แท็ก
บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน)
สุรยุทธ์ จุลานนท์
กระทรวงสาธารณสุข
ทำเนียบรัฐบาล
ตึกสันติไมตรี
นายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 17.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต โครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 1,838 คน และคณาจารย์ เข้าเยี่ยมคารวะและรับฟังโอวาทจาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวรายงานความเป็นมาและผลการดำเนินการโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสรุปว่า กระทรวงสาธารณสุขและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550 ให้ดำเนินโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีการศึกษา 2550 เพื่อแก้ปัญหาความขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพในพื้นที่ และเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสนองต่อนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การคัดเลือกและจัดสถานศึกษาให้กับนักศึกษาจำนวน 3,000 คนได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจำแนกเป็นจังหวัดนราธิวาส 1,000 คน จังหวัดปัตตานี 960 คน จังหวัดยะลา 600 คน จังหวัดสงขลา 280 คน และจังหวัดสตูล 160 คน ซึ่งนักศึกษาทั้งหมดจะแยกย้ายไปศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ที่จะเปิดการศึกษาในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบโอวาทแก่นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตฯ สรุปสาระสำคัญว่า ทุกคนที่มาอยู่ ณ ที่นี้หรือไม่ได้อยู่ก็ตาม ถือว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสดีกว่าเพื่อน ๆ อีกมากพอสมควร ฉะนั้นเมื่อทุกคนมีโอกาสแล้วก็ต้องมีความพยายามและตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเองในการศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ที่จะไปประกอบอาชีพได้ อันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวต่อไปในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความตั้งใจของรัฐบาลในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน คือต้องการให้ทุกคนได้มีโอกาสศึกษา มีอาชีพและไปเลี้ยงชีพได้ ซึ่งอยากให้เกิดขึ้นกับเยาวชนคนไทยทุกคน เพื่อทำให้บ้านเมืองมีความสุขและก้าวหน้า ทั้งนี้ มีหลายคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่ยังตกงานอยู่ แต่นักศึกษาพยาบาลมีอาชีพที่แน่นอน มีงานที่พร้อมรองรับอยู่แล้ว ถือว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสดีกว่าคนอื่น โดยในวันนี้ทุกคนได้มีโอกาสมาเยือนศูนย์รวมของการบริหารราชการ เป็นศูนย์รวมของการนำแนวทาง นโยบายต่าง ๆ ไปมอบให้ส่วนราชการต่าง ๆ นำไปปฏิบัติ ซึ่งวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้นำสิ่งที่รัฐบาลกำหนดเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองไปปฏิบัติส่วนหนึ่งแล้ว และจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะต้องทำให้เกิดความต่อเนื่องในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ต่อไป ขณะที่กระทรวงอื่น ๆ ที่มีงานเกี่ยวข้องก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะจะต้องร่วมมือกันเดินไปข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้คือเรื่องความไม่เข้าใจกัน เรื่องความรุนแรง ความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยนักศึกษาพยาบาลจำเป็นจะต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจ เพราะหากบ้านเมืองสงบลง โอกาสที่จะทำให้ทุกคนมีอาชีพมีงานที่มั่นคงมากขึ้นต่อไปข้างหน้าก็จะกระทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าถ้านักศึกษาพยาบาลได้มีโอกาสทำความเข้าใจ ได้รู้จักกัน สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ก็จะช่วยให้ญาติพี่น้อง เพื่อน ๆ ของทุกคนมีความร่วมมือ มีความเข้าใจว่าบ้านเมืองมีทั้งหมด 76 จังหวัด ทุกคนมีความรับผิดชอบที่จะต้องช่วยกันดูแล ไม่ว่าจะมีความเชื่อในด้านใด ความเชื่อที่ว่านั้นไม่ได้เป็นสิ่งจำกัดว่าทุกคนมีความแตกต่างมีความแตกแยก ทุกคนเป็นคนไทย คนไทยมีความแตกต่างทางความเชื่อได้ แต่จะไม่แตกแยก
