นายกรัฐมนตรีสั่งกรมชลประทานศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมให้ประชาชนทำความเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถ่องแท้ ยันแก้ปัญหาคนจนควบคู่ปัญหาการเมือง
บ่ายวันนี้ (4 ต.ค.) 13.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมา จากพระราชดำริ (เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) จังหวัดลพบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและสระบุรี จากนายจารุพงษ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายธีระ วงศ์สมุทร อธิบดีกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว และอยู่ในช่วงการฟื้นฟู
โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมทำงานกันอย่างบูรณาการในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับโรคระบาด การซ่อมแซมถนน และค่าชดเชยความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อธิบดีกรมชลประทานสานต่อการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทาน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ในการบรรเทาปัญหาอุทกภัย และเก็บกักน้ำจืดเพื่อทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้คำนึงถึงผลได้ผลเสีย และทบทวนให้รอบด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ความคิดเห็นของมวลชนในพื้นที่ และการจัดการน้ำ แต่ถ้าหากสร้างแล้วมีผลเสียมากกว่าผลดี ก็ไม่ควรสร้าง
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ไปเยี่ยมชมการทำงานของประตูระบายน้ำที่อาคารระบายน้ำล้น และดูระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนมีประมาณร้อยละ 78 ยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนมาก และเขื่อนมีความแข็งแรง โดยเขื่อนดังกล่าวสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนในหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางมาที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และได้เข้ากราบนมัสการและถวายสังฆทานแด่พระธรรมปิฏก เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี
ต่อมาเวลา 16.15 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังบริเวณหมู่ 1 ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ และพบปะประชาชน รวมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นต้นแบบของเศรษฐกิจไทย จึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้ถ่องแท้ ซึ่งรัฐบาลจะมุ่งหน้าทำงาน โดยสนับสนุนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอย่างใดหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะเข้ามาทำงานให้กับประชาชนคนยากจน ไม่ได้ทำงานด้านการเมืองเพียงอย่างเดียว เรื่องการเมือง ความขัดแย้ง และมีปัญหาก็แก้ไขกันไป ซึ่งจะแก้ไขปัญหาของประชาชน และปัญหาการเมืองให้สำเร็จ เพราะตนก็เป็นคนจน เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา เข้าใจปัญหาคนจนดี นโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาก็จะมีเรื่องการแก้ไขปัญหาให้คนจนด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีและคณะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านพุคำจาน พร้อมชมขั้นตอนการผลิตกล้วยกวน ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อประดับ 4 ดาว และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนแห่งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
บ่ายวันนี้ (4 ต.ค.) 13.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมา จากพระราชดำริ (เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) จังหวัดลพบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและสระบุรี จากนายจารุพงษ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายธีระ วงศ์สมุทร อธิบดีกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว และอยู่ในช่วงการฟื้นฟู
โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมทำงานกันอย่างบูรณาการในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับโรคระบาด การซ่อมแซมถนน และค่าชดเชยความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อธิบดีกรมชลประทานสานต่อการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทาน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ในการบรรเทาปัญหาอุทกภัย และเก็บกักน้ำจืดเพื่อทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้คำนึงถึงผลได้ผลเสีย และทบทวนให้รอบด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ความคิดเห็นของมวลชนในพื้นที่ และการจัดการน้ำ แต่ถ้าหากสร้างแล้วมีผลเสียมากกว่าผลดี ก็ไม่ควรสร้าง
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ไปเยี่ยมชมการทำงานของประตูระบายน้ำที่อาคารระบายน้ำล้น และดูระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนมีประมาณร้อยละ 78 ยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนมาก และเขื่อนมีความแข็งแรง โดยเขื่อนดังกล่าวสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนในหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางมาที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และได้เข้ากราบนมัสการและถวายสังฆทานแด่พระธรรมปิฏก เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี
ต่อมาเวลา 16.15 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังบริเวณหมู่ 1 ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ และพบปะประชาชน รวมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นต้นแบบของเศรษฐกิจไทย จึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้ถ่องแท้ ซึ่งรัฐบาลจะมุ่งหน้าทำงาน โดยสนับสนุนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอย่างใดหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจะเข้ามาทำงานให้กับประชาชนคนยากจน ไม่ได้ทำงานด้านการเมืองเพียงอย่างเดียว เรื่องการเมือง ความขัดแย้ง และมีปัญหาก็แก้ไขกันไป ซึ่งจะแก้ไขปัญหาของประชาชน และปัญหาการเมืองให้สำเร็จ เพราะตนก็เป็นคนจน เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา เข้าใจปัญหาคนจนดี นโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาก็จะมีเรื่องการแก้ไขปัญหาให้คนจนด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีและคณะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านพุคำจาน พร้อมชมขั้นตอนการผลิตกล้วยกวน ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อประดับ 4 ดาว และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนแห่งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--