะทำเป็น Rice Cartel Cartel คือรวมหัวกันค้า กำหนดราคาเอง ชี้แจงเท่าไรก็ไม่ฟัง คนพวกนี้ประหลาดครับ เหมือนบางชาติ เกลียดอย่างนี้ เกลียดก็เกลียดไม่ฟังเหตุผล เกลียด ๆ ๆ พอด่า ๆ ๆ ๆ ผมว่าพฤติการณ์คล้ายกันหมด แล้วเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังมีพฤติการณ์คล้ายกันอย่างไร ตอนที่คุณบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ มา
ทีนี้ก็คุยกันเรียบร้อย คุยกันชั่วโมงหนึ่ง ผมก็พอมีเวลาเหลือ เราจะคุยกับเขาสิบโมงเช้า เราก็ขอไปตลาดหกโมงเช้า ก็ไปดูเชื่อไหมครับว่าทั้งหมดตลาดสดใน 10 อาเซียน เหลือเรากับฟิลิปปินส์ที่ยังตลาดสดกันเต็มที่ ของเราตลาดสดในกรุงเทพฯ เอกชนมี 165 รัฐบาลมี 51 ทั้งหมดมี 200 กว่า เก็บตลาดสดไว้ ชาวทันสมัยหน่อย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เอาใส่ Super Market หมดแล้ว ไม่มีหรอกครับตลาดสดแบบนี้ Wet Market , Fresh Market ก็ไม่มี แต่จะดูทีขับออกไปชั่วโมงหนึ่ง เหมือนไปดูตลาดไทของเราอย่างนั้น ตลาดขายส่ง นอกนั้นแล้วเข้ามาเข้า Super Market หมด ราคาก็เปลี่ยนแปลง มีแพ็คเกจยิ่งดี เพราะฉะนั้น เราเลยไปขอดู ตลาดเขาใหญ่ครับ ของวางกันเต็มแผง หมู เนื้อ ปลา ปลาน่าสนใจที่สุด ท่านปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ท่านไปด้วยครับ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญปลา โอ้โห เห็นตัวไหน ๆ ท่านชี้ได้เลย ปลานวลจันทร์เยอะเลยครับ ปลานวลจันทร์อยู่เต็มเลยครับ ตัวงาม ๆ ทั้งนั้นเลย ตัวขนาดพอดีจาน โต ๆ ก็มี แล้วก็หั่นมา และปลาบังเอิญมีก้าง เขารับถอดก้างด้วย เอาแหนบมาถอนเอาก้างออกด้วย ตัวหนึ่งคิด 20 เปโซ เขาดีครับ ปลา เรามีผู้เชี่ยวชาญไปด้วยยิ่งสนุกเลยครับ ตัวนั้นเป็นตัวนี้ ตัวนี้ตัวนั้น ตัวนี้อยู่ข้างใต้ ตัวนี้อยู่ข้างบน สถานทูตบอกว่าจะเลี้ยงข้าวกลางวัน ท่านทูตเลี้ยงข้าวกลางวัน ท่านทำอะไร ท่านจะทำสปาเกตตี้แบบคลุกเสร็จ และท่านจะมีอะไรนิด ๆ หน่อย ท่านบอกสถานทูตท่านอบขนมปังเอง กุ๊กไทยนะครับ กุ๊กปริญญา อบขนมปังเอง ทำอะไรต่ออะไรเอง ขนาด Thousand Island Dressing ก็ทำเอง ท่านจะเลี้ยง ผมบอกโอเค งั้นผมจะขอตอบแทน มีทีมไทยแลนด์อยู่ 10 คน สถานทูตมีคนกี่คนบอก 10 ผมจะทำกับข้าวให้กิน 20 คน ก็สนุกครับ ธรรมดาถามราคาเขาไม่เคยซื้อ คราวนี้ซื้อเลยครับ ไปจ่ายเสร็จเรียบร้อยเลย นักข่าวฟิลิปปินส์ก็พอกันครับ ขึ้นไปเหยียบบนเขียงหมูเขาจะถ่ายรูปผม ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ผมซื้อกับข้าวเสร็จ ผมก็ไปทำกับข้าวให้กิน ไม่ใช่อะไรแปลกนี่ครับ เขาเลี้ยงกลางวัน ผมทำผัดเส้นใหญ่ไม่ใส่ซีอิ้ว เจอเส้นฟิลิปปินส์ชื้นไปหน่อย ท่านทูตก็กรุณาไปซื้ออีกตลาดมาให้ ใส่ตู้เย็นไว้ บางอย่างถ้าร้อน ๆ ใส่ตู้เย็นเอาไปผัดดีครับ แต่เย็น ๆ ไปใส่ตู้เย็น มันเย็นมันแฉะ ก็กินกันได้เรียบร้อย เล่าให้ฟังเท่านั้นครับ ไม่มีอะไรพิเศษ พิสดาร และไม่มีอะไรที่ผิดปกติครับ ตามปกติเขาจะเลี้ยงเรา เราก็เลี้ยงเขาตอบหน่อยเท่านั้น ก็เดินทางกลับ เอาละครับเอาเรื่องนี้เพียงเท่านี้
ประเทศต่าง ๆ ส่งความช่วยเหลือแก่พม่า
ถัดไปจะเล่าเรื่อง ผมจะคุยเรื่องน้ำตอนท้ายให้ฟังหน่อย ก็เล่าเรื่องของการที่ไปยุ่งกับเขาเรื่องนี้คือว่า ผมไปเยี่ยมพม่า และพม่ามาเยี่ยมผม ผมก็ไปประชุมที่เมืองลาว ไปถกเถียงกันหน่อยเรื่องอะไรต่ออะไร เรื่องเขาจะไม่ให้พม่าเป็นเจ้าภาพ ผมก็ไปบอกแล้วไปเชิญเขามาทำไมกัน 6 ประเทศเชิญเขามา จะไม่ให้เขาเป็น ตกลงเขาจะลงกัน 6 ประเทศ นายกฯ 6 ประเทศลงมติบอกพม่าอีก 3 ปีคุณเป็นเจ้าภาพ คุณก็ว่าอย่างไร ก็คุยกันดี ท่านกลับมาเยี่ยมผม กินข้าวที่บ้าน คุยกันใกล้ชิด ก็เป็นประโยชน์ตรงที่ว่าเกิดเหตุนาร์กีส ท่านก็บอกเลยว่าที่จริงไม่คิดว่าจะเข้าทางยะไข่ มีภูเขาอยู่สูง 3,000 ฟุต โดนภูเขา พอลงมาต่ำหน่อยเข้าอิรวดี ใครจะคิดมาเวลาดึกดื่นขนาดนั้น พายุนี่ หมุน 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เคลื่อนที่ช้า 13 ชั่วโมงกว่าจะพ้นออกไป เพราะฉะนั้น ก็อาการหนักเลย ผมไปก็ไปเยี่ยมไปฟังไปฟังความดู คนนั้นก็ฝากข่าวไป ท่านเลขาธิการก็ฝากข่าวไป ผมบอกผมอยากให้ท่านเลขาธิการสหประชาชาติมา จะได้เป็นตัวแทนจะได้มาเห็นอะไรต่ออะไร และท่านทูตอเมริกันที่กรุงเทพฯ ก็อยากจะมาดู เขาบอกเชิญ ผมบอกไม่ต้องเชิญก็ได้ ถ้าเขาขอวีซ่าให้เขาก็แล้วกัน ท่านก็จะคิดดูหน่อย ไป ๆ มา ๆ ก็ตกลงว่าเชิญให้เข้าไปเยี่ยม ทางอเมริกันยังไม่ให้ไป แต่ให้สหประชาชาติเข้าไป คุณบัน คี มูน แล้วก็เปิดประตู เขาจะนัดกันประชุมที่กรุงเทพฯ เรื่องที่เกี่ยวกับคนที่นั่น 40 ประเทศที่เขาช่วย
