วันนี้ เวลา 12.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวเกี่ยวกับการปฏิวัติซ้อน ว่าไม่มีความกังวลใดๆ เพราะมีความตั้งใจคือทำงานอย่างเต็มที่ที่จะให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้รับมอบไว้คือ จัดให้มีการเลือกตั้งที่เป็นที่ยอมรับได้ แล้วเราจะได้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบการปกครองตามวิถีทางประชาธิปไตยในระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ คือ ประมาณวันอาทิตย์ที่ 16 หรือ 23 ธันวาคม 2550
จากความคิดเห็นของรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกรณีนายกรัฐมนตรีพร้อมจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหากเกิดการนองเลือด จะเป็นการปูทางให้มีการปฏิวัติหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงไม่ได้เป็นการปูทาง เพราะได้พูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและปัญหาทางการเมือง จะไม่ใช้วิธีการอื่น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลควรจะดำเนินการคือ เมื่อไม่สามารถที่จะรับผิดชอบในการบริหาร ไม่สามารถที่จะรักษาความสงบได้ ควรจะลาออกไป
สำหรับการเตรียมรับสถานการณ์ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะว่า ถ้าเราไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาล บ้านเมืองก็คงไม่มีระบบ ระเบียบอะไรอีกแล้ว
ส่วนการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่ได้กังวลหรือมอบหมายให้รัฐมนตรีดูแลด้านใดเป็นพิเศษ โดยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านการบริหาร ประธาน คมช. ดูแลเรื่องความมั่นคงอยู่แล้ว
กรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะซื้อทีมฟุตบอลต่างประเทศ ต้องตรวจที่มาของเงินหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ในส่วนของรัฐบาลคงไม่ต้องไปดำเนินการในรายละเอียดใดๆ เพราะไม่มีหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องทางการเงินมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่คอยติดตามว่ามีปัญหาหรือข้อขัดข้องหรือไม่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าผู้คนในบ้านเมืองตระหนักดีว่าจะต้องร่วมมือกันที่จะเดินไปข้างหน้าไปสู่วิถีทางการเมืองที่เต็มรูปแบบ จากการไปราชการที่ต่างจังหวัด โดยชาวบ้านมุ่งหวังที่จะไปยังจุดนั้น
สำหรับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในการแก้ไขปัญหา ตามที่รัฐบาลได้มอบนโยบายไปแล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
จากความคิดเห็นของรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกรณีนายกรัฐมนตรีพร้อมจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหากเกิดการนองเลือด จะเป็นการปูทางให้มีการปฏิวัติหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงไม่ได้เป็นการปูทาง เพราะได้พูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและปัญหาทางการเมือง จะไม่ใช้วิธีการอื่น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลควรจะดำเนินการคือ เมื่อไม่สามารถที่จะรับผิดชอบในการบริหาร ไม่สามารถที่จะรักษาความสงบได้ ควรจะลาออกไป
สำหรับการเตรียมรับสถานการณ์ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะว่า ถ้าเราไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาล บ้านเมืองก็คงไม่มีระบบ ระเบียบอะไรอีกแล้ว
ส่วนการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่ได้กังวลหรือมอบหมายให้รัฐมนตรีดูแลด้านใดเป็นพิเศษ โดยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านการบริหาร ประธาน คมช. ดูแลเรื่องความมั่นคงอยู่แล้ว
กรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะซื้อทีมฟุตบอลต่างประเทศ ต้องตรวจที่มาของเงินหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ในส่วนของรัฐบาลคงไม่ต้องไปดำเนินการในรายละเอียดใดๆ เพราะไม่มีหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องทางการเงินมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่คอยติดตามว่ามีปัญหาหรือข้อขัดข้องหรือไม่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าผู้คนในบ้านเมืองตระหนักดีว่าจะต้องร่วมมือกันที่จะเดินไปข้างหน้าไปสู่วิถีทางการเมืองที่เต็มรูปแบบ จากการไปราชการที่ต่างจังหวัด โดยชาวบ้านมุ่งหวังที่จะไปยังจุดนั้น
สำหรับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในการแก้ไขปัญหา ตามที่รัฐบาลได้มอบนโยบายไปแล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--