แท็ก
สุรยุทธ์ จุลานนท์
กระทรวงศึกษาธิการ
สนธิ บุญยรัตกลิน
วิจิตร ศรีสอ้าน
กระทรวงมหาดไทย
นายกรัฐมนตรี
เมื่อเวลา 09.45 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงสนามบินบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส และเดินทางต่อไปยังโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ เพื่อพบปะกับตัวแทนนักเรียนและครู โรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ และตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ และรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากครูและนักเรียนกว่า 500 คน
ซึ่งส่วนใหญ่ได้เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขอให้ยกระดับการศึกษาให้เทียบเท่ากับการศึกษาในภูมิภาคอื่น ๆ สนับสนุนโครงการทางการศึกษาที่เป็นประโยชน์ให้แก่เยาวชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขอให้มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิประโยชน์เบื้องต้นที่เยาวชนควรรู้ รวมทั้งเรื่องทุนการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้เยาวชนในพื้นที่นำการศึกษาที่ได้รับกลับมาพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสันติสุข พร้อมทั้งจะนำข้อเสนอแนะกลับไปพิจารณา
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังโรงเรียนนราสิกขาลัย จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะนักเรียน ครู ผู้บริหารในพื้นที่ และรับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากตัวแทนนักเรียน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เยาวชนในพื้นที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังวัดลำภู ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะกับพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ตำบลลำภู โดยตัวแทนประชาชนได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมทั้งเสนอแนะให้มีการหาแนวทางป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานที่คอยรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีหน้าที่หลักในการรับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง หลังจากนี้อีกประมาณ 2 เดือน ศอ.บต.จะทำงานได้เต็มรูปแบบ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนเรื่องที่เกี่ยวข้องมาจาก กอ.สสส.จชต.
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และพร้อมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชน
ภายหลังรับฟังปัญหา นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ปัญหาที่เยาวชนเสนอแนะมากที่สุดคือความกังวลด้านการศึกษา ซึ่งในพื้นที่ยังมีการศึกษาที่ต่ำอยู่ จึงขอให้มีการส่งอาจารย์ที่มีความรู้ ความสามารถมาสอน เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งการแก้ไขปัญหาในระยะยาวคือจะต้องปรับระบบการศึกษาให้เท่าเทียมกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ แต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน รวมทั้งจะต้องมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจโดยให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาพื้นที่และความเป็นอยู่ แต่ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวจะทำได้ต่อเมื่อในพื้นที่เกิดความสันติสุข ดังนั้น นักเรียนในพื้นที่จะต้องร่วมมือกัน
ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับครูและเจ้าหน้าที่ภาครัฐในพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ให้มีการประสานงานกัน โดยมี ศอ.บต.เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ด้านการประสานงานสร้างความเข้าใจ รับฟังปัญหา หาแนวทางแก้ไขให้กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเริ่มงานได้อย่างเต็มที่ก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าปัญหาที่ได้รับฟังขณะนี้เป็นปัญหาที่กว้าง ทั้งในเรื่องของผู้นำศาสนา และเยาวชน ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป และรัฐบาลกำลังหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหา โดยยกตัวอย่างที่ตำบลลำภู จังหวัดนราธิวาส ถือเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ยังมีความสันติ
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังวัดนิโรธสังฆาราม จังหวัดยะลา เพื่อพบและให้กำลังใจแก่พี่น้องชาวไทยพุทธจากหมู่บ้านสันติ 1 อำเภอบันนังสตา และบ้านสันติ 2 อำเภอธารโต ซึ่งอพยพหลบภัยมาพึ่งวัด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงใบปลิวที่กลุ่มก่อความไม่สงบต่อต้านนโยบายดับไฟใต้ของรัฐบาลให้สื่อมวลชนดู และกล่าวว่า "ใบปลิวที่ผมได้รับจากพี่น้องประชาชนเมื่อสักครู่นี้ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวของเขาที่มีการต่อการดำเนินงานของผม ที่มาใช้วิธีการทางด้านสันติวิธี เขาคงหวาดกลัวว่าพี่น้องคนไทยที่ยังเกิดความลังเลจะได้เปลี่ยนแนวทางมาเห็นด้วยกับแนวทางของผม จึงได้พยายามโจมตีด้วยใบปลิวต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าวิธีคิดไม่ดีนั้นพยายามที่จะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาในบ้านเมืองของเรา และเป็นการแย่งชิงมวลชนระหว่างกลุ่มคนร้ายกับรัฐบาล” ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายมีความร่วมมือ สมัครสมานสามัคคี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และรัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยืนกันคนละข้าง มีวิธีการทำงานที่ต่างกัน จึงขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทนแล้วความสันติสุขจะเกิดขึ้น