ปรากฏพม่าบอกไปประชุม วันนี้ที่ทำเนียบประชุมอยู่ที่แลงกูล คุณบัน คี มูน ก็ได้ไปเยี่ยม วันที่ 21 พฤษภาคมท่านมา แล้ววันที่ 22 ก็ไปอยู่พม่า ไปดูไปเจรจาความ ก้าวหน้านะครับก็กลับมาเล่าให้ฟัง รุ่งขึ้นกลับมาก็ไปเมืองจีน ไปเช้าเย็นกลับ ไปดูมาเหนื่อยเลยครับ พอเสร็จเรียบร้อยลงจากเครื่องบิน ก็ลงเครื่องบินฟากกะโน้น บน. 6 ผมนั่งอยู่ทางวีไอพี ก็มาเจอกัน ท่านเลขาธิการอาเซียน คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นไทย มาด้วยกัน คุยกับคุณสุรินทร์หน่อย ประเดี๋ยวท่านเลขาธิการมาก็เจอ 2 เลขามานั่งอยู่ด้วยกัน เขาก็ทำพิธีว่าคนนี้ไปก่อนไปตั้งรอ นายกฯ ไทยไปสุดท้าย เขาขอมาครับ ผมบอกผมต้องให้ ไม่มีปัญหาที่ว่างอยู่ โกดัง 3 ใหญ่ทันสมัยเลยครับ เครื่องบินจอดหน้าโกดังเลย แล้วเราก็ให้ความสะดวก เรื่องนี้ผมต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องให้ความร่วมมือกัน ทางสหประชาชาติ คุณบัน คี มูน ก็คุย คุณสุรินทร์ก็คุย เสร็จเรียบร้อยก็ไปเดินดู
ตรงนี้ที่ผมต้องนินทาคนทำ ทั้งนักข่าวทั้งหลายทั้งปวง ไม่รู้จะพูดยังไงถูก เขาบอกต่อไปเชิญท่าน 2 เลขาธิการและนายกรัฐมนตรีไทยก็ไปเดินดูตรวจของที่กองมา คนส่งมาก็มาเก็บเป็นศูนย์ที่นี่ จะทยอยขึ้นเครื่องบินไปพม่าทุกวัน อย่างนี้ถ้า 3 คนเดิน และข้างหน้ามีคนโค้งและถ่ายแป๊บๆ และไปแหวกหน่อย เขาให้ไปดูของครับ นี่ยิ่งเดินไปยิ่งเดินไปก็ยิ่งแน่นขึ้น ๆ มีแต่นักข่าวอยู่ข้างหน้าโค้งเป็นสระอิ และถ่ายรูปแว๊บ ๆ เข้าตา ห่างประมาณ 2-3 เมตร เขาจะให้ไปดูของ กล้องแทนที่จะหันของกับเราที่ไปดู จะถ่ายข้าง ๆ ว่าทั้ง 3 คนไปยืนเอามือไขว้หลังตรวจดูของดูอะไรต่ออะไร มีแต่นักข่าวอยู่ข้างหน้า ถ่ายแว๊บ ๆ ถ่ายแฟลชเข้าไป ผมก็ต้องเสียกิริยามารยาทละครับ ไม่รู้ว่าจะเสียอย่างไร ผมบอกนี่พ่อคุณขอให้แหวกออกไปหน่อย เขาจะให้ถ่ายของข้างหน้าให้คนไปดู แล้วมาอยู่ถ่ายอย่างนี้ นักข่าวฝรั่งมี 2-3 คนเท่านั้น นอกนั้นไทยทั้งนั้น แต่ฟังภาษาไทยไม่ออก ไม่รู้ไม่ชี้เลยครับ ถ่ายกันอยู่นั่น ขึ้นเสียงไปอีกก็กลายเหมือนว่าคนอันธพาลไปเที่ยวว่าเขา ไม่รู้จะทำยังไง เขาพาไปดูใต้ท้องเครื่องบิน ข้าวของที่จะเก็บไว้ มองไม่เห็นข้างบนใต้เครื่องบิน ไปอยู่ใต้ท้องเครื่องบินมองขึ้นไปนักข่าวทั้งนั้น ถ่ายรูปกันแว๊บ ๆ ๆ อะไรกันนักหนา ผมบอกนี่คุณแหวกออกไป แหวกออกหน่อย เขาจะดูของว่าใส่เครื่องบินใส่ได้เท่าไร น้ำหนักเท่าไร คนจะอธิบาย พูดไปเถอะข้างบนถ่ายแต่แฟลช ไหวไหมครับอย่างนี้ จำเป็นต้องพูดไหม ต้องพูดครับ ใครเป็นบรรณาธิการ ใครเป็นนั่น ก็สั่งสอนนักข่าวเสียบ้าง สั่งสอนช่างภาพเสียบ้างว่าควรจะทำอย่างไร ถ่ายคน 3 คนเดินถ่ายได้ไหม ต้องแหวกออกไปเขาจะดูอะไร ต้องถ่ายจากด้านข้างให้เห็นคน 3 คนเดิน ให้เห็นของ มันถึงจะภาพออกมาว่ายังไง นี่จะเอาแต่คนเดินหน้าแล้วถ่ายเข้าตาทั้งนั้น ไม่ว่ากันตอนนี้จะไปว่ากันตอนไหน ไม่ว่าวันนี้จะว่าวันไหน เพราะเหตุเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ เป็นอย่างนี้ละครับ แก้ตัวมาสิว่ายังไง ที่ทำถูกต้องหรือไม่ ไม่ถูกหรอกครับ ผมขายหน้าเขาตรงที่ว่าผมต้องขึ้นเสียงต่อหน้าเลขาธิการสหประชาชาติ ต่อหน้าท่านเลขาธิการอาเซียน คนไทยด้วยกันเองไม่เป็นไร ท่านคงรู้นิสัยผม ไม่ไหวนะครับ ไม่ไหวจริง ๆ รุมกันยุ่บยั่บ ๆ คือจะถ่ายภาพเอาแต่ตัวคนออกไป บรรยากาศเป็นไงครับ คนกับเครื่องบินเดินไปดูชี้ของ เขาจะขนเข้า เจ้าหน้าที่เขาอธิบาย ถ้าถอยไปไกล ๆ แล้วถ่าย ซูมก็มี ได้ภาพได้อะไรชัดเจน ไปกั้นไปทำคอกเข้าก็กลายเป็นไม่มีประชาธิปไตยบ้านเมืองนี้ พอปล่อยเข้าก็เป็นอย่างนี้ละครับ รุมกันเหมือนกับว่าเจอเหยื่อแล้วต้องเอากันให้ได้ ต้องถ่ายกัน ก็พูดซะคราวนี้ครับ นายกฯ ประเทศอื่นเขาไม่พูดหรอก แต่นายกฯ ไทยต้องพูด ให้รู้เสียบ้างว่าอะไรเป็นยังไง เพราะว่าเต็มทีแล้วครับบ้านเมืองนี้
การทำประชามติเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ
เสร็จแล้วก็อยากจะพูดซะตรงนี้หน่อยว่า เรื่องที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ผมบอกแล้วว่าผมจำเป็นจะต้องดำเนินการเพราะว่าเขายื่นมา ตกลงแบ่งกันแล้ว แต่เขายังดำเนินการ เขาจะยื่น พอยื่นเสร็จเขาจะปลุกระดม วันนี้จะปลุกระดมจะล่อกัน แล้วผมจะทำยังไง ผมก็ต้องดำเนินการ ต้องขอบคุณอาจารย์สุขุม นวลสกุล เมื่อเช้านี้ทางช่อง 3 เขาเอามาเลย 4 ข้อ ท่านบอกข้อ 1 ข้อ 2 เข้าแล้วใช้ได้แล้วถูกต้องแล้ว ขอบคุณมากเลยครับ ผมไม่ต้องไปทำรายละเอียด เรียบร้อยครับ แล้วทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ท่านก็คิดว่าต้องมีกฎหมายต้องอะไร คราวที่แล้วโยงใยมาจากว่า รัฐธรรมนูญมาเสร็จแล้วให้ลงประชามติ อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนั้น กำลังนี้กฎหมายประชามติ ของเราผมจำได้ว่าเคยมี กำลังจะให้เขาดูว่ามี ไม่มี ถ้าไม่มี ก็ออกพระราชกำหนด ไม่มีปัญหาครับ ออกพระราชกำหนดไม่ต้องเลือก