รองโฆษกรัฐบาลจัดรายการ "คุยนอกทำเนียบกับทีมโฆษกรัฐบาล" เป็นครั้งแรก ทางคลื่น FM 92.5 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบ
วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันจัดรายการ “คุยนอกทำเนียบ” เป็นครั้งแรก ทางคลื่น FM 92.5 เมกะเฮิรตซ์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติขยายเพดานเงินเดือนข้าราชการที่ได้รับค่าครองชีพเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์แล้วนั้น ทางกระทรวงการคลังจะต้องแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม2551 อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้พยายามลดรายจ่ายของประชาชน และรณรงค์ให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทน ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อจะบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน
ด้านนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประธานที่ประชุมได้แจ้งผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา และที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการร่วมทุนกับภาคเอกชน ในการจัดสร้างโรงงานอุตสาหกรรมทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมาตรการที่จะช่วยเหลือนักลงทุนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ มาตรการแก้ไขปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสัตว์น้ำ การพัฒนาด่านชายแดน การส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล การเพิ่มประสิทธิภาพยางพารา การพัฒนาการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นโครงการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2551-2554 ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวงเงิน 58,039.35 ล้านบาท ในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน คือ 1. การคุ้มครองความปลอดภัย อำนวยความเป็นธรรม เพื่อความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 2. ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาชีพและรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อย 3. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพคน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิต 4. ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งฐานเศรษฐกิจของพื้นที่และการพัฒนาความร่วมมือกับต่างประเทศ และ 5. ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นการปรับปรุงระเบียบ กฎหมายต่าง ๆ ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการคุยนอกทำเนียบฯ เพิ่มเติมว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ลงนามความร่วมมือกระทรวงพลังงานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.) ในการดำเนินการโครงการวัดและมัสยิดประหยัดไฟรวมใจสมานฉันท์ เนื่องจากวัดและมัสยิดเป็นที่ศูนย์รวมของประชาชนและการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องช่วยกัน โดยทาง กฟผ.ได้ผลิตหลอดตะเกียบที่สามารถประหยัดไฟได้ ซึ่งได้ทดลองกับวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ที่ใช้หลอดไฟประมาณ 500 หลอด และพบว่าเมื่อหลอดตะเกียบแล้วสามารถลดค่าไฟได้ประมาณ 7 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น จะมีการผลิตหลอดตะเกียบแจกจ่ายให้กับวัดและมัสยิดทั่วประเทศประมาณ 10,000 แห่ง เพื่อให้ทางวัดและมัสยิดช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันจัดรายการ “คุยนอกทำเนียบ” เป็นครั้งแรก ทางคลื่น FM 92.5 เมกะเฮิรตซ์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติขยายเพดานเงินเดือนข้าราชการที่ได้รับค่าครองชีพเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์แล้วนั้น ทางกระทรวงการคลังจะต้องแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม2551 อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้พยายามลดรายจ่ายของประชาชน และรณรงค์ให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทน ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อจะบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน
ด้านนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประธานที่ประชุมได้แจ้งผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา และที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการร่วมทุนกับภาคเอกชน ในการจัดสร้างโรงงานอุตสาหกรรมทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมาตรการที่จะช่วยเหลือนักลงทุนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ มาตรการแก้ไขปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสัตว์น้ำ การพัฒนาด่านชายแดน การส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล การเพิ่มประสิทธิภาพยางพารา การพัฒนาการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นโครงการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2551-2554 ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวงเงิน 58,039.35 ล้านบาท ในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน คือ 1. การคุ้มครองความปลอดภัย อำนวยความเป็นธรรม เพื่อความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 2. ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาชีพและรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อย 3. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพคน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิต 4. ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งฐานเศรษฐกิจของพื้นที่และการพัฒนาความร่วมมือกับต่างประเทศ และ 5. ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นการปรับปรุงระเบียบ กฎหมายต่าง ๆ ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการคุยนอกทำเนียบฯ เพิ่มเติมว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ลงนามความร่วมมือกระทรวงพลังงานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.) ในการดำเนินการโครงการวัดและมัสยิดประหยัดไฟรวมใจสมานฉันท์ เนื่องจากวัดและมัสยิดเป็นที่ศูนย์รวมของประชาชนและการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องช่วยกัน โดยทาง กฟผ.ได้ผลิตหลอดตะเกียบที่สามารถประหยัดไฟได้ ซึ่งได้ทดลองกับวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ที่ใช้หลอดไฟประมาณ 500 หลอด และพบว่าเมื่อหลอดตะเกียบแล้วสามารถลดค่าไฟได้ประมาณ 7 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น จะมีการผลิตหลอดตะเกียบแจกจ่ายให้กับวัดและมัสยิดทั่วประเทศประมาณ 10,000 แห่ง เพื่อให้ทางวัดและมัสยิดช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--