พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีเผยนายกรัฐมนตรีห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมพูดคุยกับพลตรี จำลอง ศรีเมือง เพราะทุกฝ่ายอยากให้บ้านเมืองกลับมาอยู่ในความสงบโดยเร็ว
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า นายกรัฐมนตรีได้เชิญมาหารือเรื่องงานที่ตนได้รับผิดชอบ เช่น เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน รวมทั้งความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีต่อกรณีปัญหาของประชาชนที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน คือ ปัญหาอุทกภัย ซึ่งตนเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ก็จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะสถานการณ์รุมเข้ามามาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เชิญรัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานอื่น ๆ เข้าไปพูดคุยด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ได้ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้วว่า ได้ไปคุยกับพลตรี จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ พอสมควรแล้ว คงจะหาเวลาได้คุยกันในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งตน รัฐบาล และพี่น้องประชาชนโดยทั่วไปคงคิดตรงกันว่าอยากให้บ้านเมืองกลับมาอยู่ในความสงบ ก็คงตรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยากให้กลับมาอยู่ในความสงบโดยเร็วเช่นกัน ขณะเดียวกันก็อยากจะมีการพัฒนาปรับปรุงเรื่องการเมือง ซึ่งก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องมานั่งคุยกันว่าจะปรับปรุงอย่างไร จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งกติกาต้องมีการแก้ไขเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสิ่งที่ดี คงจะมีโอกาสเข้าไปคุยและคิดว่าคงจะจบเสียที
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อสรุปของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ปฏิเสธที่จะให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3 (ส.ส.ร.) รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปคุยกัน หากกลุ่มพันธมิตรฯปฏิเสธแล้วจะแก้กติกาอย่างไร เพราะกติกาไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงต้องถามกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะแก้กติกาได้อย่างไร ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะมีแนวความคิดที่ดีก็ได้อย่าเพิ่งไปต่อว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ก็คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเหมือนเราเช่นกัน แต่วันนี้หากยังไม่ทราบปัญหาอะไรที่เราทราบก็น่าห่วงใย ทั้งต่อปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ถึงแม้จะไม่ได้กระทบกับเราเท่าไหร่ แต่ต้องระมัดระวัง เผลอและประมาทไม่ได้ ดังนั้น เราควรจะพร้อม ประชาชนอุ่นใจมาร่วมมือกันพัฒนาบ้านเมืองต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมองกรณีการออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ อย่างไรและได้มีการรายงานต่อที่ประชุมหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะขณะนี้ติดปัญหาทางเทคนิค ไม่กล้าพูด เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเจรจากับพลตรี จำลองฯ ทางพลตรี จำลองฯ ได้ส่งสัญญาณที่ดีให้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลตรี จำลองฯ บอกว่า ขอให้เป็นหลังศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยเสียก่อน และเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาพลตรี จำลองฯ ได้บอกอีกว่า ขอรอหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ทั้งนี้ คิดว่าพลตรี จำลองฯ เป็นคนที่พูดจาได้ แต่ให้ใจเย็น ๆ เวลาพูดกับพลตรี จำลองฯ ต้องพูดตอนมื้อเช้า เพราะท่านกินข้าวมื้อเดียว และเป็นคนน่ารัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้วจะมีข่าวดีกรณีที่กลุ่มพันมิตรฯ จะย้ายออกจากทำเนียบใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ซึ่งตนพร้อมเสมอ อยู่ที่พลตรี จำลองฯ คิดว่าคงจะเรียบร้อยให้มองในแง่ดีเอาไว้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า นายกรัฐมนตรีได้เชิญมาหารือเรื่องงานที่ตนได้รับผิดชอบ เช่น เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน รวมทั้งความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีต่อกรณีปัญหาของประชาชนที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน คือ ปัญหาอุทกภัย ซึ่งตนเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ก็จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะสถานการณ์รุมเข้ามามาก นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เชิญรัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานอื่น ๆ เข้าไปพูดคุยด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ได้ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้วว่า ได้ไปคุยกับพลตรี จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ พอสมควรแล้ว คงจะหาเวลาได้คุยกันในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งตน รัฐบาล และพี่น้องประชาชนโดยทั่วไปคงคิดตรงกันว่าอยากให้บ้านเมืองกลับมาอยู่ในความสงบ ก็คงตรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยากให้กลับมาอยู่ในความสงบโดยเร็วเช่นกัน ขณะเดียวกันก็อยากจะมีการพัฒนาปรับปรุงเรื่องการเมือง ซึ่งก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องมานั่งคุยกันว่าจะปรับปรุงอย่างไร จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งกติกาต้องมีการแก้ไขเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสิ่งที่ดี คงจะมีโอกาสเข้าไปคุยและคิดว่าคงจะจบเสียที
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อสรุปของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ปฏิเสธที่จะให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3 (ส.ส.ร.) รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปคุยกัน หากกลุ่มพันธมิตรฯปฏิเสธแล้วจะแก้กติกาอย่างไร เพราะกติกาไปเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงต้องถามกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะแก้กติกาได้อย่างไร ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะมีแนวความคิดที่ดีก็ได้อย่าเพิ่งไปต่อว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ก็คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเหมือนเราเช่นกัน แต่วันนี้หากยังไม่ทราบปัญหาอะไรที่เราทราบก็น่าห่วงใย ทั้งต่อปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ถึงแม้จะไม่ได้กระทบกับเราเท่าไหร่ แต่ต้องระมัดระวัง เผลอและประมาทไม่ได้ ดังนั้น เราควรจะพร้อม ประชาชนอุ่นใจมาร่วมมือกันพัฒนาบ้านเมืองต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมองกรณีการออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ อย่างไรและได้มีการรายงานต่อที่ประชุมหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะขณะนี้ติดปัญหาทางเทคนิค ไม่กล้าพูด เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการเจรจากับพลตรี จำลองฯ ทางพลตรี จำลองฯ ได้ส่งสัญญาณที่ดีให้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลตรี จำลองฯ บอกว่า ขอให้เป็นหลังศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยเสียก่อน และเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมาพลตรี จำลองฯ ได้บอกอีกว่า ขอรอหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ทั้งนี้ คิดว่าพลตรี จำลองฯ เป็นคนที่พูดจาได้ แต่ให้ใจเย็น ๆ เวลาพูดกับพลตรี จำลองฯ ต้องพูดตอนมื้อเช้า เพราะท่านกินข้าวมื้อเดียว และเป็นคนน่ารัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้วจะมีข่าวดีกรณีที่กลุ่มพันมิตรฯ จะย้ายออกจากทำเนียบใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ซึ่งตนพร้อมเสมอ อยู่ที่พลตรี จำลองฯ คิดว่าคงจะเรียบร้อยให้มองในแง่ดีเอาไว้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--