บังเอิญคราวนี้เกี่ยวกับเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ แต่มันไม่ต้องไปเข้าอะไรกับใครหรอกครับ ลงประชามติอย่างเดียวว่าแก้หรือไม่ เท่านั้นละครับ จะได้แบ่งฝ่ายกันเลย ถ้าบอกว่าไม่แก้ ก็ไม่ต้องแตะต้อง ทิ้งไว้อย่างนี้ เพราะประชามติว่าอย่างนั้น ถ้าบอกแก้ ผมให้เวลา 45 วัน หากเดือนครึ่งรณรงค์กันเลยครับ ใครจะบอกเลวดีเลวยังไง ทำไมถึงจะต้องแก้ เป็นยังไง เขย่งยังไง ต่างคนต่างหันมาสู้กันเลยครับ สู้กันในทางความคิด แล้วชวนประชาชนไปโหวตเลยว่าแก้หรือไม่แก้ ถ้าเขาบอกแก้ แก้ยังไงก็ไปว่ากันอีกที ก็อยู่ที่จำนวนคนแก้เขาเป็นคนวินิจฉัย ถูกต้องตามกฎหมาย มาด้วยการเลือกตั้ง มาด้วยการแต่งตั้ง เขาถูกต้อง คนทั้งหมดละครับ 150 บวก 480 และเขาก็มีกำหนดไว้เสร็จว่าจะแก้อย่างไร อธิบายให้ชัดเจนซะนะครับ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร จะทำไม่ได้ โน่นไม่ได้ยังไง ผมอยู่มะนิลาเขาโทรศัพท์ไปบอกข่าว เขาบอกว่าก้าวก่าย รัฐบาลก้าวก่ายสภา บอกจะออกพระราชกำหนดวินิจฉัย เขาบอกสภายื่นแล้ว เอาเถอะว่าไปเถอะ สภาเขาไม่มีสตางค์มาจัดการทำเรื่องพรรค์อย่างนี้ รัฐบาลเป็นคนทำ ประชามติต้องรัฐบาลเป็นคนตัดสินใจดำเนินการ เข้าใจเรื่องซะแล้วก็ปล่อยตามสภาพ ให้เดินหน้าไปตามธรรมชาติบ้าง
โครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขงเพื่อการเกษตรในภาคอีสาน
ทีนี้จะคุยให้ฟังเรื่องที่ว่าผมกำลังจะประชุมเรื่องน้ำ และโครงการต่าง ๆ ทำไว้แล้วหลายเล่มเรียบร้อยครับ ผมก็ส่งไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต่าง ๆ ที่จะได้ช่วยกันออกความคิดเห็น ได้ช่วยกันแสดงความเห็นต่าง ๆ มา ถึงจะเล่าให้ฟังได้ว่าตกลงจะทำอย่างไรน้ำเอามานี้ อย่าลืมนะครับมีผู้ช่วยศาสตราจารย์เขียนลงหนังสือพิมพ์ว่า เรื่องผันน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรในอีสานเพียงแต่คิดก็โง่แล้ว ผมก็จำคำนี้ไว้เลยครับ ลงในหนังสือพิมพ์ เพียงแต่คิดก็โง่แล้ว ผมต้องยอมโง่ครับ เพราะว่าเราอยากจะได้น้ำมาเพื่อการเกษตรทางภาคอีสาน นาภาคอีสานนั้นนาน้ำฝนเท่านั้นนะครับ แล้วน้ำที่มีนี้ สภาพทางภูมิศาสตร์ก็แสดงให้เห็นว่าเขื่อนใหญ่อยู่ทางตะวันตก และ...ที่รับน้ำใช้อยู่ทางตะวันออก มีแม่น้ำสองสาย แม่น้ำพองเป็นแม่น้ำเล็ก แม่น้ำชีเป็นแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำมูลเป็นแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำชีกับแม่น้ำมูลไปเจอกันก่อน ถึงตรงนั้นก็ออกไปทางยโสธร ออกไปที่อุบลราชธานี ฝั่งวารินชำราบไปนั่น แล้วก็ออกไปที่โขงจียมลงแม่น้ำโขง สภาพของมันน้ำอยู่ตะวันตกไหลไปลงตะวันออก ไหลลงแต่มีไม่มากพอ แม่น้ำโขงนี้ประเทศไทยหันหน้าขึ้นไปจังหวัดเลย พอเลยก็ผ่านไปอุดรธานี ผ่านหนองคาย แล้วก็โค้งไปก็ลงมาถึงอุบลราชธานี จำง่ายครับ เลยถึงเวียงจันทน์ หนองคาย แล้วลงไปมาโค้งมาอุบลฯ มุกดาหาร เดี๋ยวก็โขงเจียมแล้วเข้าเขมรไป เส้นทางยาว 700 กิโลเมตรครับแม่น้ำโขงที่สัมผัสประเทศไทยอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องคิดครับ วันนี้จะคิดให้ฟังว่า ยืดยาดไหม ไม่ยืดยาดหรอกครับ เราตัดสินใจเซ็นชื่อกับลาวไปแล้วด้วย
คิดอะไรครับ คือเริ่มต้นก็อยากจะให้ผันแม่น้ำโขงเข้ามาในของเรา โบราณจริง ๆ ที่ท่านพลตรี ถวิล อยู่เย็น เล่าให้ฟังไว้ก็คือว่าที่ปักลายห่าง 29 กิโลเมตร มะม่วง 7 ต้นบ้านเรา ไปดูมาแล้วไปตรวจมาแล้วตั้งแต่เป็นรองนายกรัฐมนตรี น้ำจะขึ้นสูงทั้งหมด 15 — 20 เมตร เลยจากปกติ 3 เมตรก็จะเข้าอุโมงค์ วิ่งตลอดมา 29 กิโลฯ มาออกน้ำปาด ปล่อยธรรมชาติเข้าน้ำปาดก็จะลงเขื่อนสิริกิติ์ นี่เป็นเบื้องต้นเลยครับเอาน้ำโขงมาใส่ทางนี้ น้ำสาละวินใส่เขื่อนภูมิพลจะพูดกันทีหลังวันหลัง แต่วันนี้จะพูดถึงอีสาน ซึ่งความคิดที่ได้รวบกันมาทั้งหมดแล้วก็เล่าให้ท่านฟังได้วันนี้เพื่อเป็นความหวังว่า จะดำเนินการได้ แรกที่สุดคือว่าที่จังหวัดเลย ที่เชียงคานระดับน้ำธรรมดามี 214 เขาเอาเวลาที่เหลือน้อยที่สุดเอา 194 ตรง 194 นั่นละครับถอยออกมาตรงเขื่อนอุบลรัตน์ ยาวประมาณสัก 80 กว่ากิโลเมตร ก็มีคนเห็นด้วยละครับเปิดทางให้น้ำแม่น้ำโขงเข้ามาในประเทศไทย แล้วจะวิ่งใต้อุโมงค์ที่จะขุดประมาณ 80 กิโลเมตร ไม่ต้องไปสร้างอ่างอื่นอะไรครับ ลงเขื่อนอุบลรัตน์ ส่งเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ แล้วจากเขื่อนอุบลรัตน์จะมีน้ำที่จะสูงขึ้นมากขึ้น จะส่งออกไปลงไปยาว ลงไปถึง ที่จริงจะหวังน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ เข้ามาที่ลำตะคอง บัดนี้จะมาใกล้ลำตะคอง มาแถวด่านขุนทด หลวงพ่อคูณ แล้วจะสูบขึ้นเพียง 30 เมตร สูบเดียวเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นถ้าน้ำผ่องถ่ายมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ มาถึงด่านขุนทดแล้วก็จะยกระดับขึ้น 20 — 30 เมตรเท่านั้น สูบหนเดียวเท่านั้นครับ ก็จะส่งลงลำตะคอง แล้วพอลำตะคองน้ำมากขึ้นก็ธรรมดา คือมาจากเขาใหญ่ลงธรรมดาแล้ว น้ำลำตะคองจะเป็นต้นน้ำมูลสายหนึ่ง คือเป็นน้ำที่ส่งไปเลี้ยงโคราช และจากโคราชก็จะเลี้ยวไป ไปเชื่อมกับน้ำมูลที่ลงมาจากสายน้อยสายใหญ่ ทางลำพระเพลิง
