นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่คณะนักกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป
เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เวลา 17.30 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่คณะนักกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย คณะนักกีฬาชุดพาราลิมปิกเกมส์ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 ว่าการขันดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 17 กันยายน 2551 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วม แข่งขันจำนวน 40 คน เจ้าหน้าที่และผู้ฝึกสอน จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 70 คน ในกีฬา 10 ชนิด ประกอบด้วย กรีฑา ยกน้ำหนัก วีลแชร์ฟันดาบ เทเบิลเทนนิส บอคเซีย ยิงธนู ยิงปืน ยูโด ว่ายน้ำ และวีลแชร์เทนิส ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 19,000,000 บาท (สิบเก้าล้านบาทถ้วน) นักกีฬาได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง รวม 13 เหรียญ เป็นอันดับที่ 41 ของโลก อันดับที่ 6 ของเอเชีย และอันดับที่ 1 ของอาเซียน โดยมีประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 148 ประเทศ ในการนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้อนุมัติจ่ายเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา เพื่อเป็นรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในการแข่งขันดังกล่าว นักกีฬาทุกคนได้แสดงออกถึงความสามารถ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา สมกับที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างน่าชมเชย ความสำเร็จจากการแข่งขันได้แสดงถึงความมีวิริยะ อุตสาหะ การอุทิศตน เพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
โอกาสนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบเงินรางวัลและของที่ระลึกให้แก่นักกีฬาฯที่ได้รับเหรียรางวัล พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ผ่านมา และขอแสดงความชื่นชมยินดีกับทุกคน ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่พลาดหวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันที่ย่อมจะต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ อย่างไรก็ตามก็มีความภาคภูมิใจที่ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งในด้านการแข่งขัน การนำวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปเผยแพร่ให้นานาประเทศได้รู้จัก ความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความบกพร่องทางร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสำเร็จ ในทางตรงข้าม ความพยายาม หมั่นอดทนฝึกฝนกลับเป็นพลังใจที่ส่งเสริมให้ทุกคนได้เห็นถึงคุณค่าแห่งชีวิตว่าตัวเองนั้นทำได้ ช่วยตัวเองได้และยังสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติได้ จึงขอให้ทุกคนรักษาความมุ่งมั่นตั้งใจที่ดีนี้ไว้ตลอดไป และหวังว่า รางวัลที่ได้มอบให้ในครั้งนี้จะเป็นขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนผู้ที่พลาดหวังขอให้มีกำลังใจที่จะแสวงหาความสำเร็จในโอกาสต่อไป
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณะบุคคล และหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของนักกีฬาคนพิการและพัฒนาวงการกีฬาของไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่ต่อไป รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุนบทบาทการทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่เพื่อให้คนพิการมีชีวิตที่มีคุณค่าแก่ตัวเอง ครอบครัวและสังคมต่อไป
สำหรับการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 มีนักกีฬา และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน จำนวน 3 ชนิดกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,625,000 บาท ดังนี้ 1. ชนิดกีฬากรีฑา ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง นักกีฬา, ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,900,000 บาท 2. ชนิดกีฬายกน้ำหนัก ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 2 เหรียญทองแดง นักกีฬา, ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,100,000 บาท และ3. ชนิดกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทองแดง นักกีฬา ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 550,000 บาท ส่วนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับเงินรางวัล 3,075,000 บาท
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) เวลา 17.30 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่คณะนักกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย คณะนักกีฬาชุดพาราลิมปิกเกมส์ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวรายงานความเป็นมาของการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 ว่าการขันดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 17 กันยายน 2551 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วม แข่งขันจำนวน 40 คน เจ้าหน้าที่และผู้ฝึกสอน จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น 70 คน ในกีฬา 10 ชนิด ประกอบด้วย กรีฑา ยกน้ำหนัก วีลแชร์ฟันดาบ เทเบิลเทนนิส บอคเซีย ยิงธนู ยิงปืน ยูโด ว่ายน้ำ และวีลแชร์เทนิส ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 19,000,000 บาท (สิบเก้าล้านบาทถ้วน) นักกีฬาได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง รวม 13 เหรียญ เป็นอันดับที่ 41 ของโลก อันดับที่ 6 ของเอเชีย และอันดับที่ 1 ของอาเซียน โดยมีประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 148 ประเทศ ในการนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้อนุมัติจ่ายเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา เพื่อเป็นรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในการแข่งขันดังกล่าว นักกีฬาทุกคนได้แสดงออกถึงความสามารถ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา สมกับที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างน่าชมเชย ความสำเร็จจากการแข่งขันได้แสดงถึงความมีวิริยะ อุตสาหะ การอุทิศตน เพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
โอกาสนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบเงินรางวัลและของที่ระลึกให้แก่นักกีฬาฯที่ได้รับเหรียรางวัล พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ผ่านมา และขอแสดงความชื่นชมยินดีกับทุกคน ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่พลาดหวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันที่ย่อมจะต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ อย่างไรก็ตามก็มีความภาคภูมิใจที่ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งในด้านการแข่งขัน การนำวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปเผยแพร่ให้นานาประเทศได้รู้จัก ความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความบกพร่องทางร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสำเร็จ ในทางตรงข้าม ความพยายาม หมั่นอดทนฝึกฝนกลับเป็นพลังใจที่ส่งเสริมให้ทุกคนได้เห็นถึงคุณค่าแห่งชีวิตว่าตัวเองนั้นทำได้ ช่วยตัวเองได้และยังสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติได้ จึงขอให้ทุกคนรักษาความมุ่งมั่นตั้งใจที่ดีนี้ไว้ตลอดไป และหวังว่า รางวัลที่ได้มอบให้ในครั้งนี้จะเป็นขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนผู้ที่พลาดหวังขอให้มีกำลังใจที่จะแสวงหาความสำเร็จในโอกาสต่อไป
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณะบุคคล และหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของนักกีฬาคนพิการและพัฒนาวงการกีฬาของไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่ต่อไป รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุนบทบาทการทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่เพื่อให้คนพิการมีชีวิตที่มีคุณค่าแก่ตัวเอง ครอบครัวและสังคมต่อไป
สำหรับการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 มีนักกีฬา และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน จำนวน 3 ชนิดกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,625,000 บาท ดังนี้ 1. ชนิดกีฬากรีฑา ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง นักกีฬา, ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,900,000 บาท 2. ชนิดกีฬายกน้ำหนัก ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 2 เหรียญทองแดง นักกีฬา, ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,100,000 บาท และ3. ชนิดกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน 1 เหรียญทองแดง นักกีฬา ผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยเหลือกลุ่มนักกีฬาพิเศษ (ไกด์รันเนอร์) ได้รับเงินรางวัล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 550,000 บาท ส่วนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับเงินรางวัล 3,075,000 บาท
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--