แท็ก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงแรงงาน
วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประกาศแนวทางของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสังคม โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมประชุม พร้อมร่วมรับฟังข้อเสนอแนะและการให้ข้อคิดเห็นจาก 28 กลุ่มภาคีเครือข่ายด้านสังคม ประมาณ 200 คน ใน 8 ประเด็นหลักด้านสังคมอย่างกว้างขวาง
โอกาสนี้ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนสังคม”ว่า เรื่องสังคมเป็นเรื่องใหญ่ที่มีปัญหามากมายสะสมมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งบางปัญหาก็ได้รับการคลี่คลายแก้ไขและหมดไป แต่บางปัญหายังคงอยู่ ขณะเดียวกันก็เพิ่มมาใหม่ และบางปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ปัญหาเด็กและเยาวชนอยู่กับสื่อที่ไม่มีคุณภาพเฉลี่ยวันละ 4 - 6 ชั่วโมง สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง คู่แต่งงานทุก 4 คู่จะมีหย่าร้างกัน 1 คู่ เด็กประถม 1 ใน 4 คนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครบหน้า และสถิติจะเลวร้ายกว่านี้ในเด็กมัธยม ขณะที่ในภาคชุมชน ยังพบว่าเกษตรกรยากจนร้อยละ 40 ขาดที่ดินทำกินที่มั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติถูกแย่งชิงโดยอำนาจของผู้มีทุน แรงงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำมีอยู่จำนวนมากถึงร้อยละ 40 ของคนไทยวัยแรงงานทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ยังมีรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาต่างๆ อีกมาก อาทิ ปัญหาความไม่ปลอดภัย ปัญหาสุขภาพอนามัย ปัญหาการศึกษาที่ยังไม่ดีพอ ทำให้คนไม่ได้พัฒนาสติปัญญา และสภาพจิตใจ ทัศนคติที่เหมาะสม คุณธรรมและจริยธรรม อีกทั้งความขัดแย้งความแตกแยกในสังคมเป็นปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์และบรรยากาศทางการเมืองเป็นอย่างที่ได้ประสบมาเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังมีส่วนดีและความเข้มแข็งที่มีศักยภาพอยู่ จึงไม่อยากให้คิดว่าสังคมไทยมีแต่ปัญหา แต่เราก็ต้องร่วมกันจัดการแก้ไขและป้องกัน
“สิ่งที่ดีที่สุดคือการพัฒนา การสร้างความเข้มแข็ง และสร้างศักยภาพซึ่งจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ฐานรากและโครงสร้าง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงและยั่งยืน ในวันนี้ได้มีท่านทั้งหลายซึ่งบางคนใช้คำศัพท์เป็นวิศวกรสังคม เป็นนักออกแบบ นักก่อสร้าง นักจัดกระบวนการ ทั้งจากภาครัฐและนอกภาครัฐ ซึ่งประกอบกันแล้วเป็นความสมบูรณ์และสมดุล ปัญหาสังคมหรือการพัฒนาสังคมไม่อาจจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล หากไม่เป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ของหลายฝ่ายในสังคม” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรวมพลังสร้างสรรค์ของทั้งสองฝ่ายระหว่างภาครัฐกับนอกภาครัฐถือได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งการประชุมวันนี้อยากจะให้เป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ เพื่อจะเลือกเรื่องสำคัญใน 8 ประเด็น อาทิ การลดความเสี่ยงทางสังคม การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและความยากจน นโยบายเกษตรที่มีผลกระทบสูงต่อเกษตรกร การปรับระบบบริหารราชการแผ่นดิน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปฏิรูปสื่อเพื่อสังคมไทย การพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และคุณธรรม มาดำเนินการให้สำเร็จและเห็นผลเป็นรูปธรรม ภายในระยะเวลา 4-6 เดือน ขณะเดียวกันเพื่อปูพื้นฐานที่ดีไปสู่อนาคตและมีความผสมกลมกลืนเชื่อมโยงกับกลไกโครงสร้างที่มีอยู่อย่างเรียบร้อยเป็นที่พอใจร่วมกัน และกลายเป็นผลงานร่วมกันของทุกฝ่ายทำให้เกิดความเป็นสุขร่วมกันของทุกคนในสังคมไทย
