นายกรัฐมนตรีระบุจะร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันกับประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมASEM 7 ครั้งนี้ด้วย
วันนี้ เวลา 16.15 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้นอกจากประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังได้ประชุมเตรียมการเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 7 (ASEM 7) ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย ซึ่งการไปร่วมประชุมครั้งนี้ประเทศไทย ถือได้ว่าค่อนข้างจะมีบทบาทสำคัญ เพราะการประชุมครั้งแรกประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ ประเทศไทยก็จะเข้าร่วมการประชุม ASEM มาอย่างต่อเนื่อง โดยจะไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันกับประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วม สำหรับการประชุมครั้งนี้จะร่วมแสดงวิสัยทัศน์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องเศรษฐกิจ เนื่องจากขณะนี้ประเทศในยุโรปประสบปัญหาทางด้านวิกฤติการเงินของโลก ที่อาจจะลุกลามมาถึงประเทศเอเชียได้ ซึ่งประเทศไทยเคยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจมาแล้วเมื่อปี 2540 โดยที่ผ่านมาได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จึงทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวน้อย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคธุรกิจได้ยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการผลิตอาหาร เนื่องจากในหลายภูมิภาคของโลกยังมีการขาดแคลนอาหารอยู่ไม่น้อย
นอกจากนี้ยังจะได้มีการหารือแบบทวิภาคีกับหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย ซึ่งการหารือดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นในด้านการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นว่าถึงแม้ประเทศไทยอาจจะมีปัญหาทางการเมืองอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีผบกระทบทางด้านการท่องเที่ยว จีงไม่ต้องกังวลใจ พร้อมกันนี้อาจจะมีการหารือทวิภาคีกับสมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ด้วย ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานเรียบร้อยคาดว่าจะเป็นวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ทั้งนี้ขอยืนยันว่าประเทศไทย-กัมพูชา เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน จึงยึดมั่นที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธี และเมื่อมีปัญหาก็จะใช้วิธีเจรจากันระหว่างสองประเทศ โดยไม่จำเป็นจะต้องไปหารือในเวทีใหญ่ ๆ ซึ่งจะทำให้ไทย-กัมพูชาเข้าใจกันได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะมีการหารือร่วมกับผู้นำประเทศยุโรปด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--