คำอธิบายง่าย ๆ อันนี้คือว่าเอาน้ำจากเหนือจังหวัดเลยคือที่เชียงคาน เข้ามาในประเทศไทย แล้วเข้าอุโมงค์ แล้วจะส่งมาลงที่เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนอุบลรัตน์นั้นส่วนหนึ่ง คือเขื่อนอุบลรัตน์ถ้าเปิดออกไปแล้วลงน้ำพองแล้วก็จะเข้าน้ำชี และจะเข้าทางอีสาน นี่ส่วนหนึ่งครับแล้วยังเอื้อเฟื้อได้อีกคือลงมาจนกระทั่งถึงด่านขุนทด แล้วก็ยกระดับเพียง 20 — 30 เมตร ก็จะส่งลงลำตะคอง ก็จะเป็นต้นน้ำที่จะส่งไปให้น้ำได้เลี้ยงทางอีสาน ทางโคราช ที่เป็นน้ำบริโภคน้ำใช้
ถัดไปคือว่าที่น่าสนใจจริง ๆ อันนี้ธรรมชาติมีอยู่แล้วครับ ที่โพนพิสัยมีประตูน้ำที่ทำเอาไว้แล้ว น้ำโขงถ้าขึ้นธรรมดาถ้าวัดจากหนองคายที่ผมจำได้ง่าย ๆ คือ 12 เมตรอยู่แปะแม่น้ำ 13 เมตรท่วมของหนองคาย 1 เมตร ธรรมชาติเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อตรงโพนพิสัยเขาก็ทำไว้ ถ้าน้ำเต็มแม่น้ำละก็จะเกินอยู่ถึง 6 เมตร เขาทำประตูไว้แล้วเรียบร้อยครับ แต่ทำไว้แล้วให้น้ำเข้ามาไม่ได้ เพราะว่าที่ดินที่น้ำจะเข้ามานั้นยังไม่ได้ตกลงกันเรื่องว่าจะจ่ายค่าเวนคืนอะไรอย่างไร ที่เอกชนจะต้องที่รับน้ำ ผมก็บอกได้ทันทีเลยว่า น้ำแม้แต่ตอนนี้จะไม่ขึ้นมา 6 เมตรล้ำกว่าธรรมดา เพราะมีเขื่อนที่จะเฉลี่ยน้ำให้ต่ำกว่าธรรมดา น้ำหน้าน้ำมันจะต่ำกว่า ก็จะตกลงกันเรื่องกรรมสิทธิ์ของที่ดินข้างหลังนั้น รัฐบาลต้องลงไปดูแลครับ เพราะน้ำถ้าปิดประตู ธรรมดาถ้าน้ำเต็มเปิดประตูน้ำจะเข้ามาเต็มหมดเลยครับ เข้าเต็มหมดเลยถ้าปิดประตูแล้วน้ำแม่น้ำโขงต่ำ มันก็อยู่เต็ม แล้วน้ำนี้ไปได้ถึงลำปาว ไปได้ถึงลำปาวเข้าไปข้างในเลยครับ เรื่องนี้น่าสนใจมาก เราก็เลยตั้งใจไว้เลยว่า แม้ว่าน้ำจะไม่ล้นเหมือนอย่างแต่ก่อนเพราะว่าจีนทำเขื่อน 3 เขื่อนอยู่ข้างบน แต่น้ำที่เคยแล้งนั้นจะไม่แล้ง เพราะว่ามีเขื่อนแล้วจะทำให้น้ำซึ่งเคยแล้งแห้งเดินข้ามนั้นเดินข้ามไม่ได้ จะมีน้ำเหมือนกับที่ทางเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก สมัยก่อนหน้าแล้งเดินข้ามได้ แต่พอมาสมัยนี้มีเขื่อน ทุกวันน้ำต้องปล่อยจากเขื่อน ต้องทำให้ไฮโดร ต้องทำทุกวัน ปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เพราะฉะนั้นน้ำจะต้องติดท้องแม่น้ำตลอด แม่น้ำโขงก็อยู่ในลักษณะนี้
ไทย-ลาว ตกลงร่วมมือในโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขง
ทีนี้เราก็ตกลงว่าถ้าจะทำง่าย ๆ ที่สุดคือประตูน้ำปิดแล้วสูบเลยครับ ขึ้นมาใกล้เท่าไรแล้วต้องสูบลง แล้วตกลงเรื่องที่ แล้วน้ำจะเข้ามาถึงลำปาว นี่บริเวณแสดงให้เห็น แต่ที่น่าสนใจที่สุดนั้นที่จะอธิบายต่อไปนี้คือว่า จีนทำเขื่อน 3 เขื่อน 1 — 2 -3 ไม่ใช่เพื่อการเกษตร เอาน้ำทำไฟฟ้าทั้งนั้นเลย แปลว่าทำไฟฟ้าก็ต้องปล่อยตลอด เพราะฉะนั้นน้ำจะต้องอยู่หลังเขื่อนเต็มอยู่ กักอยู่ แล้วเขาก็ปล่อยลงมา เมื่อปล่อยลงมาแล้วน้ำของเราซึ่งหน้าน้ำมีมาก บัดนี้หน้าน้ำก็จะมีไม่มาก แต่ว่าจะมีน้ำตลอดทั้งปี เป็นประโยชน์ครับ เพราะฉะนั้นถ้าจีนทำลักษณะนั้นได้ ไทยกับลาวก็ตกลงกันสองฟาก ลาวติดแม่น้ำโขง 1,400 กิโลเมตร ไทยติดแม่น้ำโขง 700 กิโลเมตร บัดนี้ไทยกับลาวก็จับมือกันแล้วแน่นอน เราไม่เรียกเขื่อนครับ เขื่อนเป็น Dam แต่อันนี้ถ้ากันข้าง ๆ เขาเรียก Levee (เขื่อนกันน้ำท่วม) ตัวนี้ธรรมดาถ้าเป็นน้ำเป็นลำธารกั้นพัวะลงไปเขาเรียกว่า Check Dam ก็เรียกว่าฝายแม้ว Check Dam นี้ถ้ามีน้ำอยู่ข้างบนแล้วถ้าเผื่อไม่มีกันไว้ มันตกลงมาก็ไหลหมด พอกันไว้ ต้องพูดถึงห้วยฮ่องไคร้(ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริห้วยฮ่องไคร้) ที่ดอยสะเก็ด อยู่นอกเชียงใหม่ออกไปหน่อย แต่ก่อนเป็นภูเขา ต้นไม้มีหรอกครับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า ตรงนี้ถ้าใส่กันไว้ตรงนี้ก็จะมีน้ำเป็นอ่างเก็บน้ำข้างบน แล้วน้ำค่อย ๆ ปล่อยลงมา ปล่อยเป็นลำธารออกไปหมด อาบทั้งหมด ถ้าปล่อยอาบก็โชกก็หายหมด เขาก็ทำ Check Dam เป็นลำธาร ๆ ๆ แล้วก็เป็น Check Dam ซึ่ง Check Dam แปลว่าน้ำถอยหลังครับ แล้วก็โดนล้นลงมาก เพราะฉะนั้นน้ำจะไหลช้าลง แล้วจะได้ใช้ประโยชน์