“ ขอบอกนักศึกษาพยาบาลทุกคนว่าเมื่อไปอยู่ในสถานศึกษา หรือสถานที่ใดก็ตาม ถ้ามีคนมาถาม ก็ขอให้ทำความเข้าใจกับเขาว่าท่านเป็นคนไทย อาจจะมีความเชื่อที่แตกต่าง แต่ไม่ได้เป็นคนที่คิดจะแตกแยก มีคนไทยอีกมากในจังหวัดต่าง ๆ ที่ไม่เข้าใจบอกว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นทางภาคใต้นั้นมาจากคนส่วนใหญ่ ผมบอกได้ว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ไม่ได้เกิดจากคนส่วนใหญ่ แต่เกิดจากคนส่วนน้อยซึ่งมองภาพแล้วใช้วิธีการก่อเหตุด้วยวิธีการรุนแรง ขอให้นักศึกษาพยาบาลทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย คนส่วนใหญ่อยากเห็นความสงบ อยากช่วยกัน รวมทั้งขอฝากให้นักศึกษาพยาบาลทุกคนช่วยกันสร้างความเข้าใจ ยืนอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทยด้วยกันแล้วเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการเรียนอาชีพพยาบาลเป็นเรื่องที่หนัก ผู้เรียนจะต้องเสียสละ ต้องมีความเมตตา และต้องแสดงออก หากไม่มีใจที่จะเป็นพยาบาลก็จะเป็นไปได้ยาก เพราะคนไข้จะรู้สึกได้ว่าผู้ที่มารักษามีความเต็มใจที่จะช่วยหรือไม่ ถ้าหากมีความเต็มใจที่จะช่วย การแสดงออกจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้คนไข้รู้สึกว่ามีคนที่จะมาช่วยดูแล เอื้ออาทร เอาใจใส่กับผู้ป่วยอย่างจริงจัง ส่วนที่เหลือในเรื่องการเรียนด้านสาขาวิชาชีพจะเป็นส่วนประกอบ แต่เบื้องต้นคือความรู้สึกที่มีต่อกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
“ผมเคยป่วยหลายครั้ง สิ่งที่ประทับใจคือความเอื้ออาทรของพยาบาลที่มีต่อผู้ป่วย อยากฝากนักศึกษาพยาบาลทั้งหลายไว้ว่าความเอื้ออาทรเป็นสิ่งเริ่มแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ป่วยได้ ซึ่งอาชีพพยาบาลจะต้องแสดงออกในลักษณะเช่นนี้ตลอดเวลาที่ดูแลผู้ป่วย ส่วนการดูแลในเรื่องอื่น ๆ จะเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ต่อเนื่อง และนักศึกษาพยาบาลอาจจะได้มีโอกาสไปเพิ่มเติมวิชาชีพพยาบาล ที่จะช่วยในด้านการผ่าตัด การทำงานเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ อาชีพพยาบาลถึงแม้จะเป็นอาชีพที่หนัก แต่ทุกคนจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยผู้ที่มีความทุกข์ มีความเจ็บปวด ผู้ที่เกือบจะมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตต่อไปหรือไม่” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า เคยได้คุยปรับทุกข์กับเพื่อนที่เป็นหมอที่ได้ดูแลคนไข้แล้วคนไข้เสียชีวิต จึงทำให้เกิดความท้อแท้ เสียใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปลอบไปว่าในส่วนของการช่วยเหลือ ถ้าได้ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถของเราแล้ว แต่ผู้ป่วยต้องเสียชีวิต ก็เป็นสิ่งที่จะต้องยอมรับว่าในการทำงานนั้นเราไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตของทุก ๆ คนได้ เพราะบางครั้งการบาดเจ็บหรือโรคที่คนไข้เป็นอยู่ก็มากเกินกว่าที่เราจะช่วยได้ และชีวิตคนเราวันหนึ่งก็ต้องถึงตรงจุดนั้น ทั้งนี้ อาชีพของผู้ที่ให้การดูแลรักษาผู้อื่นจะต้องมีเวลามาทบทวน ปลอบใจตัวเองว่าเราได้ทำหน้าที่เต็มที่หรือยัง จึงขอฝากนักศึกษาพยาบาลว่ามีงานหนักที่รอทุกคนอยู่ แต่เป็นงานที่น่าภาคภูมิใจ เป็นงานที่ทุกคนจะได้แสดงออกถึงความอ่อนโยน เอาใจใส่และมีน้ำใจต่อผู้ป่วยอย่างแท้จริง พร้อมกับขอให้ทุกคนได้เตรียมตัวเตรียมใจกับอาชีพพยาบาล โดยขอให้ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง ได้ทำงานร่วมกัน มีโอกาสสร้างความสงบ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องในโอกาสข้างหน้าต่อไป
