เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือด้านการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารต่อประเทศพม่าภายหลังประสบภัยพิบัติพายุโซโคลน Nargis พัดถล่ม
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเอริค จอห์น (H.E. Mr. Eric John) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีการสนทนาสรุปดังนี้
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี George W. Bush มีความประสงค์จะให้การช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประเทศพม่า โดยได้รับความร่วมมือจาก "องค์การอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ" หรือ United Nations-World Food Programme (WFP) ซึ่งมีขีดความสามารถที่จะแจกจ่ายอาหารให้แก่ชาวพม่าได้มากถึง 600,000 คน/ต่อวัน และ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน
โดยเอกอัครราชทูตฯ มีความประสงค์จะขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยให้ช่วยเจรจากับรัฐบาลพม่าใน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นเรื่องการขอหนังสือเดินทาง (Visa) ให้แก่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศพม่าได้ และ อีกประเด็นคือ เรื่องพาหนะที่จะใช้ในการเดินทางเข้าประเทศพม่า ซึ่งทางเอกอัครราชทูตแจ้งว่า พาหนะเหล่านี้เป็นพาหนะขนส่งทางอากาศ เช่น เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ โดยจะใช้เพียงเพื่อบรรทุกอาหารและเจ้าหน้าที่เท่านั้น
นายกรัฐมนตรีได้ตอบรับที่จะเจรจากับรัฐบาลพม่า โดยจะโทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรีของพม่า และ หากจำเป็น ก็จะเดินทางไปยังประเทศพม่าเพื่อดำเนินการเจรจาในรายละเอียดต่อไป
ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือในทางมนุษยธรรมแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะอาสาเป็นผู้เจรจาในประเด็นดังกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเอริค จอห์น (H.E. Mr. Eric John) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีการสนทนาสรุปดังนี้
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี George W. Bush มีความประสงค์จะให้การช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประเทศพม่า โดยได้รับความร่วมมือจาก "องค์การอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ" หรือ United Nations-World Food Programme (WFP) ซึ่งมีขีดความสามารถที่จะแจกจ่ายอาหารให้แก่ชาวพม่าได้มากถึง 600,000 คน/ต่อวัน และ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน
โดยเอกอัครราชทูตฯ มีความประสงค์จะขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยให้ช่วยเจรจากับรัฐบาลพม่าใน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นเรื่องการขอหนังสือเดินทาง (Visa) ให้แก่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศพม่าได้ และ อีกประเด็นคือ เรื่องพาหนะที่จะใช้ในการเดินทางเข้าประเทศพม่า ซึ่งทางเอกอัครราชทูตแจ้งว่า พาหนะเหล่านี้เป็นพาหนะขนส่งทางอากาศ เช่น เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ โดยจะใช้เพียงเพื่อบรรทุกอาหารและเจ้าหน้าที่เท่านั้น
นายกรัฐมนตรีได้ตอบรับที่จะเจรจากับรัฐบาลพม่า โดยจะโทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรีของพม่า และ หากจำเป็น ก็จะเดินทางไปยังประเทศพม่าเพื่อดำเนินการเจรจาในรายละเอียดต่อไป
ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือในทางมนุษยธรรมแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะอาสาเป็นผู้เจรจาในประเด็นดังกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--