นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ "ถามจริง ตอบตรง" ระบุ 3 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาราคาข้าวและปุ๋ยแพง รวมถึงเรื่องพลังงาน
วันนี้ เวลา 20.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ "ถามจริง ตอบตรง" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ถึงผลงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แล้วจึงเริ่มต้นบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งจึงทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาพปกติ โดยหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล สิ่งแรกที่ได้ดำเนินการคือรับแขกบ้านแขกเมือง คณะผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ที่มาขอเข้าพบ เราก็ถือโอกาสนี้พูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของบ้านเมืองและการเมืองของไทย รวมทั้งการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ซึ่งได้เดินทางไปเยือนประเทศอาเซียน 7 ประเทศแล้ว เพื่อไปทำความรู้จักคุ้นเคยกัน และเสริมสร้างความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างกันให้มากขึ้น
สำหรับการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาราคาข้าวที่ขณะนี้มีราคาแพงขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำให้ข้าวราคาแพง ราคานั้นเป็นไปตามอุปสงค์ และอุปทาน เมื่อข้าวในตลาดโลกขาด คนก็ต้องการมาก ราคาก็ต้องสูงขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้นรัฐบาลจะทำข้าวถุงธงฟ้า ถุงละ 5 กิโลกรัมออกขายในราคา 170 บาท ถูกกว่าที่ท้องตลาดขายอยู่ 200 บาท ซึ่งจะเริ่มออกขายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และขอให้ชาวนานำข้าวมาขายให้รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะประกันราคาให้สูงกว่าโรงสี นอกจากนี้ ในเรื่องของปัญหาปุ๋ยราคาแพง รัฐบาลก็มีนโยบายในการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร โดยขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลจะออกใบอนุญาตให้กับบริษัทรายใหม่เพื่อนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศและขายตรงให้กับเกษตรกร เพื่อป้องกันพ่อค้านำเข้าปุ๋ยและค้ากำไรเกินควร รวมทั้งจะช่วยลดราคาปุ๋ยลงได้ด้วย
ส่วนปัญหาวิกฤตพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และการหาพลังงานทดแทนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างเช่นการไปพบปะกับชาวไร่อ้อยที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อแก้ปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ โดยการเพิ่มราคารับซื้อหน้าโรงงานให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมทั้งการจัดหาพันธุ์อ้อยให้เกษตรกร ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยและแก้ปัญหาหนี้สินให้ด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมการในการแก้ปัญหาผลไม้ที่จะออกมามาก โดยจะนำเรื่องนี้ไปเจรจากับทางการจีนในระหว่างการเดินทางเยือนจีนกลางเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 20.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ "ถามจริง ตอบตรง" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ถึงผลงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แล้วจึงเริ่มต้นบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งจึงทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาพปกติ โดยหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล สิ่งแรกที่ได้ดำเนินการคือรับแขกบ้านแขกเมือง คณะผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ที่มาขอเข้าพบ เราก็ถือโอกาสนี้พูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของบ้านเมืองและการเมืองของไทย รวมทั้งการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ซึ่งได้เดินทางไปเยือนประเทศอาเซียน 7 ประเทศแล้ว เพื่อไปทำความรู้จักคุ้นเคยกัน และเสริมสร้างความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างกันให้มากขึ้น
สำหรับการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาราคาข้าวที่ขณะนี้มีราคาแพงขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำให้ข้าวราคาแพง ราคานั้นเป็นไปตามอุปสงค์ และอุปทาน เมื่อข้าวในตลาดโลกขาด คนก็ต้องการมาก ราคาก็ต้องสูงขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้นรัฐบาลจะทำข้าวถุงธงฟ้า ถุงละ 5 กิโลกรัมออกขายในราคา 170 บาท ถูกกว่าที่ท้องตลาดขายอยู่ 200 บาท ซึ่งจะเริ่มออกขายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และขอให้ชาวนานำข้าวมาขายให้รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะประกันราคาให้สูงกว่าโรงสี นอกจากนี้ ในเรื่องของปัญหาปุ๋ยราคาแพง รัฐบาลก็มีนโยบายในการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร โดยขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลจะออกใบอนุญาตให้กับบริษัทรายใหม่เพื่อนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศและขายตรงให้กับเกษตรกร เพื่อป้องกันพ่อค้านำเข้าปุ๋ยและค้ากำไรเกินควร รวมทั้งจะช่วยลดราคาปุ๋ยลงได้ด้วย
ส่วนปัญหาวิกฤตพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และการหาพลังงานทดแทนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างเช่นการไปพบปะกับชาวไร่อ้อยที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อแก้ปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ โดยการเพิ่มราคารับซื้อหน้าโรงงานให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย รวมทั้งการจัดหาพันธุ์อ้อยให้เกษตรกร ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยและแก้ปัญหาหนี้สินให้ด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมการในการแก้ปัญหาผลไม้ที่จะออกมามาก โดยจะนำเรื่องนี้ไปเจรจากับทางการจีนในระหว่างการเดินทางเยือนจีนกลางเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--