วันนี้ เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงแสดงความเป็นห่วงสถานกรณ์ของบ้านเมืองในช่วงที่จะมีการตัดสินคดียุบพรรค ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานกระแสพระราชดำรัสให้กับคณะผู้พิพากษาศาลปกครอง และคงเป็นเรื่องที่คิดว่าประชาชนชาวไทยคงจะต้องตระหนักถึงความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีต่อปัญหาบ้านเมืองของเรา ทำอย่างไรที่เราคนไทยจะช่วยกันคลี่คลายปัญหานั้น เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องราวที่เป็นเรื่องหนักพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งที่ตนเองได้พิจารณาคงเป็นเรื่องที่ได้พูดในที่ต่างๆ หลายครั้งแล้วว่าประชาชนคงจะต้องใช้วิจารณญาณของตนเอง เพื่อจะช่วยกันดูแลปัญหาของบ้านเมือง ความแตกต่างย่อมเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหากเราพยายามที่จะหาแนวทางที่จะแก้ไขโดยที่ไม่ใช้ความรุนแรง ใช้เหตุผล ใช้การพูดจากันเพื่อแก้ไขปัญหา คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปมีบทบาทอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะหรือความขัดแย้งระหว่างกันเพื่อไม่ให้บ้านเมืองพัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลได้พยายามที่จะใช้กลไกราชการทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราควรที่จะฟังการตัดสินหรือการวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ และถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนน่าจะยึดไว้ในกระบวนการยุติธรรม เมื่อได้มีการพิจารณามีการวินิจฉัยแล้วเราก็ควรที่จะยอมรับเพราะไม่เช่นนั้นเราจะมีปัญหา เพราะไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องตัดสินว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะใช้เวลาก่อนการตัดสินยุบพรรคอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้ดำเนินการมานานแล้ว อย่างที่ตนเองและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ได้เคยพูดกันว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้จะเป็นห้วงเวลาที่ถือว่าเป็นวิกฤติช่วงหนึ่งของบ้านเมืองของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการรับมืออย่างไร โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ถูกชักชวนมาร่วมชุมนุมในวันตัดสินคดียุบพรรค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าประชาชนได้ฟังกระแสพระราชดำรัสเมื่อวานนี้ คิดว่าพวกเราทุกคนควรจะคิดและใช้เหตุใช้ผลในการพิจารณามากกว่า การพูดของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะทุกคนก็มีผลประโยชน์ มีส่วนที่เสียมีส่วนที่ได้ ก็ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณของตัวเองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ประชาชนควรปฏิบัติควรทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับจากประเทศจีนก่อนกำหนดในวันที่ 31 พฤษภาคมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการแล้ว เมื่อเช้านี้ได้หารือกับนายนิตย์ พิบูลสงครามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่าเมื่อจบภารกิจสำคัญคือการเจรจากับผู้นำของประเทศจีนทั้งระดับประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประธานสภา และผู้ว่าการมณฑลยูนนาน ในการหารือเรื่องการเชื่อมโยงเครือข่ายถนน และทางรถไฟจากมณฑลยูนนานมาสู่ภาคเหนือของไทย ก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจงานในส่วนที่สำคัญ ซึ่งจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 29 พฤษภาคมช่วงเย็น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปมีบทบาทอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะหรือความขัดแย้งระหว่างกันเพื่อไม่ให้บ้านเมืองพัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลได้พยายามที่จะใช้กลไกราชการทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราควรที่จะฟังการตัดสินหรือการวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญ และถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนน่าจะยึดไว้ในกระบวนการยุติธรรม เมื่อได้มีการพิจารณามีการวินิจฉัยแล้วเราก็ควรที่จะยอมรับเพราะไม่เช่นนั้นเราจะมีปัญหา เพราะไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องตัดสินว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะใช้เวลาก่อนการตัดสินยุบพรรคอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้ดำเนินการมานานแล้ว อย่างที่ตนเองและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ได้เคยพูดกันว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้จะเป็นห้วงเวลาที่ถือว่าเป็นวิกฤติช่วงหนึ่งของบ้านเมืองของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีมาตรการรับมืออย่างไร โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ถูกชักชวนมาร่วมชุมนุมในวันตัดสินคดียุบพรรค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าประชาชนได้ฟังกระแสพระราชดำรัสเมื่อวานนี้ คิดว่าพวกเราทุกคนควรจะคิดและใช้เหตุใช้ผลในการพิจารณามากกว่า การพูดของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะทุกคนก็มีผลประโยชน์ มีส่วนที่เสียมีส่วนที่ได้ ก็ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณของตัวเองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ประชาชนควรปฏิบัติควรทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับจากประเทศจีนก่อนกำหนดในวันที่ 31 พฤษภาคมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการแล้ว เมื่อเช้านี้ได้หารือกับนายนิตย์ พิบูลสงครามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่าเมื่อจบภารกิจสำคัญคือการเจรจากับผู้นำของประเทศจีนทั้งระดับประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประธานสภา และผู้ว่าการมณฑลยูนนาน ในการหารือเรื่องการเชื่อมโยงเครือข่ายถนน และทางรถไฟจากมณฑลยูนนานมาสู่ภาคเหนือของไทย ก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจงานในส่วนที่สำคัญ ซึ่งจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 29 พฤษภาคมช่วงเย็น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--