นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 7/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบนโยบายการบริหารราชการและหารือข้อราชการร่วมกันระหว่างหน่วยงานดังกล่าว
วันนี้ เวลา 12.30 น. ณ ห้องประชุมสยามปัฐพีพิทักษ์ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 7/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกแก่หัวหน้าส่วนราชการที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงในปีงบประมาณ 2550-2552 จำนวน 16 คน จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมและกล่าวต้อนรับหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง พร้อมมอบนโยบายการบริหารราชการและหารือข้อราชการร่วมกันระหว่างหน่วยงานดังกล่าว
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า การประชุมวันนี้เป็นการหารือและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันของหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ซึ่งถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการประจำระดับสูงของส่วนราชการได้มีโอกาสนำปัญหาในการปฏิบัติงานมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน รวมถึงนำปัญหาดังกล่าวกราบเรียนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบด้วย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวว่าขอให้ข้าราชการประจำมีความสบายใจในการทำงานร่วมกับรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าเป็นฝ่ายใด และไม่ต้องมีความรู้สึกว่าข้าราชการประจำต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการทำงานแต่อย่างใด เพราะข้าราชการประจำนั้นเป็นหลักของการบริหารงานในระดับกระทรวง และขอให้ข้าราชการประจำมีความมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการเมือง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวยืนยันว่า จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 7 (ASEM 7) ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม 2551 นี้ อย่างแน่นอน ส่วนจะนำเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา เข้าหารือด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนเนื่องจากการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำเอเชีย-ยุโรป แต่เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องที่จะต้องมีการเจรจาหารือร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งนี้หากมีโอกาสเจรจาทวิภาคีระหว่างสองประเทศก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการประสานงานกันกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชา อย่างไรก็ตาม หากบรรยาศและเวลามีความเหมาะสมก็อาจจะมีการประสานเพื่อเจรจาหารือกันต่อไป
ส่วนจะมีการชี้แจงให้ผู้นำเอเชีย-ยุโรป เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าคงไม่มีการถามคำถามดังกล่าว เพราะการเดินทางไปร่วมประชุมครั้งนี้ มีการเดินทางไปทั้งสองประเทศ จะชี้แจงประเทศเดียวคงไม่ได้ โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นมารยาทที่ไม่ควรจะพูดในเวทีนี้ อย่างไรก็ตามการดำเนินการต่าง ๆ ในเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศก่อน เนื่องจากต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--