วันนี้ เวลา 20.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงการีล่า กรุงเทพฯ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2549 จัดโดยคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงานสรุปว่า การมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่คณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในรอบปี 2549 นับเป็นครั้งที่ 5 ที่ทางคณะกรรมการได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้กับองค์กร ที่มีความเป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการ ซึ่งองค์กรที่ถูกพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในแต่ละปีนั้น เป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ หรือ Thailand Quality Award ซึ่งรางวัลคุณภาพแห่งชาติ นับเป็นรางวัลระดับ World Class ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เนื่องจากมีเกณฑ์การประเมินทางด้านเทคนิค และกระบวนการตัดสินรางวัล เช่นเดียวกับรางวัลคุณภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ The Malcolm Baldrige National Quality Award ซึ่งเป็นต้นแบบรางวัลคุณภาพแห่งชาติที่ประเทศต่างๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลกนำไปประยุกต์ใช้ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และถือเป็นมาตรฐานสูงสุดของการวัดระดับคุณภาพระบบการจัดการที่ดีขององค์กรเพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่การแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ คุณประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้รางวัลคุณภาพแห่งชาติโดดเด่นและแตกต่างจากรางวัลอื่นๆ คือ การดำเนินโครงการที่มีกระบวนการของการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่องครบวงจรตลอดทั้งปี อาทิการจัดงาน Winner Conference ให้บริษัทที่ได้รับรางวัลมานำเสนอวิธีปฏิบัติที่ทำให้องค์กรได้รับการยอมรับว่ามีระบบบริหารจัดการเป็นเลิศในระดับโลก การมุ่งเสริมสร้างความรู้สู่องค์กรต่างๆ ทั่วประเทศทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ผ่านการจัดสัมมนาทำความเข้าใจเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ การคัดเลือกสรรหาและฝึกอบรมผู้ตรวจประเมิน จัดบริการปรึกษาแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมให้องค์กรที่สนใจ โดยมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติรับหน้าที่ดำเนินการ
รวมทั้งได้จัดส่ง ทีมงานวิจัยเข้าไปศึกษาวิธีการปฏิบัติของบริษัทที่ได้รับรางวัลแบบเจาะลึกทั้ง 7 หมวด คือ การนำองค์กร การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล การจัดการกระบวนการและผลลัพธ์ เพื่อหาแนวทางของวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศนั้นๆ มาเผยแพร่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในงานสัมมนา Best Practices ในช่วงปลายปี 2550 เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาขององค์กรธุรกิจไทยในการนำไปประยุกต์ใช้
และนอกจากรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้กับหน่วยงานที่มีมาตรฐานในระดับโลกแล้ว คณะกรรมการรางวัลยังกำหนดให้มีการมอบรางวัล การบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือ Thailand Quality Class ให้กับองค์กร หรือหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่รองลงมา อย่างไรก็ตาม รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ ถือเป็นรางวัลที่มีเกียรติยศสูง แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่ได้รับรางวัล มีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศในระดับโลกได้ในอนาคตอันใกล้เช่นเดียวกัน
นายสมภพ อมาตยกุล ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ได้ประกาศเกียรติคุณองค์กรที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2549 ซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้แก่ โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในความมุมานะเพียรพยายามต่อการปรับปรุงระบบการบริหารองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอรับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ตลอดระยะเวลาหลายที่ผ่านมา จึงขอสดุดีและเชิดชูเกียรติในความเพียรพยายามอันถึงพร้อมแก่การเข้ารับรางวัลคุณภาพแห่งชาติในครั้งนี้
ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2549 อันแสดงถึงความเป็นเลิศในระบบการบริหารจัดการองค์กรตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ทั้ง 7 เกณฑ์ โดยมีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ควบคุมป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยมีการบริหารงานในรูปแบบคณะทำงาน ทำให้การดำเนินงานได้รับการยอมรับและถูกนำไปปฏิบัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยผู้บริหารและพนักงานทุกระดับมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างระบบการบริหารจัดการและดำเนินงาน ตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติอย่างเป็นระบบ รวมถึงทำการเปรียบเทียบการดำเนินงานของโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กับหน่วยงานที่เป็นเลิศเพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น การได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติในปีนี้ จึงนับเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีระบบการบริหารจัดการองค์กรเทียบเท่าระดับโลก ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศได้ในโอกาสต่อไป พร้อมกันนี้ได้แสดงความยินดีต่อองค์กรที่ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศทั้ง 2 องค์กร
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติแก่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และมอบรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศแก่บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน)
