วันนี้ เวลา 08.00 น. ณ บ้านพิษณุโลก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เปิดบ้านพิษณุโลก” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 6 โดยมีนายกฤษณะ ไชยรัตน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีครับ รายการเปิดบ้านพิษณุโลกเช้าวันเสาร์นี้ถึงคิวพิธีกรมนุษย์ล้อบ้างนะครับ วันนี้ผม กฤษณะ ไชยรัตน์ ได้รับเกียรติมาเป็นแขกรับเชิญบ้านหลังนี้ บ้านประจำตำแหน่งท่านนายกรัฐมนตรีครับ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ วันนี้กฤษณะจะได้มาทำหน้าที่ถามตรง ถามกันในระยะที่แบบเรียกว่าเผาขนเลยครับกับท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ท่านนี้ครับ สวัสดีครับท่านนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ
การประกาศภาวะฉุกเฉินต้องอยู่ในเงื่อนไข
ผู้ดำเนินรายการ ช่วงนี้มีประเด็นใหญ่ที่เป็นข่าวใหญ่ข่าวดัง 3 ประเด็นหลัก ๆ เรื่องม็อบ เรื่องเคอร์ฟิว และเรื่องปัญหาภาคใต้ ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรื่องเคอร์ฟิวครับท่าน มีข่าวลือต่อเนื่องกันมาอย่างน้อยสองวันติด ๆ แม้ว่าท่านเองจะพูดปฏิเสธยืนยันมาหลายรอบ ก็ยังมีข่าวว่าท่านจะประกาศเคอร์ฟิว อย่างไรครับเรื่องนี้ กับม็อบกับเคอร์ฟิว
นายกรัฐมนตรี เคอร์ฟิวคงเป็นส่วนประกอบอันหนึ่งของสถานการณ์ฉุกเฉิน ผมคงเรียนได้ว่าถ้าหากว่าไม่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คงไม่สามารถจะประกาศเคอร์ฟิวได้ครับ การที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ว่ามีการดำเนินการที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ทำให้สูญเสียความสงบของบ้านเมืองไป นั่นก็เป็นเรื่องที่ได้มีอยู่ในมาตรา 5 ของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องเข้าเงื่อนไขเหล่านั้น ผมถึงจะมีอำนาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้
ผู้ดำเนินรายการ จะประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่อย่างไรอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเลยใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ
ผู้ดำเนินรายการ แต่ว่าสถานการณ์ ณ ขณะนี้ท่านประเมินว่ายังไม่ถึงขั้นต้องประกาศ
นายกรัฐมนตรี ยังไม่ถึงครับ
ผู้ดำเนินรายการ แต่ว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมเขาบอกมาเลยครับ ตอนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินมาถึงขั้นต้องแตกหักแล้ว วันนี้ที่เราบันทึกเทปประมาณสัก 6 โมงเย็นกว่า ๆ เขาก็ชุมนุมอยู่ที่สนามหลวง แล้วอาจจะมีการเคลื่อนขบวนไปที่หน้ากองทัพบก หรืออาจจะไปหน้าบ้านป๋าเปรมต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ ตรงนี้ท่านประเมินอย่างไรครับ
นายกรัฐมนตรี ได้มีการปรึกษาหารือกันแล้ว เมื่อเช้าก็ได้มีการหารือกันระหว่างพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้อำนวยการรักษาความมั่นภายใน (ผอ.รมน.) กับพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มาหารือกันว่าเราจะมีวิธีการอย่างไร ซึ่งผมยังยืนยันว่าถ้าสามารถที่จะพูดจากันได้ทำความเข้าใจกันได้ว่า ขอให้อยู่ในกรอบของความสงบ คือถ้าชุมนุมก็ชุมนุมอยู่ในสภาพซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายกับบ้านเมือง เราวุ่นวายกันมาพอสมควร ทั้งในเรื่องทางการเมือง ทั้งในเรื่องทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ขอเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่า เราควรจะร่วมมือกันในการที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ตามให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เมื่ออยู่ในกรอบของกฎหมายแล้ว สิ่งที่จะเป็นความวุ่นวายก็คงไม่เกิด แต่ถ้าเผื่อเกิดความวุ่นวายขึ้นมาเราคงจะต้องใช้อำนาจตามกฎหมายในการที่จะดูแล ในการที่จะดูแลทำให้เกิดความสงบขึ้นมา
