วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ศาสตราจารย์ ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี (H.E. Dr. Abdullah Bin Abdul Mohsin Al-Turki) เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกเข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24-30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอขอบคุณที่ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกตอบรับคำเชิญการเยือนไทย โดยหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสันนิบาตมุสลิมโลกและไทยจะเป็นไปด้วยความราบรื่น พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่มหาวิทยาลัยอิสลามยะลาจะมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขากฏหมายอิสลาม (Shariah) แก่เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกด้วย และเห็นว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี จะได้พบปะและแสดงสุนทรพจน์กับประชาชนไทย-มุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับจากนายกรัฐมนตรี และหวังว่าจะได้รับการร่วมมือจากรัฐบาลไทยในการมาเยือนครั้งนี้ การที่คณะสันนิบาตมุสลิมโลกมาเยือนถือเป็นการเปิดมิติความร่วมมือระหว่างไทยและโลกมุสลิม และหวังว่ารัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์กับโลกมุสลิมและพี่น้องมุสลิม ซึ่งก่อนหน้านี้เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกได้เข้าเยี่ยมและหารือกับนายอารีย์ วงศ์อารยะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสันนิบาตมุสลิมโลกมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาโดยยึดหลักสมานฉันท์ และการสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน นอกจากนี้ยังต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย การคลั่งศาสนาที่จะนำไปสู่ปัญหาความรุนแรง ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี เห็นว่าไทยน่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโลกมุสลิมและองค์กรมุสลิม เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่โดดเด่นในภูมิภาคแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณที่สันนิบาตมุสลิมโลกเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาของพี่น้องมุสลิม โดยให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยอิสลามในยะลา ทำให้เยาวชนไทยมุสลิมได้มีโอกาสทางการศึกษา ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือชุมชนไทยมุสลิมในด้านต่างๆ และกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่าไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องศาสนา แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากแนวความคิดของกลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มเดียวซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก และประชาชนไทยพุทธและมุสลิมต่างเข้าใจว่าไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความยินดีที่สันนิบาตมุสลิมโลกมีจุดมุ่งหมายเดียวกับไทยในการแก้ไขปัญหาโดย ยึดหลักสันติวิธีและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ป้องกันการใช้ความรุนแรง ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางมาเยือนไทยของเลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกครั้งนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อแนวทางในการแก้ไขปัญหาของไทย อันจะเป็นแนวทางที่ก่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต่อไป
อนึ่งระหว่างการเยือนนี้เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมยังมีกำหนดการพบหารือบุคคลสำคัญของไทย ได้แก่ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งจุฬาราชมนตรี และเข้าร่วมพิธีสถาปนา อิสลามยะลาที่จังหวัดปัตตานี และเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชุมชนไทยมุสลิมที่มัสยิดกลางจังหวัด ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ภารกิจมุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรม” ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอขอบคุณที่ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกตอบรับคำเชิญการเยือนไทย โดยหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสันนิบาตมุสลิมโลกและไทยจะเป็นไปด้วยความราบรื่น พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่มหาวิทยาลัยอิสลามยะลาจะมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขากฏหมายอิสลาม (Shariah) แก่เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกด้วย และเห็นว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี จะได้พบปะและแสดงสุนทรพจน์กับประชาชนไทย-มุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับจากนายกรัฐมนตรี และหวังว่าจะได้รับการร่วมมือจากรัฐบาลไทยในการมาเยือนครั้งนี้ การที่คณะสันนิบาตมุสลิมโลกมาเยือนถือเป็นการเปิดมิติความร่วมมือระหว่างไทยและโลกมุสลิม และหวังว่ารัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์กับโลกมุสลิมและพี่น้องมุสลิม ซึ่งก่อนหน้านี้เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกได้เข้าเยี่ยมและหารือกับนายอารีย์ วงศ์อารยะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสันนิบาตมุสลิมโลกมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาโดยยึดหลักสมานฉันท์ และการสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน นอกจากนี้ยังต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย การคลั่งศาสนาที่จะนำไปสู่ปัญหาความรุนแรง ดร.อับดุลลอ ฮ. บิน มุห ชินอัตตุรกี เห็นว่าไทยน่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโลกมุสลิมและองค์กรมุสลิม เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่โดดเด่นในภูมิภาคแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณที่สันนิบาตมุสลิมโลกเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาของพี่น้องมุสลิม โดยให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยอิสลามในยะลา ทำให้เยาวชนไทยมุสลิมได้มีโอกาสทางการศึกษา ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือชุมชนไทยมุสลิมในด้านต่างๆ และกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่าไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องศาสนา แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากแนวความคิดของกลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มเดียวซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก และประชาชนไทยพุทธและมุสลิมต่างเข้าใจว่าไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความยินดีที่สันนิบาตมุสลิมโลกมีจุดมุ่งหมายเดียวกับไทยในการแก้ไขปัญหาโดย ยึดหลักสันติวิธีและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ป้องกันการใช้ความรุนแรง ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางมาเยือนไทยของเลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกครั้งนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อแนวทางในการแก้ไขปัญหาของไทย อันจะเป็นแนวทางที่ก่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต่อไป
อนึ่งระหว่างการเยือนนี้เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมยังมีกำหนดการพบหารือบุคคลสำคัญของไทย ได้แก่ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งจุฬาราชมนตรี และเข้าร่วมพิธีสถาปนา อิสลามยะลาที่จังหวัดปัตตานี และเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชุมชนไทยมุสลิมที่มัสยิดกลางจังหวัด ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ภารกิจมุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรม” ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--