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสมาอยู่ท่ามกลางองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารและจัดการทั่วทั้งองค์กรในระดับโลก และได้ขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ได้จัดงานมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศมาเป็นครั้งที่ 5 เพื่อสดุดียกย่องผู้ประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแข่งขันทางการค้าในโลกปัจจุบัน องค์กรที่มีการปรับตัวและพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมเพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ย่อมมีความได้เปรียบและสามารถยืนหยัดอยู่ในเวทีการค้าโลกได้อย่างเข้มแข็ง หากประเทศของเรามีองค์กรลักษณะเช่นนี้มากเท่าไร ก็ย่อมหมายถึงความสามารถทางการแข่งขันยิ่งได้รับการพัฒนามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการจัดงานมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติครั้งนี้นอกจากจะสามารถส่งเสริมให้องค์กรไทยมีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการทัดเทียมองค์กรชั้นนำระดับสากล และมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้องค์กรต่างๆ ได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการในระดับโลก เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละคนด้วย เป็นความสำเร็จที่ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งในระดับองค์กรและในระดับสังคมโดยส่วนรวมไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น ความมานะพยายามที่ทุกคนได้มีเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นองค์กรสูงสุดในด้านการบริหารจัดการนั้น อาจเปรียบได้กับ "พระมหาชนก" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่คณะผู้จัดงานได้อัญเชิญมาเพื่อรับชมกันในช่วงต้น จึงขอให้ทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และรักษาความเป็นหนึ่งนี้ไว้ให้มั่นคงยั่งยืน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรต่าง ๆ และให้ทุกคนเห็นว่าการมีความเพียรจะทำให้บรรลุผลสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
สำหรับองค์กรที่ได้รับรางวัลนั้น ล้วนแต่เป็นองค์กรตัวอย่างในด้านความเพียรพยายามและการมีการบริหารจัดการที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลด้วยกันทั้งสิ้นเช่น โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ระยอง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้มีความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการทำงานมาตลอด 3 ปี ส่วนบริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) นอกจากการดำเนินงานด้านธุรกิจหลักแล้ว ยังได้จัดตั้งโรงเรียนเพื่อผลิตบุคลากรที่มีความสามารถด้านการบริหารจัดการด้านการค้าปลีกให้แก่สังคมไทยและช่วยขยายโอกาสทางสังคมด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีกับทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในปีนี้ด้วยความจริงใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมกันผลักดันให้เศรษฐกิจและสังคมไทยมีความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพและประสิทธิภาพขององค์กร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถแข่งขันได้ในตลาดการค้าโลกอย่างประสบผลสำเร็จต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงานสรุปว่า การมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่คณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในรอบปี 2549 นับเป็นครั้งที่ 5 ที่ทางคณะกรรมการได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้กับองค์กร ที่มีความเป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการ ซึ่งองค์กรที่ถูกพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในแต่ละปีนั้น เป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ หรือ Thailand Quality Award ซึ่งรางวัลคุณภาพแห่งชาติ นับเป็นรางวัลระดับ World Class ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เนื่องจากมีเกณฑ์การประเมินทางด้านเทคนิค และกระบวนการตัดสินรางวัล เช่นเดียวกับรางวัลคุณภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ The Malcolm Baldrige National Quality Award ซึ่งเป็นต้นแบบรางวัลคุณภาพแห่งชาติที่ประเทศต่างๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลกนำไปประยุกต์ใช้ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และถือเป็นมาตรฐานสูงสุดของการวัดระดับคุณภาพระบบการจัดการที่ดีขององค์กรเพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่การแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ คุณประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้รางวัลคุณภาพแห่งชาติโดดเด่นและแตกต่างจากรางวัลอื่นๆ คือ การดำเนินโครงการที่มีกระบวนการของการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่องครบวงจรตลอดทั้งปี อาทิการจัดงาน Winner Conference ให้บริษัทที่ได้รับรางวัลมานำเสนอวิธีปฏิบัติที่ทำให้องค์กรได้รับการยอมรับว่ามีระบบบริหารจัดการเป็นเลิศในระดับโลก การมุ่งเสริมสร้างความรู้สู่องค์กรต่างๆ ทั่วประเทศทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ผ่านการจัดสัมมนาทำความเข้าใจเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ การคัดเลือกสรรหาและฝึกอบรมผู้ตรวจประเมิน จัดบริการปรึกษาแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมให้องค์กรที่สนใจ โดยมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติรับหน้าที่ดำเนินการ
รวมทั้งได้จัดส่ง ทีมงานวิจัยเข้าไปศึกษาวิธีการปฏิบัติของบริษัทที่ได้รับรางวัลแบบเจาะลึกทั้ง 7 หมวด คือ การนำองค์กร การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล การจัดการกระบวนการและผลลัพธ์ เพื่อหาแนวทางของวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศนั้นๆ มาเผยแพร่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในงานสัมมนา Best Practices ในช่วงปลายปี 2550 เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาขององค์กรธุรกิจไทยในการนำไปประยุกต์ใช้
และนอกจากรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้กับหน่วยงานที่มีมาตรฐานในระดับโลกแล้ว คณะกรรมการรางวัลยังกำหนดให้มีการมอบรางวัล การบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือ Thailand Quality Class ให้กับองค์กร หรือหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่รองลงมา อย่างไรก็ตาม รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ ถือเป็นรางวัลที่มีเกียรติยศสูง แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่ได้รับรางวัล มีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศในระดับโลกได้ในอนาคตอันใกล้เช่นเดียวกัน
นายสมภพ อมาตยกุล ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ได้ประกาศเกียรติคุณองค์กรที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2549 ซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้แก่ โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในความมุมานะเพียรพยายามต่อการปรับปรุงระบบการบริหารองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอรับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ตลอดระยะเวลาหลายที่ผ่านมา จึงขอสดุดีและเชิดชูเกียรติในความเพียรพยายามอันถึงพร้อมแก่การเข้ารับรางวัลคุณภาพแห่งชาติในครั้งนี้
ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2549 อันแสดงถึงความเป็นเลิศในระบบการบริหารจัดการองค์กรตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ทั้ง 7 เกณฑ์ โดยมีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ควบคุมป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยมีการบริหารงานในรูปแบบคณะทำงาน ทำให้การดำเนินงานได้รับการยอมรับและถูกนำไปปฏิบัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยผู้บริหารและพนักงานทุกระดับมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างระบบการบริหารจัดการและดำเนินงาน ตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติอย่างเป็นระบบ รวมถึงทำการเปรียบเทียบการดำเนินงานของโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กับหน่วยงานที่เป็นเลิศเพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น การได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติในปีนี้ จึงนับเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีระบบการบริหารจัดการองค์กรเทียบเท่าระดับโลก ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศได้ในโอกาสต่อไป พร้อมกันนี้ได้แสดงความยินดีต่อองค์กรที่ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศทั้ง 2 องค์กร
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติแก่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และมอบรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศแก่บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน)
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสมาอยู่ท่ามกลางองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารและจัดการทั่วทั้งองค์กรในระดับโลก และได้ขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ได้จัดงานมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศมาเป็นครั้งที่ 5 เพื่อสดุดียกย่องผู้ประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแข่งขันทางการค้าในโลกปัจจุบัน องค์กรที่มีการปรับตัวและพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมเพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ย่อมมีความได้เปรียบและสามารถยืนหยัดอยู่ในเวทีการค้าโลกได้อย่างเข้มแข็ง หากประเทศของเรามีองค์กรลักษณะเช่นนี้มากเท่าไร ก็ย่อมหมายถึงความสามารถทางการแข่งขันยิ่งได้รับการพัฒนามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการจัดงานมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติครั้งนี้นอกจากจะสามารถส่งเสริมให้องค์กรไทยมีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการทัดเทียมองค์กรชั้นนำระดับสากล และมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้องค์กรต่างๆ ได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการในระดับโลก เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละคนด้วย เป็นความสำเร็จที่ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งในระดับองค์กรและในระดับสังคมโดยส่วนรวมไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น ความมานะพยายามที่ทุกคนได้มีเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นองค์กรสูงสุดในด้านการบริหารจัดการนั้น อาจเปรียบได้กับ "พระมหาชนก" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่คณะผู้จัดงานได้อัญเชิญมาเพื่อรับชมกันในช่วงต้น จึงขอให้ทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และรักษาความเป็นหนึ่งนี้ไว้ให้มั่นคงยั่งยืน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรต่าง ๆ และให้ทุกคนเห็นว่าการมีความเพียรจะทำให้บรรลุผลสำเร็จได้เช่นเดียวกัน
สำหรับองค์กรที่ได้รับรางวัลนั้น ล้วนแต่เป็นองค์กรตัวอย่างในด้านความเพียรพยายามและการมีการบริหารจัดการที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลด้วยกันทั้งสิ้นเช่น โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ระยอง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้มีความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการทำงานมาตลอด 3 ปี ส่วนบริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) นอกจากการดำเนินงานด้านธุรกิจหลักแล้ว ยังได้จัดตั้งโรงเรียนเพื่อผลิตบุคลากรที่มีความสามารถด้านการบริหารจัดการด้านการค้าปลีกให้แก่สังคมไทยและช่วยขยายโอกาสทางสังคมด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีกับทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในปีนี้ด้วยความจริงใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมกันผลักดันให้เศรษฐกิจและสังคมไทยมีความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพและประสิทธิภาพขององค์กร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถแข่งขันได้ในตลาดการค้าโลกอย่างประสบผลสำเร็จต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--