วันนี้ เวลา 10.00 น.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมนักอ่าน” ถึงกรณีที่บริษัทเบเกอร์ บอทส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างทำประชาสัมพันธ์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นานาชาติทบทวนเรื่องการลงทุนในประเทศไทย หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติให้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินครอบครัวชินวัตร ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว 6 เดือน ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามารับหน้าที่ คิดว่าส่วนใหญ่เข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่จำเป็นจะต้องแก้ไขวิกฤติของชาติ และการทำงานตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการไปตามแนวทางของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวในการที่จะนำพาบ้านเมืองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาคมโลกได้ทราบว่ารัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขเหตุวิกฤติและมุ่งไปสู่อนาคตที่ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่านานาประเทศยังเข้าใจประเทศไทย แม้จะมีการล็อบบี้ให้บอยคอตการลงทุน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถที่จะทำความเข้าใจได้ เพราะได้ทำความเข้าใจล่วงหน้าไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือยังระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ อยู่ในต่างประเทศกับอยู่ในประเทศไทย อย่างไหนจะส่งผลกระทบมากกว่ากัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการประเมิน ขณะนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไป หาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะเข้ามาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินตามที่ คตส. ได้อายัดทรัพย์ไว้ก็ถือเป็นสิทธิและความจำเป็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ต้องเข้ามาป้องกันทรัพย์สินของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนไหวแตกหักในวันนี้ (13 มิ.ย.)นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยวิถีทางของการเจรจา ถ้าหากเราช่วยกันที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นไปโดยสันติวิธีและตามกระบวนการยุติธรรมจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมขู่จะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นั้น เป็นการใช้วิธีการที่คิดว่าควรจะหมดไปแล้วจากสังคมไทย เราควรจะยึดถือกระบวนการยุติธรรมเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามากกว่า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่านานาประเทศยังเข้าใจประเทศไทย แม้จะมีการล็อบบี้ให้บอยคอตการลงทุน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถที่จะทำความเข้าใจได้ เพราะได้ทำความเข้าใจล่วงหน้าไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือยังระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ อยู่ในต่างประเทศกับอยู่ในประเทศไทย อย่างไหนจะส่งผลกระทบมากกว่ากัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการประเมิน ขณะนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไป หาก พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะเข้ามาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินตามที่ คตส. ได้อายัดทรัพย์ไว้ก็ถือเป็นสิทธิและความจำเป็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ต้องเข้ามาป้องกันทรัพย์สินของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนไหวแตกหักในวันนี้ (13 มิ.ย.)นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยวิถีทางของการเจรจา ถ้าหากเราช่วยกันที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นไปโดยสันติวิธีและตามกระบวนการยุติธรรมจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมขู่จะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นั้น เป็นการใช้วิธีการที่คิดว่าควรจะหมดไปแล้วจากสังคมไทย เราควรจะยึดถือกระบวนการยุติธรรมเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามากกว่า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--