แท็ก
กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
บล.นครหลวงไทย จำกัด
สุรยุทธ์ จุลานนท์
เอกอัครราชทูต
ทำเนียบรัฐบาล
ตึกไทยคู่ฟ้า
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายกะรีม อิบรอฮีม อัลชะการ์ (H.E. Mr. Karim Ebrahim Al-Shakar) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลา สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตฯ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยและช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย- บาห์เรนให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระหว่างการเยือนประเทศไทยของ ชีค คาลิฟา บิน ซัลมาน อัล-คาลิฟา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเห็นว่าการเยือนดังกล่าวมีส่วนสำคัญที่ช่วยต่อยอดความร่วมมือไทย-บาห์เรนให้กว้างขวางและมีผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน การเงินการธนาคาร ทั้งนี้ เอกอัคราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนแสดงความยินดีที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทย และเห็นถึงพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้านโดยเฉพาะภายหลังการเยือนของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน พร้อมกันนี้ได้ถือโอกาสแจ้งนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้บาห์เรนอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามทะเล(Causeway)เพิ่มเติมจากบาห์เรนเชื่อมไปยังการ์ต้า ความยาว 60 กิโลเมตร และได้กล่าวเชิญชวนให้บริษัทเอกชนของไทยเข้าไปร่วมประมูลการก่อสร้างในครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการเข้าไปลงทุนในบาห์เรน ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน ยังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของไทยในภูมิภาคโดยเฉพาะการริเริ่มกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD: Asia Cooperation Dialogue)
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน กราบเรียนนายกรัฐมนตรีว่านายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนได้ฝากความระลึกถึงและเชิญให้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนเป็นการตอบแทน โดยเอกอัครราชทูตบาห์เรนเชื่อมั่นว่าการเยือนของนายกรัฐมนตรีจะช่วยให้ความสัมพันธ์ไทย-บาห์เรนมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวว่า บาห์เรนเป็นมิตรประเทศที่แท้จริงและคนไทยรู้สึกขอบคุณที่บาห์เรนช่วยสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กับประเทศสมาชิก OIC และโลกมุสลิมเสมอมา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตฯ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยและช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย- บาห์เรนให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระหว่างการเยือนประเทศไทยของ ชีค คาลิฟา บิน ซัลมาน อัล-คาลิฟา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเห็นว่าการเยือนดังกล่าวมีส่วนสำคัญที่ช่วยต่อยอดความร่วมมือไทย-บาห์เรนให้กว้างขวางและมีผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน การเงินการธนาคาร ทั้งนี้ เอกอัคราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนแสดงความยินดีที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทย และเห็นถึงพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้านโดยเฉพาะภายหลังการเยือนของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน พร้อมกันนี้ได้ถือโอกาสแจ้งนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้บาห์เรนอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามทะเล(Causeway)เพิ่มเติมจากบาห์เรนเชื่อมไปยังการ์ต้า ความยาว 60 กิโลเมตร และได้กล่าวเชิญชวนให้บริษัทเอกชนของไทยเข้าไปร่วมประมูลการก่อสร้างในครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการเข้าไปลงทุนในบาห์เรน ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน ยังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของไทยในภูมิภาคโดยเฉพาะการริเริ่มกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD: Asia Cooperation Dialogue)
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรน กราบเรียนนายกรัฐมนตรีว่านายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนได้ฝากความระลึกถึงและเชิญให้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนเป็นการตอบแทน โดยเอกอัครราชทูตบาห์เรนเชื่อมั่นว่าการเยือนของนายกรัฐมนตรีจะช่วยให้ความสัมพันธ์ไทย-บาห์เรนมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวว่า บาห์เรนเป็นมิตรประเทศที่แท้จริงและคนไทยรู้สึกขอบคุณที่บาห์เรนช่วยสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กับประเทศสมาชิก OIC และโลกมุสลิมเสมอมา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--