ห้วยฮ่องไคร้กลายเป็นที่เขียวชอุ่มไปทั้งภูเขาทั้งหมด ก็เป็นโรงเรียน โรงเรียนเหนือคือห้วยฮ่องไคร้ โรงเรียนตะวันออกเฉียงเหนือก็อยู่ที่สกลนคร โรงเรียนภาคกลางอยู่เขาหินซ้อน ฉะเชิงเทรา โรงเรียนภาคใต้อยู่ที่ทางใต้ โรงเรียนที่คนจะต้องศึกษาก็ไปดูไปเรียน ก็มีสอนทุกอย่างอยู่ในนั้น สอนเป็นตัวอย่าง เพราะฉะนั้นวิธีการที่คิดคือว่า Check Dam คือฝายแม้วกั้นแล้วน้ำถอยหลัง แล้วก็ใช้แล้วล้นลงมา บัดนี้ไทยกับลาวตกลงกันแล้วครับ ว่าแม่น้ำโขงเมื่อกั้นแล้วให้น้ำถอยหลังแล้วน้ำจะล้นลงไป แปลว่าแทนที่จะไหลลงไปถึงผ่านเขมร ผ่านเวียดนาม แล้วลงทะเลหมดนั้น บัดนี้กักไว้ใช้ คือเป็น Check Dam แต่จะเป็น Check Dam อยู่ในแม่น้ำโขง ล่างสุดนั้นอยู่ที่บ้านกุ่ม อุบลราชธานี ที่ตกลงไว้แล้วเซ็นสัญญากันแล้วด้วยครับ กำลังทำทฤษฎี study ก็คือจะทำ Check Dam อันนี้สูงขึ้นมา 18 เมตรครับ เขื่อนใหญ่ ๆ สูงมโหฬารต้องเป็นตัว V อย่างนี้เขื่อนถึงจะใหญ่อย่างนี้ เขื่อน Hoover เขาเรียกเป็นออบ เป็น Gorge อย่างของจีน Three Gorgeous เขาเรียก 3 ผา ความจริงต้องเรียกว่า 3 หลืบ เป็นหลืบน้ำเข้ามาเขื่อน 3 หลืบ
ทีนี้ตัวนี้ของเราแม่น้ำโขง ถ้ามาจากสูง ๆ ผมเคยนั่งเรือลงจากจิงหง คือสิบสองปันนา นั่ง 12 ชั่วโมงมาเชียงราย 280 กิโลเมตร ตอนนั้นเป็นที่เรียกภาษาฝรั่งว่า Socket คือสูงขึ้นไปเป็นตัว V ป้านอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นน้ำแม่น้ำโขงเวลาน้ำมากจะขึ้นจากพื้นธรรมดา 15 เมตรขึ้น 20 เมตรเป็นพิเศษ มันขึ้นขนาดหนัก จีนก็เลยทำเขื่อน 3 เขื่อน แต่เป็นเขื่อน Hidro คือไฟฟ้า ต้องปล่อยน้ำตลอด ดันไฟฟ้าก็ปล่อยน้ำตลอด เพราะฉะนั้นน้ำหน้าน้ำมันถูกเก็บไว้ แต่ถ้าน้ำต่อมาไม่ปล่อย ต้องปล่อยต้องเดินไฟ ไม่อย่างนั้นต้องออก Spillway ก็ทำให้น้ำหน้าแล้งซึ่งมันจะไม่มีนั้นมีครับ มีน้ำมากเดินเรือได้ด้วย ลงมาข้างล่าง เมื่อวันก่อนผมไปประชุมที่ลาว ผ่านสะพานข้ามสะพาน ผมนั่งรถไปครับ ข้ามดูกำลังจะสงกรานต์ ถ้าตอนสงกรานต์นี้เดินข้ามฟากเลยครับ แต่น้ำมี น้ำมีพอเล่นสงกรานต์ได้เลย ก็แสดงว่าที่กรมชลประทานเล่าให้ผมฟังนั้นเป็นความจริงแน่นอนว่ามีเขื่อนแล้วทำให้มีน้ำ ไม่ใช่มีเขื่อนแล้วน้ำหมด
เล่าให้ฟังตรงนี้คือว่าบัดนี้เราตัดสินใจแล้วครับ เราจะทำ Levee ขวางแม่น้ำโขง ไทยกับลาวจะทำ 3 จุด จะมีที่บ้านกุ่ม จะมีที่โพนพิสัย แล้วก็จะมีที่อีกแห่งหนึ่ง ผมนึกชื่อไม่ออก 3 ชื่อครับ จะมีนี่กัน สูงไม่มากครับสูง 18 เมตร ตรงบ้านกุ่มตรงโน้นลาวตรงนี้ไทย เป็นตัวเหมือนกับคราวฝายแม้ว 18 เมตร สูง 18 เมตรจะทำให้น้ำจากสันเขื่อนถอยหลังไปยาวที่จะเต็มลำแม่น้ำโขง เต็มตลอดครับ 110 กิโลเมตร ฝายแม้วกั้นลงไปก็ถอยยาวไป ปลูกหอมปลูกกระเทียมหมดกั้นลงไป คือข้างบนถอยลงมา น้ำไหลตะแคง น้ำแม่น้ำโขงไหลลงเสมอไม่มีไหลขึ้น เพราะฉะนั้นใส่ Check Dam ลงไปปั๊บที่บ้านกุ่ม ถอยหลัง 110 กิโลเมตร ทางลาวบอกว่าท่วมหมู่บ้านลาว 7 หมู่บ้าน แต่ช่างมันเถอะ ทางไทยท่วม 2 ลาวท่วม 7 นายกรัฐมนตรีลาวบอกตกลง 7 กับ 2 ท่วม แต่เราได้ใช้น้ำแน่นอน น้ำจะอยู่ถอยหลังไป 110 กิโลเมตร นี่อันแรกครับ
อันที่สองจะอยู่ที่โพนพิสัย ก็จะถอยบ้าง อันนี้ตัวเลขยังไม่มา ก็จะถอย สุดท้ายนี้อยู่ตอนก่อนจะถึงเลย แปลว่าเราจะมีกั้น 3 ฉึก เพราะฉะนั้นเท่ากับมีน้ำเต็มแม่น้ำโขงอยู่ตลอด 1 ล็อค 2 ล็อค 3 ล็อค ถ้ามันเต็มแล้วเป็นอย่างไรครับ เต็มแล้วก็จะเอาน้ำที่ผมว่านี้ ที่โพนพิสัย ตอนนี้พอขึ้นถึงระดับก็ปล่อยเปิดประตูเลยครับ ข้างหลังเปิดประตูแล้วเข้ามาไม่ต้องสูบเลย ระหว่างที่ยังไม่สร้างนี้ปิดประตูแล้วสูบเอาน้ำเข้าก่อน แต่พอกั้นเขื่อนเสร็จเรียบร้อย ระดับสูงเสร็จเปิดประตูแล้วเข้าเลยครับ น้ำจะเข้ายาวไปถึงลำปาว เข้าไปข้างใน เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งหมด น้ำที่จะเข้าจากที่ Tunnel ที่ก็จะทำ น้ำที่จะยกระดับที่เหนืออยู่ทางเหนือนั้นก็จะทำ แปลว่าน้ำแม่น้ำโขงจะมีการเต็มลำแม่น้ำตลอดทั้งปีครับ เวลาที่หน้าน้ำมาจริง ๆ ต้องออก Spillway แต่เดี๋ยวนี้มันมาไม่จริงแล้ว เพราะน้ำมามากแต่ไม่ได้ล้น เพราะจีนมีเขื่อน Hidro จีนทำได้ ไทยกับลาวก็ตกลงจับมือกัน อธิบายอย่างนี้ท่านต้องพอมองเห็นครับ ถ้าเป็นคลองธรรมดาแล้วตะแคงน้ำไหลลง กั้นลงไปก็ต้อง Down ลงไป เสร็จแล้วก็เรียก Overflow ออก Spillway ต้องลดลงมา ก็ไหลลงมา ๆ ตรงโน้นกั้นอีกก็ไหลลงมา นี่ละครับคือสิ่งซึ่งรัฐบาลนี้จะเป็นคนทำ แล้วลงมือเซ็นสัญญากับลาวไปแล้ว ต่อไปจะเซ็นอีกเส้นหนึ่ง จะเซ็นที่ตรงกับโพนพิสัย แล้วจะเซ็นอีกอันหนึ่งที่ตรงเหนือหนองคายขึ้นมา เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ว่าถ้าไม่คิดไม่กล้าตัดสินใจก็ไม่มีวันได้ทำ แต่รัฐบาลนี้คิดและตัดสินใจ แล้วจะลงมือทำ
ยืนยันทำโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขงให้ถูกต้องตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ
