แท็ก
งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
สำนักนายกรัฐมนตรี
สุขุมพงศ์ โง่นคำ
พระบรมราโชวาท
ท่าอากาศยาน
ดอนเมือง
นายกรัฐมนตรีขอให้ครม. น้อมนำพระบรมราโชวาทเป็นแนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง และกำชับครม. จัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
วันนี้ เวลา 13.00 น. ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการประชุมคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 58 ถึงแม้ว่า ครม. ชุดนี้จะไม่ประชุมนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนกับครม.ชุดที่ผ่านมา แต่ครม. ทุกคนก็มีความยินดีและพร้อมที่จะเสียสละเพื่อประเทศ โดยก่อนปฏิบัติหน้าที่ ครม. ทุกคนได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วซึ่งมีใจความสำคัญ 3 ประการประกอบด้วย 1. ทุกคนจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ 2. ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน และ 3. จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ครม. ทุกคนได้นำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางและเป็นหลักชัยในการบริหารราชการแผ่นดินอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศชาติ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้ครม. ทุกคนทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มที่และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ถึงแม้จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ที่มีความยากลำบาก เพราะเป็นวิกฤติการณ์ทางการเมืองสังคม ตลอดจนทางเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้ ในระหว่างวันที่ 14 — 16 พฤศจิกายน 2551 จะมีการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยพระราชพิธีดังกล่าวบางส่วนได้เริ่มไปบ้างแล้ว ส่วนที่เหลือก็จะได้ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำให้ครม.ติดตามกำกับดูแลงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แจ้งในที่ประชุมครม. ให้รับทราบเกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ว่า รัฐธรรมนูญได้มีบทบัญญัติในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินที่เคร่งครัดและจริงจัง ซึ่งได้มีการเกิดผลในทางปฏิบัติแล้ว เช่น การที่มีรัฐมนตรีบางท่านที่ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพรัฐมนตรีไป รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังค้างอยู่ในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญที่จะต้องพิจารณากันต่อไป เพราะฉะนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้ครม. ทุกคนระมัดระวังในเรื่องคุณสมบัติและการมีลักษณะต้องห้าม เช่น การมีพฤติกรรมติดยาเสพติด มีภาระหนี้สิน และเป็นบุคคลล้มละลาย เป็นต้น ตลอดจนการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม อาทิ การแทรกแซงการบริหารแผ่นดินของหน่วยงานอื่น การไม่เข้าไปแทรกแซงสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง การเข้าไปดำรงตำแหน่งหรือการมีตำแหน่งนิติบุคคลในบริษัทหรือลูกจ้างผู้ใดตลอดจนจะต้องไม่ถือหุ้นเกินกว่า 5% ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลใด โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ครม. เตรียมยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ภายใน 30 วันก่อนเข้ารับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.00 น. ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการประชุมคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 58 ถึงแม้ว่า ครม. ชุดนี้จะไม่ประชุมนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนกับครม.ชุดที่ผ่านมา แต่ครม. ทุกคนก็มีความยินดีและพร้อมที่จะเสียสละเพื่อประเทศ โดยก่อนปฏิบัติหน้าที่ ครม. ทุกคนได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วซึ่งมีใจความสำคัญ 3 ประการประกอบด้วย 1. ทุกคนจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ 2. ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน และ 3. จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ครม. ทุกคนได้นำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางและเป็นหลักชัยในการบริหารราชการแผ่นดินอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศชาติ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้ครม. ทุกคนทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มที่และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ถึงแม้จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ที่มีความยากลำบาก เพราะเป็นวิกฤติการณ์ทางการเมืองสังคม ตลอดจนทางเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้ ในระหว่างวันที่ 14 — 16 พฤศจิกายน 2551 จะมีการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยพระราชพิธีดังกล่าวบางส่วนได้เริ่มไปบ้างแล้ว ส่วนที่เหลือก็จะได้ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำให้ครม.ติดตามกำกับดูแลงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แจ้งในที่ประชุมครม. ให้รับทราบเกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 ว่า รัฐธรรมนูญได้มีบทบัญญัติในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินที่เคร่งครัดและจริงจัง ซึ่งได้มีการเกิดผลในทางปฏิบัติแล้ว เช่น การที่มีรัฐมนตรีบางท่านที่ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพรัฐมนตรีไป รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังค้างอยู่ในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญที่จะต้องพิจารณากันต่อไป เพราะฉะนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้ครม. ทุกคนระมัดระวังในเรื่องคุณสมบัติและการมีลักษณะต้องห้าม เช่น การมีพฤติกรรมติดยาเสพติด มีภาระหนี้สิน และเป็นบุคคลล้มละลาย เป็นต้น ตลอดจนการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม อาทิ การแทรกแซงการบริหารแผ่นดินของหน่วยงานอื่น การไม่เข้าไปแทรกแซงสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง การเข้าไปดำรงตำแหน่งหรือการมีตำแหน่งนิติบุคคลในบริษัทหรือลูกจ้างผู้ใดตลอดจนจะต้องไม่ถือหุ้นเกินกว่า 5% ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลใด โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ครม. เตรียมยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ภายใน 30 วันก่อนเข้ารับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--