นายสมชาย วงศ์สวัสดิ๊ นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรับรองคณะทูตานุทูต และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้เวลา 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรับรอง คณะทูตานุทูต และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ มีสาระสำคัญดังนี้
ท่านผู้มีเกียรติ
ฯพณฯ คณบดีคณะทูต ซาลิม อิสา อาลี อัล คาตัม อัล ซาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ท่านสมาชิกคณะผู้แทนทางการทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย
ท่านหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ
ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษทุกท่าน
ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับท่านทั้งหลาย ณ กระทรวงการต่างประเทศแห่งนี้ และขอขอบคุณที่ทุกท่านมาร่วมงานเลี้ยงรับรองในเช้าวันนี้ รัฐบาลของข้าพเจ้าได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ แม้จะมีเหตุการณ์วุ่นวายจากกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ทำให้สถานการณ์ดำเนินไปด้วยความราบรื่น รัฐบาลของข้าพเจ้าจึงสามารถดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พวกท่านทั้งหลายส่วนใหญ่ก็คงได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว ข้าพเจ้าเองก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกับหลายๆ ท่านในที่นี้ ตั้งแต่ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดก่อน และข้าพเจ้าก็ขอขอบคุณที่ท่านทั้งหลายมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้
ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสในเช้าวันนี้ กล่าวย้ำใน 3 ประเด็น ดังนี้
ประการที่ 1 รัฐบาลของข้าพเจ้า ถือเป็นภาระหน้าที่ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย โดยจะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และจะบริหารประเทศอย่างดีที่สุดเพื่อให้บรรลุความปรารถนาของประชาชนไทยในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น และความปรองดองสมานฉันท์ ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีความเข้มแข็งและสามารถผ่านมรสุมทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาได้อย่างมั่นคง
ประการที่ 2 รัฐบาลของข้าพเจ้า มีความมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูพลวัตรทางเศรษฐกิจของไทย โดยจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากความผันผวนทางการเงินของโลกในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมนโยบายการค้าและการลงทุนตามกลไกตลาด รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ จะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ
และในประการสุดท้าย ประเทศไทยจะยังคงเคารพและยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ กฏบัตรสหประชาชาติ สมาคมประชาชาติอาเซียน ตลอดจนความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่กับมิตรประเทศทั่วโลก โดยจะส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับทุกประเทศและองค์การระหว่างประเทศทุกแห่ง
ประเทศไทย ในฐานะประธานอาเซียน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในเดือนธันวาคม ศกนี้ ขณะนี้การเตรียมการต่างๆ มีความคืบหน้าไปตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ โดยประเทศไทยจะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมอันสำคัญยิ่งนี้ให้สมกับชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย
สำหรับข้าพเจ้าเอง ก็พร้อมที่จะดำเนินบทบาทในการนำอาเซียนไปสู่การสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รุ่งโรจน์และเป็นปึกแผ่น โดยในช่วงสัปดาห์หน้านี้ ข้าพเจ้าจะเดินทางเยือนมิตรประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อหารือทั้งในประเด็นทวิภาคีและความคืบหน้าในการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
อย่างไรก็ดี ภูมิภาคของเราจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยปัจจัยเกื้อหนุนจากสภาพเศรษฐกิจของโลกเป็นสำคัญ และในเดือนหน้านี้ ข้าพเจ้าก็จะเข้าร่วมในการประชุมระหว่างประเทศในระดับผู้นำอีกหลายแห่ง นับตั้งแต่การประชุมผู้นำปะเทศเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซ็ม ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือแอคเม็กที่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค หรือเอเปค ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู
ข้าพเจ้าหวังว่าจะใช้โอกาสเหล่านี้ ทำงานร่วมกับผู้นำของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยหารือเกี่ยวกับสภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจของโลกและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาคมการเงินระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนที่เคยได้รับจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของเอเชียเมื่อปี ค.ศ. 1997 กับผู้นำเหล่านี้
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
คำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ข้าพเจ้าได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวานนี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงยิ่ง โดยรัฐบาลของข้าพเจ้าจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งในด้าน การบริการสุขภาพ การขนส่งสินค้าทางอากาศ กิจการโทรคมนาคม ตลอดจนด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลจะมุ่งเน้นส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
บรรดาคณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในกรุงเทพฯ นับว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการส่งเสริมเกียรติภูมิ และความสำเร็จของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลของข้าพเจ้าและตัวข้าพเจ้าเองก็มุ่งหวังที่จะร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกท่าน เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าวร่วมกัน ตลอดในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป
ขอขอบคุณ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้เวลา 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรับรอง คณะทูตานุทูต และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ มีสาระสำคัญดังนี้
ท่านผู้มีเกียรติ
ฯพณฯ คณบดีคณะทูต ซาลิม อิสา อาลี อัล คาตัม อัล ซาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ท่านสมาชิกคณะผู้แทนทางการทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย
ท่านหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ
ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษทุกท่าน
ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับท่านทั้งหลาย ณ กระทรวงการต่างประเทศแห่งนี้ และขอขอบคุณที่ทุกท่านมาร่วมงานเลี้ยงรับรองในเช้าวันนี้ รัฐบาลของข้าพเจ้าได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ แม้จะมีเหตุการณ์วุ่นวายจากกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ทำให้สถานการณ์ดำเนินไปด้วยความราบรื่น รัฐบาลของข้าพเจ้าจึงสามารถดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พวกท่านทั้งหลายส่วนใหญ่ก็คงได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว ข้าพเจ้าเองก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกับหลายๆ ท่านในที่นี้ ตั้งแต่ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดก่อน และข้าพเจ้าก็ขอขอบคุณที่ท่านทั้งหลายมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้
ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสในเช้าวันนี้ กล่าวย้ำใน 3 ประเด็น ดังนี้
ประการที่ 1 รัฐบาลของข้าพเจ้า ถือเป็นภาระหน้าที่ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย โดยจะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และจะบริหารประเทศอย่างดีที่สุดเพื่อให้บรรลุความปรารถนาของประชาชนไทยในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น และความปรองดองสมานฉันท์ ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีความเข้มแข็งและสามารถผ่านมรสุมทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาได้อย่างมั่นคง
ประการที่ 2 รัฐบาลของข้าพเจ้า มีความมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูพลวัตรทางเศรษฐกิจของไทย โดยจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากความผันผวนทางการเงินของโลกในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมนโยบายการค้าและการลงทุนตามกลไกตลาด รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ จะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ
และในประการสุดท้าย ประเทศไทยจะยังคงเคารพและยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ กฏบัตรสหประชาชาติ สมาคมประชาชาติอาเซียน ตลอดจนความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่กับมิตรประเทศทั่วโลก โดยจะส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับทุกประเทศและองค์การระหว่างประเทศทุกแห่ง
ประเทศไทย ในฐานะประธานอาเซียน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในเดือนธันวาคม ศกนี้ ขณะนี้การเตรียมการต่างๆ มีความคืบหน้าไปตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ โดยประเทศไทยจะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมอันสำคัญยิ่งนี้ให้สมกับชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย
สำหรับข้าพเจ้าเอง ก็พร้อมที่จะดำเนินบทบาทในการนำอาเซียนไปสู่การสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รุ่งโรจน์และเป็นปึกแผ่น โดยในช่วงสัปดาห์หน้านี้ ข้าพเจ้าจะเดินทางเยือนมิตรประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อหารือทั้งในประเด็นทวิภาคีและความคืบหน้าในการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
อย่างไรก็ดี ภูมิภาคของเราจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยปัจจัยเกื้อหนุนจากสภาพเศรษฐกิจของโลกเป็นสำคัญ และในเดือนหน้านี้ ข้าพเจ้าก็จะเข้าร่วมในการประชุมระหว่างประเทศในระดับผู้นำอีกหลายแห่ง นับตั้งแต่การประชุมผู้นำปะเทศเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซ็ม ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือแอคเม็กที่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค หรือเอเปค ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู
ข้าพเจ้าหวังว่าจะใช้โอกาสเหล่านี้ ทำงานร่วมกับผู้นำของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยหารือเกี่ยวกับสภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจของโลกและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาคมการเงินระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนที่เคยได้รับจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของเอเชียเมื่อปี ค.ศ. 1997 กับผู้นำเหล่านี้
ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
คำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ข้าพเจ้าได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวานนี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงยิ่ง โดยรัฐบาลของข้าพเจ้าจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งในด้าน การบริการสุขภาพ การขนส่งสินค้าทางอากาศ กิจการโทรคมนาคม ตลอดจนด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลจะมุ่งเน้นส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
บรรดาคณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในกรุงเทพฯ นับว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการส่งเสริมเกียรติภูมิ และความสำเร็จของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลของข้าพเจ้าและตัวข้าพเจ้าเองก็มุ่งหวังที่จะร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกท่าน เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าวร่วมกัน ตลอดในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป
ขอขอบคุณ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--