อีกอันหนึ่งซึ่งเขาคำนวณอยู่ ซึ่งผมก็บอกว่าถ้าทำก็ทำ สุดแท้แต่ น้ำที่น้ำงึม น้ำงึมเป็นที่ที่น้ำมาก แล้วทางลาวเขาก็ปล่อยน้ำจากเขื่อนของเขาแล้วลงแม่น้ำโขง เราก็จะขอน้ำที่มาจากน้ำงึม พอผ่านแม่น้ำโขงกำลังนี้เขาคิดให้ฟังเป็น Tunnel เป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำโขงมาประเทศไทย ตัวระดับสูงของทางน้ำงึมลงมานี้สูงกว่าครับ ทางไทยต่ำกว่า เพราะฉะนั้นน้ำที่เขาจะปล่อยลงแม่น้ำโขง เราก็จะขอแบ่งลง Tunnel แล้วก็เหมือนกาลักน้ำ ลงมาแล้วข้ามเข้าประเทศไทย นั่นก็เป็นอีกแนวหนึ่ง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ใหญ่โตมโหฬาร มีผู้คนที่เขามีทั้งเทคโนโลยี เขามีทั้งเงินที่เขาจะทำ ก็พวกนี้ละครับ จะมีโอกาสได้พัฒนา ทั้งหลายทั้งปวงก็จะบอกให้ฟังว่าจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งกฎหมายในประเทศของเราเอง ทั้งการหาแหล่งเงินมาทำ ทั้งวิธีการ
อย่างไรก็ตามแต่น้ำเวลานี้ อีสานปลูกข้าวปีละ 10 ล้านตัน ข้าวเปลือกแต่ใช้น้ำฝน มีน้ำที่เอาเข้าไปจากแม่น้ำมูลน้ำชี ก็มีระยะ ปีหนึ่งจะขาดอยู่ 4 เดือน เมื่อดำเนินการอย่างนี้แล้วก็จะดำเนินการอย่างเดียวกันเพราะแม่น้ำมูลก็ไม่เดินเรือ แม่น้ำชีก็ไม่เดินเรือ เวลานี้เขามีฝายยางอะไรต่าง ๆ เราจะพัฒนาเรื่องนี้ละครับ น้ำเข้ามาแล้วทำเป็นล็อค ๆ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่ใช่วิธีพิสดารอะไรนักหนาที่ทำไม่ได้ และจำเป็นจะต้องทำด้วย ก็รายงานคืบหน้าไว้ครับ เขาส่งสัญญาณ 10 นาทีจะหมดเวลา ผมจะเฉลี่ย ๆ แบ่งตอบคำถามบ้าง เพราะว่าถ้าไม่ตอบคำถามก็เหมือนกับว่าพูดเอาแต่ได้ข้างเดียว
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม เรื่องการขึ้นราคาน้ำมันทุกปั๊มควรจะต้องโชว์ต้นทุนให้ประชาชนดูด้วยเพื่อความโปร่งใส เพราะปีที่แล้ว ปตท.กำไรสูงมาก ปีนี้ควรจะช่วยชาติเพราะเดือดร้อน
นายกรัฐมนตรี พูดอย่างนี้ง่าย ๆ ดีกว่าครับว่า ใครจะทำมาหากินอย่างไรจะมาแสดงความสุจริตกันนั้น บางทีไม่ได้ทุจริตหรอกครับ เขาก็กันไว้ เขากันไว้ที่เขาจะหากำไรในธุรกิจของเขา เขาเป็นบริษัทซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ ความโปร่งใสต้องมีอยู่ในตัวแล้ว แต่ว่าทำธุรกิจการค้าต้องให้โอกาสเขาบ้างครับ จะร้องทุกข์ว่าให้เอากำไรมาแบ่งหน่อยมาลดราคาหน่อยก็พอได้ครับ แต่ว่าลองจะดูสิว่าในทางสากลนี้ เขาจะทำอย่างไรกันไหม คือแม้ ปตท. จะเอื้อเฟื้อมา ต่อไปก็หดหายกำไรหด คือไปทำอย่างนั้นเข้าปั๊บคนที่ถือหุ้นเขาบอกว่าอย่างนี้ได้อย่างไร ทำธุรกิจอย่างนี้ต้องมีกำไรบ้างอย่างนั้น ผมไม่ออกรับแทนเขาหรอกครับ แต่ว่าที่สิ่งบอกมานี้เขาคงเอื้อเฟื้อได้เป็นครั้งคราว ท่านรัฐมนตรี พลโทหญิงฯ (พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ท่านก็พยายามเบี่ยงไปเอาโน่นเอานี่ คือถ้าหากสมัยก่อนไม่บ้าเลือดขนาดนี้ สมัยบาร์เรลละ 50 เหรียญ 60 เหรียญก็ยังพอนั่นได้ มันเข้าไปหยุด มันหยุดอยู่กับที่ แล้วเขาก็นั่นไว้ เขาเก็บแพงแล้วก็หยุดตรงแพง เขาเก็บสะสมไว้ มันแพงขึ้นอีกเขาก็เอามาช่วย เดี๋ยวนี้ไม่ มันเดินตามวัน เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องตลก
ผมขอท่านทั้งหลายได้โปรดเถอะครับว่า ถ้าเราสู้มันไม่ได้ก็ต้องหาทางเบี่ยงบ่ายไปอย่างอื่น เวลานี้แอลกอฮอล์เข้าไป E 80 เติม 20 เชื่อว่าไม่นานจะต้องได้ 30 — 40 คิดทางนี้ดีกว่า คิดทางดีเซลท่านจะทำอะไรต่าง ๆ ก็น่าจะคิดมากกว่า แต่ความบ้าของคนที่ขึ้นราคามันไม่มีเหตุผล ก็คิดสิบอกถ้าเกิน 100 ก็บ้าแล้ว แล้วมา 110 120 เมื่อวันที่น้ำมันดิบสุดท้าย 129 ป่านนี้ขึ้นไป 130 แล้วก็พูดกันแบบชนิดทำหน้าตาเยาะเย้ยถากถาง จะขึ้นไม่ถึง 150 จะขึ้นไม่ถึง 200 ไอ้บ้าคนหนึ่งพูดเมื่อวานบอกว่าจะ 300 เหรียญ ถึงบ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องใช้กันแล้วครับ ต้องย้ายไปใช้ทางอื่นแล้ว ถึงขนาดนั้นกำลังนี้ราคานี้ไม่มีเหตุผล คือถ้าปั่นราคาทองยังพอได้บ้าง มันของมีค่าแล้วปั่นกันไปปั่นกันมา นี่ปั่นราคาแล้วเศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วนหมด คนในโลกจะยอมให้เล่นอย่างนี้เท่าไรก็สุดแท้แต่ หัวโจกที่เที่ยวไปชี้แจงใครต่อใครต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็อยากจะดูสิว่าการปั่นนี้มันมาจากคนที่หุบปากไม่พูดอย่างไรหรือเปล่า น่าคิดนะครับ ไม่มีเหตุผล ราคาน้ำมันซึ่งขึ้นเอา ๆ ไม่ใช่หมด ไม่ใช่ ยังมีอยู่ แต่ว่าปั่นราคากันตามใจชอบ แล้วอ้างว่าเพราะดอลลาร์อเมริกาตก มันจะตกอะไรหนักหนา มันสวนทางกับที่ขึ้น เหตุผลที่ฟัง ๆ ไม่ขึ้นหรอกครับ การปั่นอย่างนี้ควรจะมีรับผิดชอบ ราคาข้าวขึ้นมาหน่อยเดียวเท่านั้นมีคนแว้กเข้ามาแล้ว แต่ราคาน้ำมันขึ้นพรวด ๆ ผมก็คำถามยังตอบไม่ตรงหรอกครับ แต่ว่าเหมือนกับไปออกรับแทน ปตท.เขา เขาเป็นธุรกิจครับ เจาจะแบ่งปันกำไรมาให้นั่น ถ้าหมดตัวไปแล้วคนถือหุ้นเขาจะว่าอย่างไร ธุรกิจการค้าต้องพอสมควรแก่เหตุ เขาค้ามากเขาก็กำไรมาก เท่านั้นเองละครับ
