วันนี้ เวลา 21.30 น พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี สนทนากับคุณสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ในรายการ “คุยนอกทำเนียบ” ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พิธีกร เรื่องภาคใต้ ผมให้ท่านผู้ชมเขียน SMS มาว่าอยากถามอะไรท่านนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ส่วนใหญ่ 80-90 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าเรื่องภาคใต้ เราคุยกันเรื่องยุบพรรคที่กรุงเทพฯ ที่โน่นเกิดเหตุวันเดียวมีคนเสียชีวิตไป 21-22 คน ท่านจะทำอย่างไรดี
นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการแก้ไขปัญหา เราจะต้องใช้ความอดทนค่อนข้างมาก เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และมีความลึกซึ้ง มีปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก อย่างที่ว่าแล้วคือเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย รัฐบาลได้พยายามที่จะขจัดปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ออกไป เป็นขั้นเป็นตอน เริ่มต้นคือพูดง่าย ๆ ความไม่เป็นธรรม ที่เกิดความรู้สึกในหมู่ประชาชนคือความเป็นพลเมืองชั้น 2 เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขตรงนี้ แน่นอนว่าการที่จะสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาได้นั้น ต้องเริ่มจากความเข้าใจก่อน แล้วถึงจะไปถึงความเชื่อมั่นที่จะไว้วางใจกัน ทำงานด้วยกันได้ต่อไป อีกฝ่ายหนึ่งเขาก็พยายามขัดขวางเราอยู่ในขณะนี้
พิธีกร อย่างที่เป็นม็อบออกมาตามจุดต่าง ๆ ล่าสุดไปเขียนต่อว่าต่อขานตามท้องถนน ตามมัสยิดเป็นว่าเล่น
นายกรัฐมนตรี เป็นการที่เขาแสดงออกอย่างเต็มที่ เพราะปัญหาในขณะนี้ถ้าจะมองแล้วเขามองว่าเป็นโอกาสเหมาะของเขาที่จะออกมาแสดงเหมือนกัน เพราะการเมืองของเราก็ยังสับสนอยู่ ยังไม่รู้จะไปทางไหน
พิธีกร การเมืองก็ส่งผลต่อภาคใต้
นายกรัฐมนตรี ใช่ เขาก็ฉวยโอกาสว่าเป็นจังหวะที่เหมาะที่ควรจะเคลื่อนไหว เพื่อให้มุ่งไปสู่จุดที่เขาต้องการเหมือนกัน เหมือนอย่างที่คุณสรยุทธ์ฯ พูดว่ามุ่งไปสู่วิธีการที่รัฐใช้อำนาจการปราบปรามที่รุนแรง ซึ่งจะเข้าทางเขา เหมือนกับท่านว่ามีมือที่ 3 ที่ 4 พยายามที่จะทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น ก็เป็นแนวความคิดในเชิงที่จะทำให้เกิดปัญหาขยายตัวไปสู่ความรุนแรงเช่นเดียวกัน
พิธีกร ท่านกำลังมองว่าม็อบต่าง ๆ ผมไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่หมายถึงว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้รัฐใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง
นายกรัฐมนตรี แน่นอน เราใช้ตามวิถีทางของกฎหมาย มีหลักฐานเราก็จับกุมตัวสอบสวน
พิธีกร ไม่มีหลักฐานก็ปล่อย แต่บางทีเจรจาอะไรเขาเรียกร้องให้ปล่อย เราก็ต้องยอมปล่อย เหมือนอย่างบางคนบอกว่าอำนาจรัฐไม่มีใน 3 จังหวัดหรือเปล่า
นายกรัฐมนตรี เราไม่ได้ยอมปล่อยเลย กรณีที่ผ่านมาอย่าง 24 คนที่เขามาเรียกร้องให้เราปล่อย เราก็ปล่อยไป 14 คน เพราะว่า 14 คนนั้นไม่ได้ทำผิด ไม่ได้เกี่ยวข้อง 10 คน สารภาพ 4 คน อีก 6 คนไม่สารภาพ เราก็เอาไว้ เราก็ทำความเข้าใจชี้แจงกับประชาชนได้ว่า เราอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม
พิธีกร แล้วปรากฏการณ์นี้เราจะทำอย่างไร ตั้งม็อบมาตามจุดต่าง ๆ ปิดถนน อยู่ดี ๆ ก็ยกเต๊นท์มาวางกลางถนน ท่านนายกรัฐมนตรีบอกเขารอให้เราเข้าไปตี
นายกรัฐมนตรี เราก็ต้องใช้วิธีการเจรจาทำความเข้าใจ เพราะผู้คนก็ไม่ได้มากมายอะไร
พิธีกร ต้องพูดแล้วก็แยะ
นายกรัฐมนตรี ใช่ สลายการชุมนุมโดยการพูดจาทำความเข้าใจกัน มีผู้นำทางศาสนาซึ่งให้ความร่วมมือกับเรามากขึ้น มากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งขณะนี้เห็นได้ชัดเจน อย่างกรณีของมัสยิดกลางปัตตานี ผู้นำทางศาสนาได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่นั่น
พิธีกร เราอดทนเกินไปไหม ท่านนายกรัฐมนตรีคงเข้าใจธรรมชาติของประชาชน หลายคนบอกรัฐบาลอดทนเกินไปหรือเปล่า
นายกรัฐมนตรี อย่างที่ได้พูดแล้วว่า ถ้าหากว่าเราใช้ความรุนแรงไป จะเกิดปัญหาอะไรไหม เราทำอย่างไรที่จะช่วยกันดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนไว้ให้ดีที่สุด ข้าราชการที่เสียชีวิต ผมเสียใจที่เขาเสียชีวิต แต่ในฐานะที่เป็นทหารมาก่อน หลาย ๆ คนที่เคยทำงานกับผม จะรู้ว่าเราพูดกันว่า ถ้าเผื่อไปตายในการทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติ ก็ดีกว่าที่จะไปตาย ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเกิดอุบัติเหตุตาย เราก็คิดกันอย่างนั้น เผื่อให้เกิดความรู้สึกว่า หนึ่ง เราได้ทำตามหน้าที่ของเรา ซึ่งความคิดของคนที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ อาจจะไม่เหมือนคนที่ทำหน้าที่ตรงอื่น คือเขาอยากจะทำอะไรให้กับประเทศชาติ เขาอยากจะเสียสละ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าชีวิตเขาจะจบสิ้นเมื่อไร แต่ทุกคนรู้ว่าอันตรายมี แต่พร้อมจะทำ
พิธีกร ผมคุยกับพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ท่านบอกว่าเหมือนกับทุกวันนี้เราเป็นฝ่ายรับ คือทหารเราไปที่ไหน เขาก็รอดักกดระเบิด แล้วเข้ามายิงซ้ำ บางทีทหารตั้งด่าน ตำรวจตั้งจุดที่ป้อมก็เข้ามายิงทิ้ง พลเอก พัลลภฯ บอกว่าวิธีการคือชาวบ้านไม่กล้าบอกว่าทุกวันนี้เขาบอกเขาจะโดนคนร้ายทำร้าย ก็ต้องไปยืนดักตามเขาตามป่า ดักผู้ก่อการที่จะลงมาจากเขาบ้าง และสุ่มยิง แบบที่เขาทำกับเรา ท่านเห็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องในเชิงยุทธวิธี ผมก็ทำงานในระดับนี้มาแล้ว คงไม่สามารถไปแนะนำนายทหารรุ่นน้อง ๆ ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้จะต้องลงไปดูรายละเอียด จะต้องรู้ว่ามีข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้าง ก็พูดกันในหลักการก็ทำได้ เป็นเรื่องทางยุทธวิธี
พิธีกร อันนี้คือยุทธวิธีปกติ คือเขาบอกว่าลงมาจากเขาก็ถือปืนลงมา ทหาร ตำรวจ ก็สุ่มยิงบ้าง
