นายกรัฐมนตรีระบุได้ทาบทามบุคคลที่จะมาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ เรียบร้อยแล้ว ยันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และเป็นที่ยอมรับของสังคม อีก 2 วันเปิดเผยชื่อ
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2551 เวลา 16.45 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาระบุให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ทั้งกรรมการเยียวยาและกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะข่าวขณะนี้ก็สวนทางกันไปมา ทางนี้ก็ว่าตัวเองถูก ทางนั้นก็ว่าผิด และความจริงวันนี้ทรัพย์สินของรัฐก็เสียหายไปมาก อย่างทำเนียบรัฐบาล วันนี้ก็เข้าใจว่าคงเสียหายไปเยอะ ก็คงต้องดูว่าเสียหายไปอย่างไร ใครทำอะไรไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้คุยกับ ผบ.ทบ. เรื่องคุย แต่เรื่องความขัดแย้งไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากองทัพกับรัฐบาลยังมีความเข้าใจอันดีต่อกันใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างที่ผ่านมาคิดว่าคนที่อยู่ในวงการก็เข้าใจ ซึ่งไม่อยากจะพูดมากในตอนนี้ เพราะถ้าพูดไปก็เหมือนกับว่าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้มาแก้ตัวกัน จึงคิดที่จะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เพียงพอหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด เพราะวันนี้เราจะไปโทษว่าคนนี้ผิด คนนี้ถูกไม่ได้ พูดไปก็เหมือนมาทะเลาะกัน และไม่ชอบให้มีบรรยากาศเช่นนั้น ทุกอย่างให้รอฟังผลการสอบสวนดีที่สุด ซึ่งคนที่ได้ทาบทามเข้ามาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงนั้น ก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือใครทั้งนั้น เชื่อว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งขณะนี้ได้ทาบทามเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านขอว่าอย่าเพิ่งเปิดเผย เพราะท่านต้องกลับไปสะสางงานของท่านก่อน และเตรียมสรรหาผู้ที่จะมาเป็นกรรมการร่วม อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 วันนี้คงจะเปิดเผยได้ ส่วนระยะเวลาที่กำหนดให้สอบสวนนั้น คิดว่ากรรมการคงทำได้อย่างรวดเร็ว แต่เราจะไม่ไปบังคับว่าต้องให้เสร็จภายในกี่วัน เพราะเท่าที่ท่านมาช่วยจัดการให้ก็ถือว่าดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมส่งผลกระทบต่อประเทศมาก รัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความขัดแย้งในสังคมเกิดมาตั้งแต่ก่อนปี 2549 และมีมาตลอด บ้านเราเกิดความแตกแยกเช่นนี้มาตลอด ซึ่งหลายฝ่ายก็พยายามประคับประคองกันไป จนมาถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ความขัดแย้งก็เริ่มรุนแรงขึ้น เราก็อยากให้บ้านเมืองสงบ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีความขัดแย้งอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันรัฐบาลก็ยังไม่สามารถจะทำงานได้ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถูกต้อง และยอมรับว่าการทำงานเกิดความไม่สะดวก แต่ก็ไม่เคยหยุดทำงาน เพราะยังมีหลายเรื่องที่ต้องให้ทำ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ข้าว ก็ได้ทำมาตลอด รวมถึงการเตรียมงานรัฐพิธีต่าง ๆ ก็หยุดไม่ได้
ส่วนจะเริ่มเดินทางไปเยือนประเทศอาเซียนได้เมื่อใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากปัญหาทุกอย่างจบแล้วก็จะเดินทางไปเยือนทันที เพราะโดยมารยาทต้องเดินทางไปทันที แต่ขณะนี้เราก็เห็น ๆ กันอยู่ ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานปัญหาน่าจะจบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ายังไม่มีความคิดเรื่องยุบสภาหรือลาออกในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา คิดทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ดีที่สุด ผลประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่ตน และตนก็ไม่ใช่เป็นคนยึดมั่นถือมั่นในตำแหน่งหน้าที่ หรืออยากได้ใคร่มีในลาภยศหรือวาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ต้องคิดถึงว่าถ้ายุบสภาตอนนี้ดีตรงไหน และเสียตรงไหน หรือลาออกดีตรงไหน เสียตรงไหน เอามาบวกลบกันดู สื่อก็ไปช่วยบวกลบคูณหารด้วยแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. 3 ต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลสนับสนุนอยู่ตลอดตามนโยบายที่ได้แถลงไป ซึ่งถ้า ส.ส.ร. 3 เสร็จแล้ว จะยุบสภาฯ หรือทำอย่างไรก็ว่ากันไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2551 เวลา 16.45 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาระบุให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ทั้งกรรมการเยียวยาและกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะข่าวขณะนี้ก็สวนทางกันไปมา ทางนี้ก็ว่าตัวเองถูก ทางนั้นก็ว่าผิด และความจริงวันนี้ทรัพย์สินของรัฐก็เสียหายไปมาก อย่างทำเนียบรัฐบาล วันนี้ก็เข้าใจว่าคงเสียหายไปเยอะ ก็คงต้องดูว่าเสียหายไปอย่างไร ใครทำอะไรไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้คุยกับ ผบ.ทบ. เรื่องคุย แต่เรื่องความขัดแย้งไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากองทัพกับรัฐบาลยังมีความเข้าใจอันดีต่อกันใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างที่ผ่านมาคิดว่าคนที่อยู่ในวงการก็เข้าใจ ซึ่งไม่อยากจะพูดมากในตอนนี้ เพราะถ้าพูดไปก็เหมือนกับว่าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้มาแก้ตัวกัน จึงคิดที่จะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เพียงพอหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด เพราะวันนี้เราจะไปโทษว่าคนนี้ผิด คนนี้ถูกไม่ได้ พูดไปก็เหมือนมาทะเลาะกัน และไม่ชอบให้มีบรรยากาศเช่นนั้น ทุกอย่างให้รอฟังผลการสอบสวนดีที่สุด ซึ่งคนที่ได้ทาบทามเข้ามาเป็นประธานสอบข้อเท็จจริงนั้น ก็เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือใครทั้งนั้น เชื่อว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งขณะนี้ได้ทาบทามเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านขอว่าอย่าเพิ่งเปิดเผย เพราะท่านต้องกลับไปสะสางงานของท่านก่อน และเตรียมสรรหาผู้ที่จะมาเป็นกรรมการร่วม อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 วันนี้คงจะเปิดเผยได้ ส่วนระยะเวลาที่กำหนดให้สอบสวนนั้น คิดว่ากรรมการคงทำได้อย่างรวดเร็ว แต่เราจะไม่ไปบังคับว่าต้องให้เสร็จภายในกี่วัน เพราะเท่าที่ท่านมาช่วยจัดการให้ก็ถือว่าดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมส่งผลกระทบต่อประเทศมาก รัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความขัดแย้งในสังคมเกิดมาตั้งแต่ก่อนปี 2549 และมีมาตลอด บ้านเราเกิดความแตกแยกเช่นนี้มาตลอด ซึ่งหลายฝ่ายก็พยายามประคับประคองกันไป จนมาถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ความขัดแย้งก็เริ่มรุนแรงขึ้น เราก็อยากให้บ้านเมืองสงบ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีความขัดแย้งอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันรัฐบาลก็ยังไม่สามารถจะทำงานได้ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถูกต้อง และยอมรับว่าการทำงานเกิดความไม่สะดวก แต่ก็ไม่เคยหยุดทำงาน เพราะยังมีหลายเรื่องที่ต้องให้ทำ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ข้าว ก็ได้ทำมาตลอด รวมถึงการเตรียมงานรัฐพิธีต่าง ๆ ก็หยุดไม่ได้
ส่วนจะเริ่มเดินทางไปเยือนประเทศอาเซียนได้เมื่อใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากปัญหาทุกอย่างจบแล้วก็จะเดินทางไปเยือนทันที เพราะโดยมารยาทต้องเดินทางไปทันที แต่ขณะนี้เราก็เห็น ๆ กันอยู่ ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานปัญหาน่าจะจบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ายังไม่มีความคิดเรื่องยุบสภาหรือลาออกในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา คิดทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ดีที่สุด ผลประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่ตน และตนก็ไม่ใช่เป็นคนยึดมั่นถือมั่นในตำแหน่งหน้าที่ หรืออยากได้ใคร่มีในลาภยศหรือวาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ต้องคิดถึงว่าถ้ายุบสภาตอนนี้ดีตรงไหน และเสียตรงไหน หรือลาออกดีตรงไหน เสียตรงไหน เอามาบวกลบกันดู สื่อก็ไปช่วยบวกลบคูณหารด้วยแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. 3 ต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลสนับสนุนอยู่ตลอดตามนโยบายที่ได้แถลงไป ซึ่งถ้า ส.ส.ร. 3 เสร็จแล้ว จะยุบสภาฯ หรือทำอย่างไรก็ว่ากันไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--