จากนั้น ตัวแทนนักศึกษาพยาบาลจากภาคใต้ทุกคน ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เห็นความสำคัญและให้โอกาสนักศึกษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษ ในการเข้าศึกษาวิชาชีพพยาบาล อันเป็นที่ใฝ่ฝันของทุกคนมาโดยตลอด ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนและครอบครัว โดยนักศึกษาพยาบาลทุกคนจะตั้งใจศึกษาหาความรู้ ประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม จะนำความรู้ที่ได้รับกลับไปพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญก้าวหน้า และอุทิศตนเพื่อประเทศชาติและพระมหากษัตริย์สืบไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวรายงานความเป็นมาและผลการดำเนินการโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสรุปว่า กระทรวงสาธารณสุขและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550 ให้ดำเนินโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีการศึกษา 2550 เพื่อแก้ปัญหาความขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพในพื้นที่ และเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสนองต่อนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การคัดเลือกและจัดสถานศึกษาให้กับนักศึกษาจำนวน 3,000 คนได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจำแนกเป็นจังหวัดนราธิวาส 1,000 คน จังหวัดปัตตานี 960 คน จังหวัดยะลา 600 คน จังหวัดสงขลา 280 คน และจังหวัดสตูล 160 คน ซึ่งนักศึกษาทั้งหมดจะแยกย้ายไปศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ที่จะเปิดการศึกษาในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบโอวาทแก่นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตฯ สรุปสาระสำคัญว่า ทุกคนที่มาอยู่ ณ ที่นี้หรือไม่ได้อยู่ก็ตาม ถือว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสดีกว่าเพื่อน ๆ อีกมากพอสมควร ฉะนั้นเมื่อทุกคนมีโอกาสแล้วก็ต้องมีความพยายามและตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเองในการศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ที่จะไปประกอบอาชีพได้ อันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวต่อไปในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความตั้งใจของรัฐบาลในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน คือต้องการให้ทุกคนได้มีโอกาสศึกษา มีอาชีพและไปเลี้ยงชีพได้ ซึ่งอยากให้เกิดขึ้นกับเยาวชนคนไทยทุกคน เพื่อทำให้บ้านเมืองมีความสุขและก้าวหน้า ทั้งนี้ มีหลายคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่ยังตกงานอยู่ แต่นักศึกษาพยาบาลมีอาชีพที่แน่นอน มีงานที่พร้อมรองรับอยู่แล้ว ถือว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสดีกว่าคนอื่น โดยในวันนี้ทุกคนได้มีโอกาสมาเยือนศูนย์รวมของการบริหารราชการ เป็นศูนย์รวมของการนำแนวทาง นโยบายต่าง ๆ ไปมอบให้ส่วนราชการต่าง ๆ นำไปปฏิบัติ ซึ่งวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้นำสิ่งที่รัฐบาลกำหนดเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองไปปฏิบัติส่วนหนึ่งแล้ว และจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะต้องทำให้เกิดความต่อเนื่องในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ต่อไป ขณะที่กระทรวงอื่น ๆ ที่มีงานเกี่ยวข้องก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะจะต้องร่วมมือกันเดินไปข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้คือเรื่องความไม่เข้าใจกัน เรื่องความรุนแรง ความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยนักศึกษาพยาบาลจำเป็นจะต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจ เพราะหากบ้านเมืองสงบลง โอกาสที่จะทำให้ทุกคนมีอาชีพมีงานที่มั่นคงมากขึ้นต่อไปข้างหน้าก็จะกระทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าถ้านักศึกษาพยาบาลได้มีโอกาสทำความเข้าใจ ได้รู้จักกัน สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ก็จะช่วยให้ญาติพี่น้อง เพื่อน ๆ ของทุกคนมีความร่วมมือ มีความเข้าใจว่าบ้านเมืองมีทั้งหมด 76 จังหวัด ทุกคนมีความรับผิดชอบที่จะต้องช่วยกันดูแล ไม่ว่าจะมีความเชื่อในด้านใด ความเชื่อที่ว่านั้นไม่ได้เป็นสิ่งจำกัดว่าทุกคนมีความแตกต่างมีความแตกแยก ทุกคนเป็นคนไทย คนไทยมีความแตกต่างทางความเชื่อได้ แต่จะไม่แตกแยก