นายกรัฐมนตรี ผมคงไม่ต้องไปสอนนายทหารรุ่นน้อง ๆ เพราะว่าเขาได้รับการฝึกมาเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน แต่ว่าการปฏิบัติจะเข้มข้นอย่างไร ผมไม่ได้ลงไปดูเพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลคือทำหน้าที่ในการดูแลในเรื่องของนโยบาย ในเรื่องการที่จะให้การสนับสนุนว่างบประมาณพอไหม มีอะไรที่ยังขาด เราก็จะได้เติมให้ คนต้องการอีกไหม คือสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำ แต่ผมคงไม่ไปก้าวล่วงหน้าที่ของรุ่นน้อง ๆ ที่เขาทำอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นแม่ทัพก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผบ.ฉก. หน่วยเฉพาะกิจต่าง ๆ ซึ่งผมรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
พิธีกร ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังบอกกับว่ารัฐบาลดูแลยุทธศาสตร์ แต่ที่ผมกำลังถามคือยุทธวิธี และที่ท่านบอกไม่ได้แปลว่าข้างล่างเขาไม่ทำ เขาก็มียุทธวิธีของเขา ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้วิธีนี้ ก็เป็นเรื่องที่ต่างคนต่างมีหน้าที่กันไป
นายกรัฐมนตรี คือต้องแบ่ง ในทางทหารแบ่งชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีกองพล กรม กองพัน กองร้อย หมวด หมู่
พิธีกร ผมถามให้สบายใจ คือทหารไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียวใช่ไหม
นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ครับ
พิธีกร ยุทธวิธีเขาก็รุกของเขาอยู่ เพียงแต่ไม่ได้เอามาป่าวประกาศให้รู้เท่านั้นเอง
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ เขาก็ทำของเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มีการเข้าไปโจมตีบนเขาอะไรต่าง ๆ เขาก็ทำอยู่ แต่อย่างที่ว่ามันต้องค่อย ๆ ขยับไป เพราะพื้นที่ที่เขามีอิทธิพล อย่างที่ผมพูดกับคุณสรยุทธ์ฯ มันจะอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ไม่ค่อยได้แตกแยกออกไปที่อื่นเท่าไร
พิธีกร ยะลา จะมีเส้นตั้งแต่บันนังสตา ยะหา กรงปินัง ทางนราธิวาวส ก็ระแงะ ท่านกำลังย้ำกับผมว่าไม่ใช่ทั้ง 3 จังหวัด
นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ทั้งหมด เราสามารถดูแลพื้นที่ในบางส่วนได้ที่ถือว่ามีความสำคัญเป็นศูนย์ในด้านการบริหารงานในด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ การทำงานของอีกฝ่ายหนึ่ง เขามองเหมือนกันว่าเรากำลังจะทำอะไร และเขาพยายามที่จะแสวงจุดอ่อนที่จะทำงานให้เกิดผลต่อเขา เหมือนอย่างกรณีที่มีการชุมนุมที่ปัตตานี ขณะนี้ข่าวก็ออกมาแล้ว มีคนจากกรุงเทพฯ ไปร่วม นั่นเป็นปัญหาที่เราจะต้องทำความเข้าใจว่าทำอย่างไรที่เราจะมาร่วมมือกันมากกว่าที่จะไปทำให้เกิดปัญหาขึ้น
พิธีกร อันนี้คือการพูดจาทำความเข้าใจ
นายกรัฐมนตรี เครือข่ายค่อนข้างจะกว้างขวาง แล้วใช้ในด้านของที่เรียกว่าจิตวิทยามวลชนค่อนข้างสูง ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องหาทางแก้ในเรื่องนี้ เพราะว่าเขาได้ทำมานานแล้ว เราจะเข้ามาแก้ในเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องทำสำเร็จในระยะเวลาสั้น ๆ สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำในด้านยุทธศาสตร์ คือในเรื่องของการที่เจรจากับมิตรประเทศ กับประเทศมุสลิมที่ให้เขาเข้าใจว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ประเด็นแรกที่ผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญคือ เราแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เราจะไม่ใช้วิธีการที่รุนแรง เราใช้วิธีการตามกฎหมาย แล้วบุคคลเหล่านี้ก็เป็นคนไทย ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาติอื่น เป็นคนไทยซึ่งจะต้องอยู่ร่วมกันกับเรา เราได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่านโยบายของเราเป็นอย่างนี้ เราก็ขอให้เขาเข้ามาให้ความช่วยเหลือเราด้วยในทุก ๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของด้านการสนับสนุนทางด้านให้การศึกษา ในด้านให้ความร่วมมือต่าง ๆ ทุกประเทศก็ยินดี บางส่วนที่มาจากตะวันออกหรือปัจจุบันเราเรียกว่าเอเชียตะวันตก เขาบอกว่าที่น่าแปลกใจคือ ความคิดของคนมุสลิมในประเทศไทยย้อนหลังไป เพราะคนที่เขามาจากบริเวณนั้น เขาได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดกันหมดแล้ว เขายังแปลกใจว่าทำไมมาที่นี่
พิธีกร ยังมีความคิดอย่างนั้น
นายกรัฐมนตรี ซึ่งย้อนกลับไปนานพอสมควร และเขาพูดกับผมตรง ๆ ผมก็บอกว่าท่านคงเข้าใจว่าผู้ที่ไปเรียนหนังสือมาจากบ้านเมืองของท่าน เขากลับมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเราอยากได้คนใหม่ ๆ ที่ไปเรียน และนำความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ กลับมาพูดกันบ้าง
พิธีกร แต่ทั้งหมดนี้กลับมาจุดเดิม คือต้องแก้ปัญหาแบบอดทน
นายกรัฐมนตรี อดทนแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของความคิด และการที่จะแก้ความคิดได้ต้องใช้เวลา แค่สร้างความเข้าใจก็ใช้เวลา
พิธีกร ไม่มีทางอื่น ต้องยอมรับและอดทนที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
พิธีกร เรื่องภาคใต้ ผมให้ท่านผู้ชมเขียน SMS มาว่าอยากถามอะไรท่านนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ส่วนใหญ่ 80-90 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าเรื่องภาคใต้ เราคุยกันเรื่องยุบพรรคที่กรุงเทพฯ ที่โน่นเกิดเหตุวันเดียวมีคนเสียชีวิตไป 21-22 คน ท่านจะทำอย่างไรดี
นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการแก้ไขปัญหา เราจะต้องใช้ความอดทนค่อนข้างมาก เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และมีความลึกซึ้ง มีปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก อย่างที่ว่าแล้วคือเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย รัฐบาลได้พยายามที่จะขจัดปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ออกไป เป็นขั้นเป็นตอน เริ่มต้นคือพูดง่าย ๆ ความไม่เป็นธรรม ที่เกิดความรู้สึกในหมู่ประชาชนคือความเป็นพลเมืองชั้น 2 เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขตรงนี้ แน่นอนว่าการที่จะสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาได้นั้น ต้องเริ่มจากความเข้าใจก่อน แล้วถึงจะไปถึงความเชื่อมั่นที่จะไว้วางใจกัน ทำงานด้วยกันได้ต่อไป อีกฝ่ายหนึ่งเขาก็พยายามขัดขวางเราอยู่ในขณะนี้
พิธีกร อย่างที่เป็นม็อบออกมาตามจุดต่าง ๆ ล่าสุดไปเขียนต่อว่าต่อขานตามท้องถนน ตามมัสยิดเป็นว่าเล่น
