นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ครั้งที่ 2/2551
วันนี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารกลาง ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ครั้งที่ 2/2551 ภายหลังการประชุม นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน และ นายคณิต แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจ ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมฯ ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้ที่ประชุมแต่งตั้ง
คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติเพื่อช่วยศึกษาและพิจารณาแนวทางในการหาข้อยุติในด้านนโยบายจำนวน 3 คณะ ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมการฯ ด้านการผลิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน 2) คณะอนุกรรมการฯ ด้านการตลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน 3) คณะอนุกรรมการฯ ด้านงบประมาณและการเงิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการปฏิบัติ จำนวน 5 คณะ ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน 2) คณะอนุกรรมการฯ ด้านการระบายข้าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน 3) คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน 4) คณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการรับจำนำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และ 5) คณะอนุกรรมการฯ ให้สิทธิการขายข้าวเปลือกล่วงหน้าแก่เกษตรกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน สำหรับกรณีการกำหนดราคาข้าวเปลือกนาปีขั้นต่ำที่ชาวนาจะขายได้ประจำปี 2551/2552 ที่ประชุม ได้มอบหมายให้ รศ.สมพร อิศวิลานนท์ เป็นประธานพิจารณาต้นทุนและผลตอนแทนที่เหมาะสมของการผลิตข้าวของชาวนา นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นว่า ข้าวเปลือกนาปีที่ระดับความชื้น 15% ราคาขั้นต่ำประจำปี 2551/2552 ที่ชาวนาควรขายได้คือ 1. ข้าวเปลือกเจ้านาปี ตันละ 12,000 บาท 2. ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท และ 3. ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,000 บาท
ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายให้ภาคเอกชน คือโรงสี ชาวนา พ่อค้า และผู้ส่งออก ซื้อขายข้าวกันเองในราคาขั้นต่ำเป็นหลักตามกลไกตลาด แต่เนื่องจากลักษณะความชื้นระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว ยุ้งฉาง ไซโล และโกดังที่เก็บข้าวแตกต่างกันไปตามภูมิภาค คณะกรรมการ กขช. จึงขอให้คณะอนุกรรมการฯ ทุกคณะที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียด วิธีการและขั้นตอนเพื่อให้ชาวนาสามารถขายข้าวได้อย่างน้อยในราคาต่ำตามเป้าหมายข้างต้น และในปริมาณที่ชาวนาส่วนใหญ่ผลิตได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ จะร่วมกันจัดทำบัญชีรายชื่อเกษตรกรและปริมาณที่เกษตรกรแต่ละครอบครัวผลิตได้ เพื่อรัฐบาลจะได้ช่วยดูแลให้ครอบครัวเหล่านี้ขายข้าวเปลือกได้ในราคาและปริมาณที่เป็นจริงส่วนในช่วง 6 เดือนหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 เกษตรกรที่จดทะเบียนรายชื่อไว้แล้ว ไม่สามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาขั้นต่ำ รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ เข้าแทรกแซง โดยรับจำนำจากชาวนา และ/หรือ ให้สิทธิการขายข้าวล่วงหน้าแก่ชาวนาในราคาเป้าหมายขั้นต่ำข้างต้น ในช่วง 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ถึง 30 เมษายน 2552
สำหรับวิธีการที่จะทำให้บรรลุถึงเป้าหมายราคาและปริมาณข้างต้นของเกษตรกรที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเกษตรกร คณะกรรมการ กขช.ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ทุกคณะพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ที่เหมาะสม ขั้นตอนและรายละเอียดในการปฏิบัติงาน และนำเสนอคณะกรรมการ กขช. เพื่อพิจารณาตัดสิใจต่อไปภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2551 โดยให้อนุกรรมการทุกคณะทำงานทันทีและรายงานความก้าวหน้าทุกวันต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายโอฬาร ไชยประวัติ)
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--