“ ขอบอกนักศึกษาพยาบาลทุกคนว่าเมื่อไปอยู่ในสถานศึกษา หรือสถานที่ใดก็ตาม ถ้ามีคนมาถาม ก็ขอให้ทำความเข้าใจกับเขาว่าท่านเป็นคนไทย อาจจะมีความเชื่อที่แตกต่าง แต่ไม่ได้เป็นคนที่คิดจะแตกแยก มีคนไทยอีกมากในจังหวัดต่าง ๆ ที่ไม่เข้าใจบอกว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นทางภาคใต้นั้นมาจากคนส่วนใหญ่ ผมบอกได้ว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ไม่ได้เกิดจากคนส่วนใหญ่ แต่เกิดจากคนส่วนน้อยซึ่งมองภาพแล้วใช้วิธีการก่อเหตุด้วยวิธีการรุนแรง ขอให้นักศึกษาพยาบาลทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย คนส่วนใหญ่อยากเห็นความสงบ อยากช่วยกัน รวมทั้งขอฝากให้นักศึกษาพยาบาลทุกคนช่วยกันสร้างความเข้าใจ ยืนอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทยด้วยกันแล้วเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการเรียนอาชีพพยาบาลเป็นเรื่องที่หนัก ผู้เรียนจะต้องเสียสละ ต้องมีความเมตตา และต้องแสดงออก หากไม่มีใจที่จะเป็นพยาบาลก็จะเป็นไปได้ยาก เพราะคนไข้จะรู้สึกได้ว่าผู้ที่มารักษามีความเต็มใจที่จะช่วยหรือไม่ ถ้าหากมีความเต็มใจที่จะช่วย การแสดงออกจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้คนไข้รู้สึกว่ามีคนที่จะมาช่วยดูแล เอื้ออาทร เอาใจใส่กับผู้ป่วยอย่างจริงจัง ส่วนที่เหลือในเรื่องการเรียนด้านสาขาวิชาชีพจะเป็นส่วนประกอบ แต่เบื้องต้นคือความรู้สึกที่มีต่อกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
“ผมเคยป่วยหลายครั้ง สิ่งที่ประทับใจคือความเอื้ออาทรของพยาบาลที่มีต่อผู้ป่วย อยากฝากนักศึกษาพยาบาลทั้งหลายไว้ว่าความเอื้ออาทรเป็นสิ่งเริ่มแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ป่วยได้ ซึ่งอาชีพพยาบาลจะต้องแสดงออกในลักษณะเช่นนี้ตลอดเวลาที่ดูแลผู้ป่วย ส่วนการดูแลในเรื่องอื่น ๆ จะเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ต่อเนื่อง และนักศึกษาพยาบาลอาจจะได้มีโอกาสไปเพิ่มเติมวิชาชีพพยาบาล ที่จะช่วยในด้านการผ่าตัด การทำงานเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ อาชีพพยาบาลถึงแม้จะเป็นอาชีพที่หนัก แต่ทุกคนจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยผู้ที่มีความทุกข์ มีความเจ็บปวด ผู้ที่เกือบจะมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตต่อไปหรือไม่” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า เคยได้คุยปรับทุกข์กับเพื่อนที่เป็นหมอที่ได้ดูแลคนไข้แล้วคนไข้เสียชีวิต จึงทำให้เกิดความท้อแท้ เสียใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปลอบไปว่าในส่วนของการช่วยเหลือ ถ้าได้ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถของเราแล้ว แต่ผู้ป่วยต้องเสียชีวิต ก็เป็นสิ่งที่จะต้องยอมรับว่าในการทำงานนั้นเราไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตของทุก ๆ คนได้ เพราะบางครั้งการบาดเจ็บหรือโรคที่คนไข้เป็นอยู่ก็มากเกินกว่าที่เราจะช่วยได้ และชีวิตคนเราวันหนึ่งก็ต้องถึงตรงจุดนั้น ทั้งนี้ อาชีพของผู้ที่ให้การดูแลรักษาผู้อื่นจะต้องมีเวลามาทบทวน ปลอบใจตัวเองว่าเราได้ทำหน้าที่เต็มที่หรือยัง จึงขอฝากนักศึกษาพยาบาลว่ามีงานหนักที่รอทุกคนอยู่ แต่เป็นงานที่น่าภาคภูมิใจ เป็นงานที่ทุกคนจะได้แสดงออกถึงความอ่อนโยน เอาใจใส่และมีน้ำใจต่อผู้ป่วยอย่างแท้จริง พร้อมกับขอให้ทุกคนได้เตรียมตัวเตรียมใจกับอาชีพพยาบาล โดยขอให้ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง ได้ทำงานร่วมกัน มีโอกาสสร้างความสงบ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องในโอกาสข้างหน้าต่อไป
จากนั้น ตัวแทนนักศึกษาพยาบาลจากภาคใต้ทุกคน ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เห็นความสำคัญและให้โอกาสนักศึกษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษ ในการเข้าศึกษาวิชาชีพพยาบาล อันเป็นที่ใฝ่ฝันของทุกคนมาโดยตลอด ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนและครอบครัว โดยนักศึกษาพยาบาลทุกคนจะตั้งใจศึกษาหาความรู้ ประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม จะนำความรู้ที่ได้รับกลับไปพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญก้าวหน้า และอุทิศตนเพื่อประเทศชาติและพระมหากษัตริย์สืบไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--