นายกรัฐมนตรี เป็นการที่เขาแสดงออกอย่างเต็มที่ เพราะปัญหาในขณะนี้ถ้าจะมองแล้วเขามองว่าเป็นโอกาสเหมาะของเขาที่จะออกมาแสดงเหมือนกัน เพราะการเมืองของเราก็ยังสับสนอยู่ ยังไม่รู้จะไปทางไหน
พิธีกร การเมืองก็ส่งผลต่อภาคใต้
นายกรัฐมนตรี ใช่ เขาก็ฉวยโอกาสว่าเป็นจังหวะที่เหมาะที่ควรจะเคลื่อนไหว เพื่อให้มุ่งไปสู่จุดที่เขาต้องการเหมือนกัน เหมือนอย่างที่คุณสรยุทธ์ฯ พูดว่ามุ่งไปสู่วิธีการที่รัฐใช้อำนาจการปราบปรามที่รุนแรง ซึ่งจะเข้าทางเขา เหมือนกับท่านว่ามีมือที่ 3 ที่ 4 พยายามที่จะทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น ก็เป็นแนวความคิดในเชิงที่จะทำให้เกิดปัญหาขยายตัวไปสู่ความรุนแรงเช่นเดียวกัน
พิธีกร ท่านกำลังมองว่าม็อบต่าง ๆ ผมไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่หมายถึงว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้รัฐใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง
นายกรัฐมนตรี แน่นอน เราใช้ตามวิถีทางของกฎหมาย มีหลักฐานเราก็จับกุมตัวสอบสวน
พิธีกร ไม่มีหลักฐานก็ปล่อย แต่บางทีเจรจาอะไรเขาเรียกร้องให้ปล่อย เราก็ต้องยอมปล่อย เหมือนอย่างบางคนบอกว่าอำนาจรัฐไม่มีใน 3 จังหวัดหรือเปล่า
นายกรัฐมนตรี เราไม่ได้ยอมปล่อยเลย กรณีที่ผ่านมาอย่าง 24 คนที่เขามาเรียกร้องให้เราปล่อย เราก็ปล่อยไป 14 คน เพราะว่า 14 คนนั้นไม่ได้ทำผิด ไม่ได้เกี่ยวข้อง 10 คน สารภาพ 4 คน อีก 6 คนไม่สารภาพ เราก็เอาไว้ เราก็ทำความเข้าใจชี้แจงกับประชาชนได้ว่า เราอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม
พิธีกร แล้วปรากฏการณ์นี้เราจะทำอย่างไร ตั้งม็อบมาตามจุดต่าง ๆ ปิดถนน อยู่ดี ๆ ก็ยกเต๊นท์มาวางกลางถนน ท่านนายกรัฐมนตรีบอกเขารอให้เราเข้าไปตี
นายกรัฐมนตรี เราก็ต้องใช้วิธีการเจรจาทำความเข้าใจ เพราะผู้คนก็ไม่ได้มากมายอะไร
พิธีกร ต้องพูดแล้วก็แยะ
นายกรัฐมนตรี ใช่ สลายการชุมนุมโดยการพูดจาทำความเข้าใจกัน มีผู้นำทางศาสนาซึ่งให้ความร่วมมือกับเรามากขึ้น มากกว่าเมื่อก่อน ซึ่งขณะนี้เห็นได้ชัดเจน อย่างกรณีของมัสยิดกลางปัตตานี ผู้นำทางศาสนาได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่นั่น
พิธีกร เราอดทนเกินไปไหม ท่านนายกรัฐมนตรีคงเข้าใจธรรมชาติของประชาชน หลายคนบอกรัฐบาลอดทนเกินไปหรือเปล่า
นายกรัฐมนตรี อย่างที่ได้พูดแล้วว่า ถ้าหากว่าเราใช้ความรุนแรงไป จะเกิดปัญหาอะไรไหม เราทำอย่างไรที่จะช่วยกันดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนไว้ให้ดีที่สุด ข้าราชการที่เสียชีวิต ผมเสียใจที่เขาเสียชีวิต แต่ในฐานะที่เป็นทหารมาก่อน หลาย ๆ คนที่เคยทำงานกับผม จะรู้ว่าเราพูดกันว่า ถ้าเผื่อไปตายในการทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติ ก็ดีกว่าที่จะไปตาย ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วเกิดอุบัติเหตุตาย เราก็คิดกันอย่างนั้น เผื่อให้เกิดความรู้สึกว่า หนึ่ง เราได้ทำตามหน้าที่ของเรา ซึ่งความคิดของคนที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ อาจจะไม่เหมือนคนที่ทำหน้าที่ตรงอื่น คือเขาอยากจะทำอะไรให้กับประเทศชาติ เขาอยากจะเสียสละ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าชีวิตเขาจะจบสิ้นเมื่อไร แต่ทุกคนรู้ว่าอันตรายมี แต่พร้อมจะทำ
