แท็ก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี
กรมราชทัณฑ์
วันสงกรานต์
วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควัน (ศค.)ภาคเหนือ ครั้งที่ 4/2550 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ดังนี้
ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือระยะสั้น“ 7 วันปลอดควัน วันสงกรานต์” ( 11 -17 เมษายน 2550) โดยมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือรวบรวมรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ที่ได้ไปจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือระยะสั้น ทั้งนี้ จะให้มีการจัดประชุมเพื่อหาแนวทางดำเนินการตามแผนดังกล่าวในวันที่ 6 เมษายนนี้ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้วย เพื่อจะได้นำแผนปฏิบัติการฯ เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมนี้ที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือประจำวันที่ 1 เมษายน 2550 ของสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย กระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ เกี่ยวกับปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สรุปดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ที่สถานีศูนย์ราชการรวมฯ อ.แม่ริม วัดได้ 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดได้ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดลำปาง ที่สถานีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง อำเภอเมือง วัดได้ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีสำนักงานการประปาฯ อำเภอแม่เมาะ วัดได้ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดเชียงราย ที่สถานีโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อำเภอเมือง วัดได้ 175 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ ทสจ.แม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง วัดได้ 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปางเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนจังหวัดเชียงรายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังสูงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันในภาคเหนือของกระทรวงมหาดไทย อาทิ ให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควันจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาหญ้า วัสดุ ขยะในทุกพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2550 หากการขอความร่วมมือดังกล่าวไม่เป็นผลให้ใช้มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ให้จังหวัดระดมสรรพกำลังในพื้นที่ทั้งในด้านเจ้าหน้าที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน เพื่อปฏิบัติการทั่วในพื้นที่ราบ/ชุมชนและพื้นที่ป่าไม้บนภูเขาสูง โดยเฉพาะการลดจุดไฟไหม้ (Hot Spot) ในภาคเหนือ จากเดิม 800 กว่าจุด/วัน ให้เหลือเพียงไม่เกิน 250 จุด/วัน ให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับภาคีภาคเครือข่ายภาคประชาชนทำการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและประชาชนละเว้นการจุดไฟเผาป่า ตอซังข้าว การเผา เศษวัสดุขยะมูลฝอย กิ่งใบไม้ในบ้านเรือน พิจารณาดำเนินการตามมาตรการทั่วไปที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) ได้สั่งการไปแล้ว และการฉีด (Spray) น้ำในพื้นที่โล่ง การราดน้ำ บนถนนในเขตชุมชน เพื่อลดความร้อนและให้น้ำระเหย สร้างความชื้นในอากาศลดจำนวนฝุ่นละอองทั้งในช่วงเช้า กลางวัน และช่วงบ่าย และให้ทุกจังหวัดในภาคเหนือรายงานสถานการณ์มลพิษหมอกควันจุดไฟไหม้ (Hot Spot) และผลการดำเนินงานประจำวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับเหตุการณ์การเกิดไฟป่า(1 เม.ย. 50)ใกล้พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายนั้น ทางจังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่น ทหาร และอาสาสมัคร จำนวน 400 นาย รถดับเพลิง/รถน้ำ 15 คัน และเฮลิคอปเตอร์กองกำลังผาเมือง จำนวน 3 ลำ เข้าทำการดับ ซึ่งขณะนี้สามารถดับไฟได้แล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือระยะสั้น“ 7 วันปลอดควัน วันสงกรานต์” ( 11 -17 เมษายน 2550) โดยมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือรวบรวมรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ที่ได้ไปจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือระยะสั้น ทั้งนี้ จะให้มีการจัดประชุมเพื่อหาแนวทางดำเนินการตามแผนดังกล่าวในวันที่ 6 เมษายนนี้ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้วย เพื่อจะได้นำแผนปฏิบัติการฯ เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมนี้ที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือประจำวันที่ 1 เมษายน 2550 ของสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย กระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ เกี่ยวกับปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สรุปดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ที่สถานีศูนย์ราชการรวมฯ อ.แม่ริม วัดได้ 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดได้ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดลำปาง ที่สถานีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง อำเภอเมือง วัดได้ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีสำนักงานการประปาฯ อำเภอแม่เมาะ วัดได้ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดเชียงราย ที่สถานีโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อำเภอเมือง วัดได้ 175 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ ทสจ.แม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง วัดได้ 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปางเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนจังหวัดเชียงรายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังสูงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันในภาคเหนือของกระทรวงมหาดไทย อาทิ ให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควันจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาหญ้า วัสดุ ขยะในทุกพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2550 หากการขอความร่วมมือดังกล่าวไม่เป็นผลให้ใช้มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ให้จังหวัดระดมสรรพกำลังในพื้นที่ทั้งในด้านเจ้าหน้าที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน เพื่อปฏิบัติการทั่วในพื้นที่ราบ/ชุมชนและพื้นที่ป่าไม้บนภูเขาสูง โดยเฉพาะการลดจุดไฟไหม้ (Hot Spot) ในภาคเหนือ จากเดิม 800 กว่าจุด/วัน ให้เหลือเพียงไม่เกิน 250 จุด/วัน ให้อำเภอ/กิ่งอำเภอ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับภาคีภาคเครือข่ายภาคประชาชนทำการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและประชาชนละเว้นการจุดไฟเผาป่า ตอซังข้าว การเผา เศษวัสดุขยะมูลฝอย กิ่งใบไม้ในบ้านเรือน พิจารณาดำเนินการตามมาตรการทั่วไปที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) ได้สั่งการไปแล้ว และการฉีด (Spray) น้ำในพื้นที่โล่ง การราดน้ำ บนถนนในเขตชุมชน เพื่อลดความร้อนและให้น้ำระเหย สร้างความชื้นในอากาศลดจำนวนฝุ่นละอองทั้งในช่วงเช้า กลางวัน และช่วงบ่าย และให้ทุกจังหวัดในภาคเหนือรายงานสถานการณ์มลพิษหมอกควันจุดไฟไหม้ (Hot Spot) และผลการดำเนินงานประจำวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับเหตุการณ์การเกิดไฟป่า(1 เม.ย. 50)ใกล้พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายนั้น ทางจังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่น ทหาร และอาสาสมัคร จำนวน 400 นาย รถดับเพลิง/รถน้ำ 15 คัน และเฮลิคอปเตอร์กองกำลังผาเมือง จำนวน 3 ลำ เข้าทำการดับ ซึ่งขณะนี้สามารถดับไฟได้แล้ว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--