จากนั้นกลุ่มภาคีเครือข่ายด้านสังคมได้แบ่งกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับประเด็นทั้ง 8 ประเด็น เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดเสนอ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องพิจารณา ก่อนประกาศใช้เป็นแนวทางการขับเคลื่อนสังคมต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
โอกาสนี้ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนสังคม”ว่า เรื่องสังคมเป็นเรื่องใหญ่ที่มีปัญหามากมายสะสมมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งบางปัญหาก็ได้รับการคลี่คลายแก้ไขและหมดไป แต่บางปัญหายังคงอยู่ ขณะเดียวกันก็เพิ่มมาใหม่ และบางปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ปัญหาเด็กและเยาวชนอยู่กับสื่อที่ไม่มีคุณภาพเฉลี่ยวันละ 4 - 6 ชั่วโมง สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง คู่แต่งงานทุก 4 คู่จะมีหย่าร้างกัน 1 คู่ เด็กประถม 1 ใน 4 คนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครบหน้า และสถิติจะเลวร้ายกว่านี้ในเด็กมัธยม ขณะที่ในภาคชุมชน ยังพบว่าเกษตรกรยากจนร้อยละ 40 ขาดที่ดินทำกินที่มั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติถูกแย่งชิงโดยอำนาจของผู้มีทุน แรงงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำมีอยู่จำนวนมากถึงร้อยละ 40 ของคนไทยวัยแรงงานทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ยังมีรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาต่างๆ อีกมาก อาทิ ปัญหาความไม่ปลอดภัย ปัญหาสุขภาพอนามัย ปัญหาการศึกษาที่ยังไม่ดีพอ ทำให้คนไม่ได้พัฒนาสติปัญญา และสภาพจิตใจ ทัศนคติที่เหมาะสม คุณธรรมและจริยธรรม อีกทั้งความขัดแย้งความแตกแยกในสังคมเป็นปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์และบรรยากาศทางการเมืองเป็นอย่างที่ได้ประสบมาเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังมีส่วนดีและความเข้มแข็งที่มีศักยภาพอยู่ จึงไม่อยากให้คิดว่าสังคมไทยมีแต่ปัญหา แต่เราก็ต้องร่วมกันจัดการแก้ไขและป้องกัน
“สิ่งที่ดีที่สุดคือการพัฒนา การสร้างความเข้มแข็ง และสร้างศักยภาพซึ่งจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ฐานรากและโครงสร้าง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงและยั่งยืน ในวันนี้ได้มีท่านทั้งหลายซึ่งบางคนใช้คำศัพท์เป็นวิศวกรสังคม เป็นนักออกแบบ นักก่อสร้าง นักจัดกระบวนการ ทั้งจากภาครัฐและนอกภาครัฐ ซึ่งประกอบกันแล้วเป็นความสมบูรณ์และสมดุล ปัญหาสังคมหรือการพัฒนาสังคมไม่อาจจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล หากไม่เป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ของหลายฝ่ายในสังคม” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรวมพลังสร้างสรรค์ของทั้งสองฝ่ายระหว่างภาครัฐกับนอกภาครัฐถือได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งการประชุมวันนี้อยากจะให้เป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ เพื่อจะเลือกเรื่องสำคัญใน 8 ประเด็น อาทิ การลดความเสี่ยงทางสังคม การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและความยากจน นโยบายเกษตรที่มีผลกระทบสูงต่อเกษตรกร การปรับระบบบริหารราชการแผ่นดิน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปฏิรูปสื่อเพื่อสังคมไทย การพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และคุณธรรม มาดำเนินการให้สำเร็จและเห็นผลเป็นรูปธรรม ภายในระยะเวลา 4-6 เดือน ขณะเดียวกันเพื่อปูพื้นฐานที่ดีไปสู่อนาคตและมีความผสมกลมกลืนเชื่อมโยงกับกลไกโครงสร้างที่มีอยู่อย่างเรียบร้อยเป็นที่พอใจร่วมกัน และกลายเป็นผลงานร่วมกันของทุกฝ่ายทำให้เกิดความเป็นสุขร่วมกันของทุกคนในสังคมไทย
จากนั้นกลุ่มภาคีเครือข่ายด้านสังคมได้แบ่งกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับประเด็นทั้ง 8 ประเด็น เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดเสนอ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องพิจารณา ก่อนประกาศใช้เป็นแนวทางการขับเคลื่อนสังคมต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--