พิธีกร ผมคุยกับพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ท่านบอกว่าเหมือนกับทุกวันนี้เราเป็นฝ่ายรับ คือทหารเราไปที่ไหน เขาก็รอดักกดระเบิด แล้วเข้ามายิงซ้ำ บางทีทหารตั้งด่าน ตำรวจตั้งจุดที่ป้อมก็เข้ามายิงทิ้ง พลเอก พัลลภฯ บอกว่าวิธีการคือชาวบ้านไม่กล้าบอกว่าทุกวันนี้เขาบอกเขาจะโดนคนร้ายทำร้าย ก็ต้องไปยืนดักตามเขาตามป่า ดักผู้ก่อการที่จะลงมาจากเขาบ้าง และสุ่มยิง แบบที่เขาทำกับเรา ท่านเห็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องในเชิงยุทธวิธี ผมก็ทำงานในระดับนี้มาแล้ว คงไม่สามารถไปแนะนำนายทหารรุ่นน้อง ๆ ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้จะต้องลงไปดูรายละเอียด จะต้องรู้ว่ามีข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้าง ก็พูดกันในหลักการก็ทำได้ เป็นเรื่องทางยุทธวิธี
พิธีกร อันนี้คือยุทธวิธีปกติ คือเขาบอกว่าลงมาจากเขาก็ถือปืนลงมา ทหาร ตำรวจ ก็สุ่มยิงบ้าง
นายกรัฐมนตรี ผมคงไม่ต้องไปสอนนายทหารรุ่นน้อง ๆ เพราะว่าเขาได้รับการฝึกมาเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน แต่ว่าการปฏิบัติจะเข้มข้นอย่างไร ผมไม่ได้ลงไปดูเพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลคือทำหน้าที่ในการดูแลในเรื่องของนโยบาย ในเรื่องการที่จะให้การสนับสนุนว่างบประมาณพอไหม มีอะไรที่ยังขาด เราก็จะได้เติมให้ คนต้องการอีกไหม คือสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำ แต่ผมคงไม่ไปก้าวล่วงหน้าที่ของรุ่นน้อง ๆ ที่เขาทำอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นแม่ทัพก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผบ.ฉก. หน่วยเฉพาะกิจต่าง ๆ ซึ่งผมรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร
พิธีกร ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังบอกกับว่ารัฐบาลดูแลยุทธศาสตร์ แต่ที่ผมกำลังถามคือยุทธวิธี และที่ท่านบอกไม่ได้แปลว่าข้างล่างเขาไม่ทำ เขาก็มียุทธวิธีของเขา ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้วิธีนี้ ก็เป็นเรื่องที่ต่างคนต่างมีหน้าที่กันไป
นายกรัฐมนตรี คือต้องแบ่ง ในทางทหารแบ่งชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีกองพล กรม กองพัน กองร้อย หมวด หมู่
พิธีกร ผมถามให้สบายใจ คือทหารไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียวใช่ไหม
นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ครับ
พิธีกร ยุทธวิธีเขาก็รุกของเขาอยู่ เพียงแต่ไม่ได้เอามาป่าวประกาศให้รู้เท่านั้นเอง
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ เขาก็ทำของเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มีการเข้าไปโจมตีบนเขาอะไรต่าง ๆ เขาก็ทำอยู่ แต่อย่างที่ว่ามันต้องค่อย ๆ ขยับไป เพราะพื้นที่ที่เขามีอิทธิพล อย่างที่ผมพูดกับคุณสรยุทธ์ฯ มันจะอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ไม่ค่อยได้แตกแยกออกไปที่อื่นเท่าไร
