เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบสารแสดงความยินดี
วันนี้ เวลา 10.30 น. และเวลา 11.00 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานดอนเมือง นาย Laurent Bill เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และนาย Yevgeney Afanasiev เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ตามลำดับ และมีการสนทนาดังนี้
นาย Laurent Bill เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นำสารแสดงความยินดีแด่นายกรัฐมนตรี จากประธานาธิบดีซาร์โกซีในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ที่มีความสัมพันธ์มายาวนาน อีกทั้งได้มีการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้ยืนยันสานต่อความร่วมมือต่างๆกับรัฐบาลต่อไป อาทิ ความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ซี่งฝรั่งเศสมีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการ mega project ของรัฐบาล เช่นการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ด้วย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เสนอเพื่อรับการสนับสนุนจากไทยในตวามตกลงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และโครงการป้องกันและแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งฝรั่งเศสได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น โดยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ สำหรับสารแสดงความยินดี และรัฐบาลมีนโยบายสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และมีการปรับปรุงนโยบายให้มีความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ความตกลงหรือความร่วมมือต่างๆที่ได้มีการดำเนินการไว้ รัฐบาลจะให้การสนับสนุนต่อไป และยืนยันที่จะพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสให้มั่นคงและแนบแน่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเยือนประเทศอาเซียนในโอกาสอันใกล้นี้ ซึ่งจะเริ่มที่ประเทศกัมพูชา โดยมั่นใจว่าปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชา คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และไทยยึดหลักกลไกทวิภาคีในการแกปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้น นาย Yevgeney Afanasiev เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อนำสารแสดงความยินดีจากนายกรัฐมนตรีปูติน มอบแด่นายกรัฐมนตรี และหวังว่าไทยและรัสเซียจะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันเพื่อความมั่นคงและมั่งคั่งของสองประเทศต่อไป โดยรัสเซีย มุ่งพัฒนาความร่วมมือกับไทยในทุกด้าน อาทิ เศรษฐกิจ การลงทุน วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ รัสเซียอยู่ในอันดับ 7 ของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็น 1 ใน 5 ของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยศักยภาพของรัสเซีย จะสามารถพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจกับไทยได้อย่างดียิ่งทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคี ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ กล่าวเน้นถึงความร่วมมือ โดยยินดีต้อนรับการเยือนรัสเซีย ของนายกรัฐมนตรี และการลงนามในแผนปฏิบัติการไทย — รัสเซียในระยะ 5 ปี การตั้งประธานร่วมในคณะกรรมาธิการร่วมไทย-รัสเซีย ซึ่งขอให้ไทยพิจารณาเสนอประธานของฝ่ายไทย ในโอกาสต่อไป รวมถึงการร่วมกันแก้ปัญหาหนี้ที่รัสเซียมีต่อไทยให้สำเร็จด้วยดี ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามถึงวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องใด ต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ สำหรับสารและความมั่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แนบแน่น และยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือกับรัสเซียอย่างยิ่ง เพราะมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพที่โดดเด่นและเศรษฐกิจที่เติบโตของรัสเซีย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่จะเดินทางเยือนรัสเซียในโอกาสที่เหมาะสม พร้อมทั้งจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการฯ ในการเสนอผู้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมต่อไป ส่วนวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการนั้นคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากต่างประเทศ ด้านต่างประเทศ ไทยยึดมั่นในฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จะดำเนินการตามพันธสัญญาและข้อผูกพัน พร้อมทั้งรักษามิตรภาพกับมิตรประเทศ เพื่อการดำรงอยู่อย่างสันติของประชาคมโลก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.30 น. และเวลา 11.00 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานดอนเมือง นาย Laurent Bill เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และนาย Yevgeney Afanasiev เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ตามลำดับ และมีการสนทนาดังนี้
นาย Laurent Bill เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นำสารแสดงความยินดีแด่นายกรัฐมนตรี จากประธานาธิบดีซาร์โกซีในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ที่มีความสัมพันธ์มายาวนาน อีกทั้งได้มีการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้ยืนยันสานต่อความร่วมมือต่างๆกับรัฐบาลต่อไป อาทิ ความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ซี่งฝรั่งเศสมีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการ mega project ของรัฐบาล เช่นการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ด้วย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เสนอเพื่อรับการสนับสนุนจากไทยในตวามตกลงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และโครงการป้องกันและแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งฝรั่งเศสได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น โดยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ สำหรับสารแสดงความยินดี และรัฐบาลมีนโยบายสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ และมีการปรับปรุงนโยบายให้มีความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ความตกลงหรือความร่วมมือต่างๆที่ได้มีการดำเนินการไว้ รัฐบาลจะให้การสนับสนุนต่อไป และยืนยันที่จะพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสให้มั่นคงและแนบแน่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเยือนประเทศอาเซียนในโอกาสอันใกล้นี้ ซึ่งจะเริ่มที่ประเทศกัมพูชา โดยมั่นใจว่าปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชา คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และไทยยึดหลักกลไกทวิภาคีในการแกปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้น นาย Yevgeney Afanasiev เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อนำสารแสดงความยินดีจากนายกรัฐมนตรีปูติน มอบแด่นายกรัฐมนตรี และหวังว่าไทยและรัสเซียจะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันเพื่อความมั่นคงและมั่งคั่งของสองประเทศต่อไป โดยรัสเซีย มุ่งพัฒนาความร่วมมือกับไทยในทุกด้าน อาทิ เศรษฐกิจ การลงทุน วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ รัสเซียอยู่ในอันดับ 7 ของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็น 1 ใน 5 ของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยศักยภาพของรัสเซีย จะสามารถพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจกับไทยได้อย่างดียิ่งทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคี ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ กล่าวเน้นถึงความร่วมมือ โดยยินดีต้อนรับการเยือนรัสเซีย ของนายกรัฐมนตรี และการลงนามในแผนปฏิบัติการไทย — รัสเซียในระยะ 5 ปี การตั้งประธานร่วมในคณะกรรมาธิการร่วมไทย-รัสเซีย ซึ่งขอให้ไทยพิจารณาเสนอประธานของฝ่ายไทย ในโอกาสต่อไป รวมถึงการร่วมกันแก้ปัญหาหนี้ที่รัสเซียมีต่อไทยให้สำเร็จด้วยดี ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามถึงวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องใด ต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ สำหรับสารและความมั่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แนบแน่น และยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือกับรัสเซียอย่างยิ่ง เพราะมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพที่โดดเด่นและเศรษฐกิจที่เติบโตของรัสเซีย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่จะเดินทางเยือนรัสเซียในโอกาสที่เหมาะสม พร้อมทั้งจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการฯ ในการเสนอผู้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมต่อไป ส่วนวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการนั้นคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากต่างประเทศ ด้านต่างประเทศ ไทยยึดมั่นในฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จะดำเนินการตามพันธสัญญาและข้อผูกพัน พร้อมทั้งรักษามิตรภาพกับมิตรประเทศ เพื่อการดำรงอยู่อย่างสันติของประชาคมโลก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--