เย็นวันนี้ ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยที่ติดตามไปทำข่าวภารกิจการเยือนประเทศมาเลเซียของนายกรัฐมนตรี ภายหลังการหารือกับ ดาโต๊ะ ซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และการเข้าเยี่ยมคารวะของ ดาโต๊ะ ซรี นาจิบ ราซัก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเกี่ยวกับความร่วมมือและการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันที่จะสานต่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อกันต่อไป พร้อมทั้งยังได้แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย และยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของไทย
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คอยปกปักรักษาเสถียรภาพของบ้านเมือง และเป็นสถาบันที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียรับรู้และเข้าใจถึงความสำคัญในส่วนนี้เป็นอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือถึงความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งไทยจะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือรัฐบาลมาเลเซียในการทำความเข้าใจกับกลุ่มประเทศมุสลิมถึงสถานการณ์ในภาคใต้ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องร่วมกันว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานความใกล้ชิดและแนบแน่นและจะมีการพบปะกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะสานต่อโครงการที่ได้เคยมีความตกลงกันไว้ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อาทิ JIS, IMT-GT โดยไทยและมาเลเซียจะทำงานร่วมกันและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในเรื่องต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซียว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร ซึ่งจะมีการสานต่อและเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
จากนั้นในตอนค่ำนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ โรงแรมแชงกรีลา ประเทศมาเลเซีย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเกี่ยวกับความร่วมมือและการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันที่จะสานต่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อกันต่อไป พร้อมทั้งยังได้แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย และยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของไทย
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คอยปกปักรักษาเสถียรภาพของบ้านเมือง และเป็นสถาบันที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียรับรู้และเข้าใจถึงความสำคัญในส่วนนี้เป็นอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือถึงความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งไทยจะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือรัฐบาลมาเลเซียในการทำความเข้าใจกับกลุ่มประเทศมุสลิมถึงสถานการณ์ในภาคใต้ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องร่วมกันว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานความใกล้ชิดและแนบแน่นและจะมีการพบปะกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะสานต่อโครงการที่ได้เคยมีความตกลงกันไว้ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อาทิ JIS, IMT-GT โดยไทยและมาเลเซียจะทำงานร่วมกันและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในเรื่องต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซียว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร ซึ่งจะมีการสานต่อและเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
จากนั้นในตอนค่ำนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ โรงแรมแชงกรีลา ประเทศมาเลเซีย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--