วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานผู้แทนทางการค้าสหรัฐฯ (USTR) จะเลื่อนสถานะของประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) เป็นประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) โดยอ้างว่ามีความกังวลในเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และกรณีที่ไทยออกมาตรการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (CL :Compulsory Licensing) ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหาทางที่จะแก้ไขต่อไป แนวทางที่ดีที่สุดคือ จะต้องทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของไทยกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นข้อกังวลที่ทำให้ประเทศไทยอาจจะเข้าเกณฑ์ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ได้มีความร่วมมือกันตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามที่ได้มีข้อกำหนดไว้ เพื่อให้ข้อกำหนดต่างๆ นั้นได้มีการตรวจสอบอย่างชัดเจน
ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการอยู่ เพราะเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิทางปัญญาอะไรต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ โดยมอบให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาในรายละเอียด และกำหนดขั้นตอนในการดำเนินการ รวมถึงการชี้แจงให้เข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางไปชี้แจงเรื่อง CL ได้มอบหมายในเรื่องใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้พูดคุยกันแล้วว่าเป็นการทำงานในลักษณะที่ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะเรื่องการประกาศสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา ที่ได้ร่วมมือกับมูลนิธิของอดีตประธานาธิบดีคลินตัน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันในลักษณะที่นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒนะ ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม จะไปเป็นผู้ลงนาม ในส่วนของภาครัฐก็ต้องมีการทำความเข้าใจในที่ที่มีการพูดคุย หรือทำการหารือ แต่โดยหลักแล้วคงต้องเป็นการหารือในส่วนของมูลนิธิหรือกึ่งเอกชนที่จะต้องไปพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดหรือไม่ และจะทำให้ประชาคมโลกเข้าใจถึงการที่ไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา เรายืนยันว่าอยู่ในส่วนที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว คิดว่าตรงจุดนี้เราจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ และสังคมโลกได้ และคงดูว่าความสมดุลและความจำเป็นที่เราจำเป็นจะต้องใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาเป็นอย่างไรบ้างรวมทั้งต้องชี้แจงเหตุผลทำความเข้าใจกับประชาคมโลกได้ โดยที่มีส่วนองค์กรที่ได้ดำเนินการคือในส่วนขององค์การอนามัยโลกที่มีหน้าที่อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะลงไปหารายละเอียดได้ในขณะนี้ ซึ่งคิดว่าเรื่องหลักที่ต้องทำคือต้องทำความเข้าใจ และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายได้รับทราบว่าเรามีความจำเป็นอย่างไร ในการที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ คิดว่าเราสามารถทำความเข้าใจได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการอยู่ เพราะเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิทางปัญญาอะไรต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ โดยมอบให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาในรายละเอียด และกำหนดขั้นตอนในการดำเนินการ รวมถึงการชี้แจงให้เข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางไปชี้แจงเรื่อง CL ได้มอบหมายในเรื่องใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ได้พูดคุยกันแล้วว่าเป็นการทำงานในลักษณะที่ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะเรื่องการประกาศสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา ที่ได้ร่วมมือกับมูลนิธิของอดีตประธานาธิบดีคลินตัน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันในลักษณะที่นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒนะ ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม จะไปเป็นผู้ลงนาม ในส่วนของภาครัฐก็ต้องมีการทำความเข้าใจในที่ที่มีการพูดคุย หรือทำการหารือ แต่โดยหลักแล้วคงต้องเป็นการหารือในส่วนของมูลนิธิหรือกึ่งเอกชนที่จะต้องไปพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดหรือไม่ และจะทำให้ประชาคมโลกเข้าใจถึงการที่ไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา เรายืนยันว่าอยู่ในส่วนที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว คิดว่าตรงจุดนี้เราจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ และสังคมโลกได้ และคงดูว่าความสมดุลและความจำเป็นที่เราจำเป็นจะต้องใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาเป็นอย่างไรบ้างรวมทั้งต้องชี้แจงเหตุผลทำความเข้าใจกับประชาคมโลกได้ โดยที่มีส่วนองค์กรที่ได้ดำเนินการคือในส่วนขององค์การอนามัยโลกที่มีหน้าที่อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะลงไปหารายละเอียดได้ในขณะนี้ ซึ่งคิดว่าเรื่องหลักที่ต้องทำคือต้องทำความเข้าใจ และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายได้รับทราบว่าเรามีความจำเป็นอย่างไร ในการที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ คิดว่าเราสามารถทำความเข้าใจได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--