คำถาม อยากทราบว่าทางการจะให้เรียนฟรี 12 ปีเมื่อไร ทำไมยังถูกเก็บระดมทรัพยากร
นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ต้องพูดให้เห็นชัดเจนครับ เรียนฟรีเขาให้เรียนฟรีอะไรอย่างไรต่าง ๆ แล้วสิ่งที่ควรจะต้องทำก็คือโรงเรียนต้องบอกมาเลยบอกว่า ถ้าฟรีแค่นี้อยู่ไม่ได้ต้องเก็บแค่นี้ ประกาศมาเลยให้รู้กันไป ไม่อย่างนั้นก็งุบงิบ ๆ บอกว่าเรียนฟรี รัฐบาลต้องการให้เรียนฟรีครับ แต่อะไรอื่น ๆ ซึ่งคนเป็นเจ้าของโรงเรียนเขามีวิธีการที่จะพลิกแพลง ท่านทั้งหลายต้องมีหน้าที่เอามาช่วยประจาน บอกเลยว่านี่ไม่จำเป็นทำทำไม ผู้ปกครองประจานเลยครับ ไม่ต้องไปออกชื่อว่าเป็นใคร ส่งเอกสารมาถึงผมก็ได้ ผมจะช่วยประจานต่อให้ ว่าโรงเรียนนั้นต้องการอย่างไร นี่สิครับที่จะคิด เรื่องต้นทุนน้ำมันกับต้นทุนโรงเรียน โรงเรียนควรจะแสดงอย่างยิ่งว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร เรียนฟรีเขาตกลงมีแน่นอนครับ 12 ปี แต่ว่าอย่างอื่นนั้นก็ต้องขอตรวจสอบว่าโรงเรียนเขาจะเข้ามาทำให้ปั่นป่วนอย่างไร
คำถาม ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐแพงมาก ราชการเบิกได้ปีละ 15,000 บาท ค่าเล่าเรียนปีละ 40,000 บาทอยากให้ช่วยกรุณาดูด้วย
นายกรัฐมนตรี 40,000 บาท เขาเรียนตามหน่วยกิตครับ คำนวณราคากันอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ว่าเบิกได้ 15,000 บาท เรียนปีละ 40,000 บาท ผมจะถามนายแพทย์สุรพงษ์ฯ (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ดูว่า เรื่องอย่างนี้เป็นไปได้อย่างไร จะถามคุณสมชายฯ รัฐมนตรีด้วย (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) ข้อนี้ตอบทันทีไม่ได้ครับ แต่จะแยกไว้ต่างหาก ใบนี้ต้องเอาไปถาม ค่าเล่าเรียน 40,000 บาทแต่เบิกได้ 15,000 บาท ทำไม ต้องมีคนตอบคำถามครับ แล้วผมยังจะมาพูดที่นี่อยู่ เอามาชี้แจงแน่นอนครับ
คำถาม ให้ท่านพิจารณาให้สิทธิเบิกเงินค่าพยาบาลแก่ลูกจ้างประจำที่เกษียณแล้ว อายุราชการ 25 ปีขึ้นไปบ้าง จะรอฟังคำตอบ
นายกรัฐมนตรี ต้องเอาไปดูครับ อย่างนี้ต้องไปถามเลยว่าตำราเป็นอย่างไร เขาอย่างไรครับ บางอย่างตอบได้ตอบทันทีครับ ตอบไม่ได้ต้องเอาไปดูว่าทำอย่างไร
คำถาม อยากให้ท่านสมัครฯ ช่วยดูแลนโยบายการทำหมันสุนัขด้วย ติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเขตต่าง ๆ บอกไม่ใช่หน้าที่ อยากทราบให้หน่วยงานไหน
นายกรัฐมนตรี ค่าทำหมันต้องมีค่าใช้จ่าย มีสัตวแพทย์จำนวนไม่มากครับ กทม. ที่อยู่ผมจำได้เขามี 35 คน แล้วสุนัขเรามีเป็นล้าน จะได้ทำกันหมดอย่างไร ที่จริงเอกชนเขาก็รับทำครับ ถ้าเผื่อเรารักหมาของเราก็ให้เอกชนทำ เขามีที่ทำครับ จะขอรายละเอียดให้ก็แล้วกันครับ ที่จริงทำให้เขาทำพอสมควร จะขอรายละเอียด ผมไปงานก็นั่งที่นั่งใกล้ ๆ กับผู้ว่าฯ อภิรักษ์ฯ (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) บ่อย ๆ จะสอบถามให้เรื่องนี้ครับ
คำถาม อยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยปรับราคาแท็กซี่มิเตอร์ และต่อวิทยุสื่อสารรายเดือน
นายกรัฐมนตรี มีคนร้องทุกข์มาเยอะ เรื่องนี้ก็จะดูสิครับว่า ความจริงยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมควรจะมีคนมานั่งช่วยคิดให้หน่อยครับ อะไรต่ออะไรปรับได้แต่แท็กซี่ไม่ให้เขาปรับ อ้างว่าเขาใช้แก๊ส เรื่องพรรค์อย่างนี้ตัวแก๊สก็ถูก ใช้ทุกคนไม่ใช้ทุกคน ขอรับไปดูให้ก็แล้วกันครับ เรื่องต่อนี่ก็เหมือนกัน ค่าวิทยุสื่อสาร
คำถาม อยากทราบว่ารัฐบาลจะจัดตั๋วรถเมล์ราคาถูกให้นักเรียน นักศึกษาหรือไม่ รถเมล์เอ็นจีวีมีกี่คันแล้ว
นายกรัฐมนตรี ผมจะบอกให้ฟังครับ เขากำลังจะเริ่มดำเนินการ ผมก็เริ่มเดือดร้อนเพราะผู้คนก็มาร้องทุกข์เอากับผมเข้าแล้ว คือว่าเขาจะทำรถเมล์ใหม่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ เขาจะทำใหม่หมดเลยครับ 6,000 คันใช้แก๊สหมดเลย ไปใช้แก๊สแล้วราคาไม่แพง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น เวลานี้ที่เขาตรวจสอบ ขสมก. แล้ว แย่ คือว่าจำนวนรถนี้ รถที่ยังอยู่ คน 18,000 ยังอยู่เหมือนเดิม จำนวนรถที่วิ่งน้อยลง เอกชนก็วิ่งอยู่ เขาก็จะไปอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ เขาก็จะทำทั้งองคาพยพ คือจะเปลี่ยนทั้งระบบเลย 6,000 คันใช้แก๊สหมด รถดีเรียบร้อยหมดติดแอร์ทุกคัน แล้วเขาจะลดราคาโดยการขายบัตร ขายบัตรประจำเดือน ขายบัตรนักเรียน ขายบัตรอะไร ซึ่งลดนั่งได้ทั้งวัน ได้สองเที่ยวอะไรต่าง ๆ เขาจะเสนอรายละเอียด อีก 2 -3 วันผมจะได้ดูรายละเอียดเรื่องนี้ครับ ต้องมีความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ครับ แต่เกิดเรื่องแน่นอนครับ ผมก็เดือดร้อนเพราะว่าพวกที่เขาวิ่งรถเอกชนสมทบเขาก็คงไม่ค่อยชอบใจเรื่องนี้หรอกครับ