หลังจากนั้น เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ ศาลาบุหลัน พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส เนื่องในงานพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่อิหม่ามและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และพระราชทานรางวัลประจำปีงบประมาณ 2549 แก่ผู้แทนโรงเรียน ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในเขตการศึกษาเขตภาคใต้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ซึ่งส่วนใหญ่ได้เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขอให้ยกระดับการศึกษาให้เทียบเท่ากับการศึกษาในภูมิภาคอื่น ๆ สนับสนุนโครงการทางการศึกษาที่เป็นประโยชน์ให้แก่เยาวชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขอให้มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิประโยชน์เบื้องต้นที่เยาวชนควรรู้ รวมทั้งเรื่องทุนการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้เยาวชนในพื้นที่นำการศึกษาที่ได้รับกลับมาพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสันติสุข พร้อมทั้งจะนำข้อเสนอแนะกลับไปพิจารณา
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังโรงเรียนนราสิกขาลัย จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะนักเรียน ครู ผู้บริหารในพื้นที่ และรับฟังปัญหาข้อเสนอแนะจากตัวแทนนักเรียน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เยาวชนในพื้นที่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังวัดลำภู ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะกับพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ตำบลลำภู โดยตัวแทนประชาชนได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมทั้งเสนอแนะให้มีการหาแนวทางป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานที่คอยรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีหน้าที่หลักในการรับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง หลังจากนี้อีกประมาณ 2 เดือน ศอ.บต.จะทำงานได้เต็มรูปแบบ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนเรื่องที่เกี่ยวข้องมาจาก กอ.สสส.จชต.
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และพร้อมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชน
ภายหลังรับฟังปัญหา นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ปัญหาที่เยาวชนเสนอแนะมากที่สุดคือความกังวลด้านการศึกษา ซึ่งในพื้นที่ยังมีการศึกษาที่ต่ำอยู่ จึงขอให้มีการส่งอาจารย์ที่มีความรู้ ความสามารถมาสอน เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งการแก้ไขปัญหาในระยะยาวคือจะต้องปรับระบบการศึกษาให้เท่าเทียมกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ แต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน รวมทั้งจะต้องมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจโดยให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาพื้นที่และความเป็นอยู่ แต่ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวจะทำได้ต่อเมื่อในพื้นที่เกิดความสันติสุข ดังนั้น นักเรียนในพื้นที่จะต้องร่วมมือกัน
ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับครูและเจ้าหน้าที่ภาครัฐในพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ให้มีการประสานงานกัน โดยมี ศอ.บต.เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ด้านการประสานงานสร้างความเข้าใจ รับฟังปัญหา หาแนวทางแก้ไขให้กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเริ่มงานได้อย่างเต็มที่ก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าปัญหาที่ได้รับฟังขณะนี้เป็นปัญหาที่กว้าง ทั้งในเรื่องของผู้นำศาสนา และเยาวชน ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป และรัฐบาลกำลังหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหา โดยยกตัวอย่างที่ตำบลลำภู จังหวัดนราธิวาส ถือเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ยังมีความสันติ
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังวัดนิโรธสังฆาราม จังหวัดยะลา เพื่อพบและให้กำลังใจแก่พี่น้องชาวไทยพุทธจากหมู่บ้านสันติ 1 อำเภอบันนังสตา และบ้านสันติ 2 อำเภอธารโต ซึ่งอพยพหลบภัยมาพึ่งวัด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงใบปลิวที่กลุ่มก่อความไม่สงบต่อต้านนโยบายดับไฟใต้ของรัฐบาลให้สื่อมวลชนดู และกล่าวว่า "ใบปลิวที่ผมได้รับจากพี่น้องประชาชนเมื่อสักครู่นี้ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวของเขาที่มีการต่อการดำเนินงานของผม ที่มาใช้วิธีการทางด้านสันติวิธี เขาคงหวาดกลัวว่าพี่น้องคนไทยที่ยังเกิดความลังเลจะได้เปลี่ยนแนวทางมาเห็นด้วยกับแนวทางของผม จึงได้พยายามโจมตีด้วยใบปลิวต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าวิธีคิดไม่ดีนั้นพยายามที่จะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาในบ้านเมืองของเรา และเป็นการแย่งชิงมวลชนระหว่างกลุ่มคนร้ายกับรัฐบาล” ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายมีความร่วมมือ สมัครสมานสามัคคี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และรัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยืนกันคนละข้าง มีวิธีการทำงานที่ต่างกัน จึงขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทนแล้วความสันติสุขจะเกิดขึ้น
หลังจากนั้น เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ ศาลาบุหลัน พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส เนื่องในงานพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่อิหม่ามและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และพระราชทานรางวัลประจำปีงบประมาณ 2549 แก่ผู้แทนโรงเรียน ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในเขตการศึกษาเขตภาคใต้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--