นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุนายกรัฐมนตรีเลื่อนเดินทางเยือน 5 ประเทศอาเซียน เพราะต้องการดูแลปัญหาในประเทศให้เรียบร้อยก่อนไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวปฏิวัติ ยืนยันลาออก-ยุบสภาไม่ใช่ทางออกของปัญหา
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เลื่อนการเดินทางเยือน 5 ประเทศสมาชิกอาเซียนในสัปดาห์หน้า ว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการดูแลปัญหาในประเทศให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางเยือนต่างประเทศ และต้องการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดซึ่งไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวการปฏิวัติ นอกจากนี้ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่เสร็จสิ้น จึงต้องดำเนินการต่อ คาดว่าจะเรียบร้อยภายในสุดสัปดาห์นี้ และได้มีการแจ้งไปยังประเทศต่างๆ แล้ว ซึ่งทุกประเทศเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่ได้ขัดข้องโดยพร้อมที่จะกำหนดวันนัดหมายกันหมายใหม่เมื่อสถานการณ์ภายในประเทศเรียบร้อย และนายกรัฐมนตรีมีความพร้อมที่จะเดินทาง
“นายกรัฐมนตรียังยืนยันจุดยืนเดิม คือจะบริหารประเทศตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนต่อไป และเชื่อว่าการยุบสภาหรือลาออก ไม่ใช่ทางออกในการคลี่คลายวิกฤตที่เกิดขึ้นขณะนี้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยืนยันไม่ต้องการรัฐบาลจากพรรคพลังประชาชน หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องการรัฐบาลที่มาจากแนวคิดของตัวเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนที่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้กองทัพปฏิวัติ เพื่อเป็นทางออกให้กับปัญหาขณะนี้ รวมทั้ง ระบุว่า ตัวเองถูกบูชายัญเพื่อให้รัฐบาลทำงานต่อไปได้นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าพลเอก ชวลิตฯ มีข้อเสนอเช่นนั้นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นของพลเอก ชวลิตฯ ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง และเคยร่วมงานกันมาก่อน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เลื่อนการเดินทางเยือน 5 ประเทศสมาชิกอาเซียนในสัปดาห์หน้า ว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการดูแลปัญหาในประเทศให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางเยือนต่างประเทศ และต้องการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดซึ่งไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวการปฏิวัติ นอกจากนี้ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่เสร็จสิ้น จึงต้องดำเนินการต่อ คาดว่าจะเรียบร้อยภายในสุดสัปดาห์นี้ และได้มีการแจ้งไปยังประเทศต่างๆ แล้ว ซึ่งทุกประเทศเข้าใจเป็นอย่างดี และไม่ได้ขัดข้องโดยพร้อมที่จะกำหนดวันนัดหมายกันหมายใหม่เมื่อสถานการณ์ภายในประเทศเรียบร้อย และนายกรัฐมนตรีมีความพร้อมที่จะเดินทาง
“นายกรัฐมนตรียังยืนยันจุดยืนเดิม คือจะบริหารประเทศตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนต่อไป และเชื่อว่าการยุบสภาหรือลาออก ไม่ใช่ทางออกในการคลี่คลายวิกฤตที่เกิดขึ้นขณะนี้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยืนยันไม่ต้องการรัฐบาลจากพรรคพลังประชาชน หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องการรัฐบาลที่มาจากแนวคิดของตัวเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนที่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้กองทัพปฏิวัติ เพื่อเป็นทางออกให้กับปัญหาขณะนี้ รวมทั้ง ระบุว่า ตัวเองถูกบูชายัญเพื่อให้รัฐบาลทำงานต่อไปได้นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าพลเอก ชวลิตฯ มีข้อเสนอเช่นนั้นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นของพลเอก ชวลิตฯ ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง และเคยร่วมงานกันมาก่อน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--