นายกรัฐมนตรีรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร และเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชา พร้อมยืนยันให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 13.15 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก จิรเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก พลโท วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค ที่ 2 และคณะ ไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 23 อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร และเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชา โดยมี นายไมตรี อินทุสุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายเฉลิมชัย เฟื่อนคอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ศรีสะเกษ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน คอยให้การต้อนรับ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับทหารกัมพูชาที่บริเวณภูมะเขือ และบริเวณฐาน ตชด. เก่าข้างสระตราว เชิงเขาพระวิหาร โดยมี นายแพทย์ วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษ์ นำคณะแพทย์ พยาบาล และชาวกันทรลักษ์ มารอต้อนรับและมอบดอกไม้ให้นายกรัฐมนตรีโดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงอาการบาดเจ็บของทหารทุกนายด้วยความเป็นห่วงใย ซึ่งทุกนายอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วคาดว่า อีกไม่กี่วันแพทย์จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นได้ ทั้งนี้ ทหารทุกนายยืนยันว่า หลังจากหายแล้ว จะขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เขาพระวิหารต่อไป โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายและดอกไม้ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับทหารทุกนาย
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงทหารที่บาดเจ็บจึงมาให้กำลังใจ เพราะทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นายกรัฐมนตรีก็ต้องมาดูแล มาพบปะญาติพี่น้องของทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ท้อถอย และได้กล่าวขอบคุณทหารที่บาดเจ็บทุกนายที่ได้เสียสละ รวมทั้งถือเป็นตัวแทนคนไทยทุกคนมาเยี่ยมครั้งนี้ด้วย ส่วนปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาเชื่อว่าจะสามารถตกลงกันได้ โดยไม่ต้องถึงขั้นเจรจาในระดับอาเซียน ถ้าทั้งสองฝ่ายยังยึดตามข้อตกลงที่ให้กันไว้
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนในพื้นที่เชิงเขาพระวิหาร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ และนักเรียนในโรงเรียนตามแนวชายแดน 5 โรงเรียน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันกับกำลังพลว่า พร้อมสนับสนุนการทำงานของกำลังพลและข้าราชการแนวหน้า ประเทศจะอยู่ได้ด้วยความเสียสละของทุกคน พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประเทศไทยมีนโยบายชัดเจนที่จะอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสงบและสันติ แต่ทหารก็ต้องพร้อมยืนหยัดเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามความเป็นอยู่ของนักเรียนและครู ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนบุคลากรครู อาคารเรียน เบี้ยเสี่ยงภัย และหลุมหลบภัย โดยนายกรัฐมนตรีรับที่จะดูแลปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรวบรวมปัญหาเสนอไปยังกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและดูอาการบาดเจ็บของทหาร และ อาสาสมัครทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับทหารกัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมกระเช้าดอกไม้ให้กับนางปริมากร ขันตี ภรรยา อาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ ขันตรี สังกัดกองร้อยทหารพราน 959 ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะและยังไม่รู้สึกตัว พร้อมกล่าวให้กำลังใจและยืนยันว่ารัฐบาลจะเข้ามาดูแลช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่
ต่อมาเวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานดอนเมือง และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด คือไปร่วมการแข่งขันเรือยาวประเพณีจังหวัดอุบลราชธานี ถือว่าเป็นประเพณีที่ดี เป็นการรักษาประเพณี และส่งเสริมให้มีการเล่นกีฬาเยอะๆ เพราะการเล่นกีฬาทำให้สุขภาพดี คนเล่นกีฬาก็ถูกส่งเสริมให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย นอกจากนี้ ยังไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ และโรงพยาบาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีอาการหนักเพียงแค่คนเดียว อาจจะโดนกระสุนหรือระเบิดที่ศีรษะ และกระทบกระเทือนถึงสมอง ต้องผ่าตัด ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว ส่วนที่เหลืออาการที่มากที่สุดคือต้องตัดขา คาดว่าคงโดนกับระเบิดหรือโดนยิง เป็นบาดแผลที่ไม่สามารถเข้าเฝือกหรือทำอะไรได้ ส่วนที่เหลือบาดเจ็บไม่มากประมาณ 9 นาย ที่โดนสะเก็ดระเบิดและกระสุนบ้างเล็กน้อย ส่วนที่โรงพยาบาลจังหวัดศรีสะเกษมีส่วนหนึ่งเป็นโรคไข้มาลาเรียเพราะมียุงป่าเยอะ
"ไปครั้งนี้ผมไปเยี่ยมทุกรายที่ได้รับบาดเจ็บและไปให้ของขวัญให้กำลังใจ บอกว่าผมมาเยี่ยมแทนประชาชนคนไทยทุกคนที่มีความเป็นห่วง และฝากความปรารถนาดีมาสู่ทหารที่ไปลำบากลำบนที่ชายแดน เกิดเหตุบาดเจ็บและแสดงความห่วงใย อยากให้หายเป็นปกติโดยเร็ว ทีแรกคิดว่าผู้ป่วยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีทั้งหมด เพราะได้รับรายงานว่า ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บมายังจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว แต่ข้อมูลคลาดเคลื่อนเพราะที่จังหวัดศรีสะเกษก็มี เมื่อไปแล้วก็ควรจะเยี่ยมทั่วถึงต้องไปให้ถึง" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำหนดวันที่จะไปพบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยัง เพราะต้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศก่อน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--