คำถาม พวกนักข่าวที่ชอบให้ร้ายคนอื่นควรจะมีบทลงโทษมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่สร้างความเสียหายกับประเทศชาติ ควรมีโทษให้หนัก
นายกรัฐมนตรี เอาละครับ จะนักข่าวไม่นักข่าวไม่ทราบหรอกครับ ประกอบหลายคนครับ ไปโทษนักข่าว นักข่าวก็เอาข่าวไป คนที่เขาทำข่าวเขาก็มี Re writer เขามีหัวหน้าข่าว ยังมีคอลัมนิสต์อีกครับ ยังมีเจ้าของหนังสือพิมพ์อีก และยังมีขบวนการอีก เขาเรียกขบวนการ 18 อรหันต์ ถ้าเผื่อใครไม่ชอบรัฐบาล ต้องการจะทำลายล้างรัฐบาล 18 อรหันต์จัดการช่วยจัดการเลยครับ ไอ้หัวโจก 18 อรหันต์ก็มีชื่อออกอยู่ครับ รายการที่ผมโดนเข้าไปนี่ ที่ผมโดนชิมไปบ่นไป ก็แบบนี้ครับ ยังไม่พอครับ กินไปบ่นไป ทาง กกต. ก็รับพิจารณาว่าพอฟังความ ยังจะพยายามอีกครับ มีคนพยายามจะหาเหตุหาโน่นหาอะไรต่ออะไรอีก คือจะเอาออกให้ได้ครับเจตนา 18 อรหันต์นี่ละครับเป็นคนช่วยจัดการ ขบวนการนี้ยังอยู่ครับเพียงแต่แก่ไปหน่อยเท่านั้นเอง เห็นหน้าทางโทรทัศน์หน้าตาแก่ขึ้น
คำถาม รายการวิทยุชุมชน 92.25 เครื่องส่งแรงมาก รบกวนคลื่นอื่น จะจัดการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ผมว่าบ้านเมืองไม่เป็นธรรมนี่ละครับ ผมจะบอกใครรับผิดชอบ กสช. ตัวย่ออะไรต่าง ๆ ช่วยดูหน่อยเถอะครับ วิทยุเถื่อนทำผิดกฎหมาย ออกแรงได้ 92.5 ครอบคลุมหมด แต่ 92.75 ร้องทุกข์ ไปตรงโน้นก็ฟังไม่ได้ ไปตรงนี้ก็ฟังไม่ได้ คนสุจริตคนทำตรงไปตรงมาถูกคนเถื่อนมันทับ แล้วอย่างไรกันตกลงอย่างไรครับ ผมก็ถามตรงนี้ละครับ ใครรับผิดชอบตรงนี้ช่วยดูหน่อยเถอะ ผมสงสารวิทยุแท็กซี่ ต้องช่วยเขา ต้องจัดการ เขาเจตนาดีกับบ้านเมืองนะครับ แต่รับไม่ได้ น่าสงสารครับ น่าสงสาร รับบริจาคจากผู้คนผู้ฟัง หาสตางค์อะไรไม่ได้ ส่วนไอ้บ้านั่นไม่รู้เอาสตางค์มาจากไหน 92.25 น่ะ เล่นโครม ๆ ๆ
คำถาม โครงการวงแหวนรอบนอกวงแหวนฝั่งตะวันออกทำไมต้องมีเก็บเงิน ทำเป็นทางคู่ขนาน
นายกรัฐมนตรี คืออย่างนี้ครับ กรุณาเถอะครับ ที่เสียสตางค์บ้างนั้น ถ้ากู้เงินเขามาทำต้องเก็บเงินครับ เงินจากกระเป๋ารัฐบาลเองไม่ต้องเก็บ เพราะบางส่วนถ้าสร้างเองเขาก็ไม่เก็บ ตรงไหนที่กู้มาเขาก็เก็บ ถ้าหากไปเจอเก็บเงินก็อย่าไปใช้มันเท่านั้นเอง ขับเลี่ยงไปทางอื่น คู่ขนานไม่ได้หรอกครับ เขามีทางอื่นอยู่แล้วครับ แต่วงแหวนช่วยให้สะดวก กรุณาจ่ายความสะดวกบ้างเถอะครับ
คำถาม อยากให้สร้างทางรถไฟมาตรฐานโลก
นายกรัฐมนตรี พูดมานานแล้วครับ แต่ก็การดำเนินการก็ดำเนินการแล้วครับเวลานี้ สร้างทางรถไฟไม่ใช่ไปสร้างเล่น ๆ ครับ โครงรางรถไฟจะทำออกจากคุนหมิง ที่ประเทศจีนผ่านประเทศลาว ผ่านประเทศไทยไปออกประเทศพม่า 4 ประเทศครับโครงการนี้ ในหลักการได้ดำเนินการแล้ว ผมจะไปเจรจาความกับจีนในรายละเอียด ก็บังเอิญไปเจอแผ่นดินไหวเสียก่อน ก็ขอเรียนนะครับว่าจะเริ่มต้น แต่ของพรรค์อย่างนี้ต้องให้เวลาครับ จะพยายามเริ่มต้นให้ได้ในรัฐบาลนี้ครับ มีโอกาสก็อก ๆ แก็ก ๆ มา แต่ว่าได้มีโอกาสตัดสินใจ ได้ทำหลายอย่าง แต่ที่น่าสงสัยคือว่าคนที่พยายามไม่อยากให้ผมอยู่ทำนี้ประหลาดตรงนี้ครับ ทำลายกันจะเอาให้ได้ จะเอาสมัครฯ ออกจากตำแหน่งให้ได้ นี่แปลว่าไม่อยากให้ทำงานให้บ้านเมืองได้สำเร็จ บังเอิญการตัดสินใจทุกอย่างจบครับ รถไฟฟ้าชานเมืองจะลงมือกันตอนนี้ครับ ขบวนการที่จะเอาออกให้ได้นี่จะว่าอย่างไร
คำถาม การเบิกโบนัสข้าราชการเมื่อไรจะได้ รอนาน
นายกรัฐมนตรี ก็เขาบอกเขาจ่ายแล้วนี่ครับ ผมจะไปถามให้ครับทำไมยังเบิกไม่ได้ ใครไปยักย้ายไว้อย่างไร
คำถาม ประกันสังคมเรื่องสุขภาพนั้นอยากให้เบิกตามความเป็นจริง
นายกรัฐมนตรี จะต้องถามทางฝ่ายที่เขาเกี่ยวข้องครับ ผมตอบทันทีไม่ได้ครับ
คำถาม ให้นายกฯ พูดเรื่องหวยบนดิน รางวัลที่ 1 45 รางวัลจริงหรือ เลขท้าย 2 — 3 ตัวจะหมุนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี เขากำลังเริ่มออกข่าวมาครับ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้ คราวหน้าจะเอามาพูดเรื่องหวยบนดินว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร จะถามรัฐมนตรีฯ คลัง ให้
คำถาม ทุนการศึกษา กยศ. กรอ. ขณะนี้มีนักศึกษาปี 1 เท่านั้น น่าจะให้โอกาสปี 2 ปี 3 คุณสมบัติได้รับทุนด้วย
นายกรัฐมนตรี ทุนให้เฉพาะปีแรกได้อย่างไรครับ ต้องได้ทุกปีครับเรื่องนี้ ตัวย่อใหม่ 2 ตัวนี้ผมต้องไปดูก่อน ย่อกันจนกระทั่งจำไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่รับ ตรงนี้ต้องเอาใส่กระเป๋าไปเฉพาะ เพราะจะต้องไปตามเรื่องให้ เขายกป้ายเวลาหมดครับ ก็มีสิ่งละอันพันละน้อยที่พยายามจะเก็บเอามาพูดให้ฟังด้วย และอาทิตย์หน้า 08.30 น. พบกันใหม่ครับ วันนี้ผมมีรายการรออยู่หลายอย่างข้างนอก ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--