พิธีกร ยะลา จะมีเส้นตั้งแต่บันนังสตา ยะหา กรงปินัง ทางนราธิวาวส ก็ระแงะ ท่านกำลังย้ำกับผมว่าไม่ใช่ทั้ง 3 จังหวัด
นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ทั้งหมด เราสามารถดูแลพื้นที่ในบางส่วนได้ที่ถือว่ามีความสำคัญเป็นศูนย์ในด้านการบริหารงานในด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ การทำงานของอีกฝ่ายหนึ่ง เขามองเหมือนกันว่าเรากำลังจะทำอะไร และเขาพยายามที่จะแสวงจุดอ่อนที่จะทำงานให้เกิดผลต่อเขา เหมือนอย่างกรณีที่มีการชุมนุมที่ปัตตานี ขณะนี้ข่าวก็ออกมาแล้ว มีคนจากกรุงเทพฯ ไปร่วม นั่นเป็นปัญหาที่เราจะต้องทำความเข้าใจว่าทำอย่างไรที่เราจะมาร่วมมือกันมากกว่าที่จะไปทำให้เกิดปัญหาขึ้น
พิธีกร อันนี้คือการพูดจาทำความเข้าใจ
นายกรัฐมนตรี เครือข่ายค่อนข้างจะกว้างขวาง แล้วใช้ในด้านของที่เรียกว่าจิตวิทยามวลชนค่อนข้างสูง ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องหาทางแก้ในเรื่องนี้ เพราะว่าเขาได้ทำมานานแล้ว เราจะเข้ามาแก้ในเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องทำสำเร็จในระยะเวลาสั้น ๆ สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำในด้านยุทธศาสตร์ คือในเรื่องของการที่เจรจากับมิตรประเทศ กับประเทศมุสลิมที่ให้เขาเข้าใจว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ประเด็นแรกที่ผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญคือ เราแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เราจะไม่ใช้วิธีการที่รุนแรง เราใช้วิธีการตามกฎหมาย แล้วบุคคลเหล่านี้ก็เป็นคนไทย ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาติอื่น เป็นคนไทยซึ่งจะต้องอยู่ร่วมกันกับเรา เราได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่านโยบายของเราเป็นอย่างนี้ เราก็ขอให้เขาเข้ามาให้ความช่วยเหลือเราด้วยในทุก ๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของด้านการสนับสนุนทางด้านให้การศึกษา ในด้านให้ความร่วมมือต่าง ๆ ทุกประเทศก็ยินดี บางส่วนที่มาจากตะวันออกหรือปัจจุบันเราเรียกว่าเอเชียตะวันตก เขาบอกว่าที่น่าแปลกใจคือ ความคิดของคนมุสลิมในประเทศไทยย้อนหลังไป เพราะคนที่เขามาจากบริเวณนั้น เขาได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดกันหมดแล้ว เขายังแปลกใจว่าทำไมมาที่นี่
พิธีกร ยังมีความคิดอย่างนั้น
นายกรัฐมนตรี ซึ่งย้อนกลับไปนานพอสมควร และเขาพูดกับผมตรง ๆ ผมก็บอกว่าท่านคงเข้าใจว่าผู้ที่ไปเรียนหนังสือมาจากบ้านเมืองของท่าน เขากลับมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเราอยากได้คนใหม่ ๆ ที่ไปเรียน และนำความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ กลับมาพูดกันบ้าง
พิธีกร แต่ทั้งหมดนี้กลับมาจุดเดิม คือต้องแก้ปัญหาแบบอดทน
นายกรัฐมนตรี อดทนแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของความคิด และการที่จะแก้ความคิดได้ต้องใช้เวลา แค่สร้างความเข้าใจก็ใช้เวลา
พิธีกร ไม่มีทางอื่น ต้องยอมรับและอดทนที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--