นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของสหประชาชาติ ย้ำ "ทางสายกลาง" ช่วยให้เราสามารถสร้างความสมดุลของการพัฒนา ให้ทุกๆ ส่วนของฐานรากเข้มแข็ง
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์และกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของสหประชาชาติ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะสงฆ์และผู้แทนจากนานาประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมงานวันวิสาขบูชา แห่งสหประชาชาติ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติในครั้งนี้ พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชาว่า เป็นวันที่มีความหมายที่สุดสำหรับพุทธศาสนิกชน เพราะเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลักธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เน้นการเอาใจใส่ต่อตนเอง ต่อการกระทำและต่อโลก ซึ่งธรรมที่เกี่ยวกับความปรารถนาดีและสันติสุขนั้น ใกล้เคียงกับหลักการของสหประชาชาติ ดังนั้น การประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 54 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 จึงได้มีมติกำหนดให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ โดยมีการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาในเดือนพฤษภาคม ณ สำนักงานใหญ่ องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์คและสำนักงานทั่วโลกเป็นประจำทุกปี
ประเทศไทยที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาและการประชุมพุทธศาสนานานาชาติ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ติดต่อกัน โดยในปีนี้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาติเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความชื่นชม รัฐบาลเวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการจัดงานวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาติ ประจำปี 2008 ทั้งในด้านการจัดการประชุมและจิตวิญาณ
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 2,500 ปี คำสอนของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น อยู่เหนือกาลเวลาสามารถนำมาใช้ได้แม้ปัจจุบัน การดำเนินชีวิตประจำวันโดยยึดหลักศีลห้า ซึ่งเน้นการเคารพในชีวิต ทรัพย์สิน และครอบครัว ความรับผิดชอบต่อคำพูด และการมีสติต่อการดื่ม การกิน ล้วนเป็นหลักยึดเหนี่ยวซึ่งจะช่วยให้สังคมเกิดความปรองดอง ดังนั้น หากพิจารณาอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่า ศีลห้านั้นได้ชี้ให้สมาชิกของสังคมเห็นถึงแนวทางความรับผิดชอบของตนที่เพิ่งควรปฏิบัติต่อคนอื่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาตินี้ จะได้พิจารณาหลักพุทธศาสนาทั้งแนวทฤษฎีและการปฏิบัติ ความศรัทธาในพุทธศาสนานั้น มาจากคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น เราจึงจำเป็นพิจารณาว่า ทำอย่างไรจะให้คนเข้าถึงพระธรรมคำสอนให้มากขึ้น ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและนำไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งหวังว่าผู้นำทางศาสนาและนักวิชาการ จะได้มีการแลกเปลี่ยนถึงแนวคิดดังกล่าวตลอดระยะเวลาของการประชุมนี้
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวต่อไปอีกว่า พุทธศาสนานั้นถือว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ เนื่องจากทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง “ทางสายกลาง” ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่อยู่ตรงกลาง บนพื้นฐานความมีเหตุมีผล การตระหนักรับรู้และปัญญา จึงเป็นหลักการที่เหมาะสมสำหรับสังคมในทุกระดับและทุกกิจกรรม ขณะที่เรากำลังค้นหายุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่เหมาะสมนั้น “ทางสายกลาง” ช่วยให้เราสามารถสร้างความสมดุลของการพัฒนา ให้ทุกๆส่วนของฐานรากเข้มแข็ง เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต สร้างสังคมที่มีคุณธรรมโดยส่งเสริมหลักจริยธรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบบองค์รวมบนหลักการพุทธศาสนา เราก็จะได้สังคมที่มีความยุติธรรม ความเท่าเทียมละความยั่งยืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์และกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของสหประชาชาติ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะสงฆ์และผู้แทนจากนานาประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมงานวันวิสาขบูชา แห่งสหประชาชาติ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติในครั้งนี้ พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชาว่า เป็นวันที่มีความหมายที่สุดสำหรับพุทธศาสนิกชน เพราะเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลักธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เน้นการเอาใจใส่ต่อตนเอง ต่อการกระทำและต่อโลก ซึ่งธรรมที่เกี่ยวกับความปรารถนาดีและสันติสุขนั้น ใกล้เคียงกับหลักการของสหประชาชาติ ดังนั้น การประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 54 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 จึงได้มีมติกำหนดให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ โดยมีการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาในเดือนพฤษภาคม ณ สำนักงานใหญ่ องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์คและสำนักงานทั่วโลกเป็นประจำทุกปี
ประเทศไทยที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาและการประชุมพุทธศาสนานานาชาติ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ติดต่อกัน โดยในปีนี้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาติเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความชื่นชม รัฐบาลเวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการจัดงานวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาติ ประจำปี 2008 ทั้งในด้านการจัดการประชุมและจิตวิญาณ
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 2,500 ปี คำสอนของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น อยู่เหนือกาลเวลาสามารถนำมาใช้ได้แม้ปัจจุบัน การดำเนินชีวิตประจำวันโดยยึดหลักศีลห้า ซึ่งเน้นการเคารพในชีวิต ทรัพย์สิน และครอบครัว ความรับผิดชอบต่อคำพูด และการมีสติต่อการดื่ม การกิน ล้วนเป็นหลักยึดเหนี่ยวซึ่งจะช่วยให้สังคมเกิดความปรองดอง ดังนั้น หากพิจารณาอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่า ศีลห้านั้นได้ชี้ให้สมาชิกของสังคมเห็นถึงแนวทางความรับผิดชอบของตนที่เพิ่งควรปฏิบัติต่อคนอื่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาตินี้ จะได้พิจารณาหลักพุทธศาสนาทั้งแนวทฤษฎีและการปฏิบัติ ความศรัทธาในพุทธศาสนานั้น มาจากคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น เราจึงจำเป็นพิจารณาว่า ทำอย่างไรจะให้คนเข้าถึงพระธรรมคำสอนให้มากขึ้น ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและนำไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งหวังว่าผู้นำทางศาสนาและนักวิชาการ จะได้มีการแลกเปลี่ยนถึงแนวคิดดังกล่าวตลอดระยะเวลาของการประชุมนี้
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวต่อไปอีกว่า พุทธศาสนานั้นถือว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ เนื่องจากทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง “ทางสายกลาง” ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่อยู่ตรงกลาง บนพื้นฐานความมีเหตุมีผล การตระหนักรับรู้และปัญญา จึงเป็นหลักการที่เหมาะสมสำหรับสังคมในทุกระดับและทุกกิจกรรม ขณะที่เรากำลังค้นหายุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่เหมาะสมนั้น “ทางสายกลาง” ช่วยให้เราสามารถสร้างความสมดุลของการพัฒนา ให้ทุกๆส่วนของฐานรากเข้มแข็ง เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต สร้างสังคมที่มีคุณธรรมโดยส่งเสริมหลักจริยธรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบบองค์รวมบนหลักการพุทธศาสนา เราก็จะได้สังคมที่มีความยุติธรรม ความเท่าเทียมละความยั่งยืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--