ผู้ดำเนินรายการ เพื่อความชัดเจน และประชาชนที่ชมรายการนี้อยู่จะได้สบายใจ เพราะถ้าหากว่ามีการประกาศจริงจะส่งผลกระทบตามมาอีกหลายด้าน
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ
ผู้ดำเนินรายการ เรื่องโอ้โฮ ทำไมประเทศไทยปั่นป่วนวุ่นวายยุ่งเหยิงขนาดนี้เป็นต้น ดังนั้นความวุ่นวายหรือความรุนแรงที่ท่านคิดว่าจะถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิว ต้องถึงขีดไหนครับ 1 — 2 — 3 - 4 — 5 และตอนนี้อยู่ขีดไหนแล้วครับ
นายกรัฐมนตรี ต้องขอแก้นิดหนึ่งคือจะประกาศภาวะฉุกเฉินสิ่งที่เรียนได้คือในมาตรา 5 ของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่ามีรูปแบบอย่างไรบ้างที่จะผิดกฎหมายในส่วนนี้ ถ้าหากว่าเข้าข่ายเหล่านั้นก็จะเป็นสิ่งที่ผมสามารถจะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินได้ อย่างที่ได้เรียนไปแล้วยังยืนยันครับว่า ตราบใดที่ท่านยังไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ได้ทำลายสิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์ ไม่ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ของส่วนราชการ เป็นพื้นที่ของส่วนบุคคล สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าท่านได้ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นการชุมนุมทางการเมืองตามปกติ และยิ่งไม่เคลื่อนไปที่โน่นที่นี่ได้ อยู่ในที่มีการพูดกัน แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึกกัน ทางรัฐบาลถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท่านสามารถปฏิบัติได้ เราจะไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
รัฐบาลพยายามใช้การเจรจาทำความเข้าใจแก้ปัญหาการชุมนุม
ผู้ดำเนินรายการ แต่เขาก็เตรียมจะเคลื่อนขบวนนี่ครับ
นายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ผมเรียนแล้วกับพี่น้องประชาชนว่า ขอให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงสิ่งที่ท่านได้รับทราบ และได้พบเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ว่าอะไรที่เราควรจะนำไปพิจารณา นำไปเป็นแนวทางในการแก้ปัญหากันต่อไปว่า เราอยากให้บ้านเมืองของเรายุ่งอยู่อย่างนี้หรือ ถ้าเราอยากจะให้บ้านเมืองของเรายุ่ง ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือมาช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเราให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤต และแก้ไขปัญหาด้วยการพูดจากัน ทำความเข้าใจกัน
ผู้ดำเนินรายการ ท่านคิดว่าการชุมนุมกันของกลุ่มต่าง ๆ ที่มีขึ้นในตอนนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากคดีความต่าง ๆ โดยตรงหรือไม่ครับ เช่น คดียุบพรรค 30 พฤษภาคม 2550 ล่าสุดคดีอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมาเกี่ยวโยงกันโดยตรงไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ก็น่าจะมีความเกี่ยวโยงครับ ผมคงไม่สามารถที่จะชี้ชัดลงไปได้ว่าความมุ่งหมายเพื่ออะไร เพราะว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องทางการเมือง โดยสรุปเป็นเรื่องทางการเมืองที่เรามีความเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ มีเรื่องของการเข้ามายึดอำนาจ เข้ามาเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ส่วนที่อยากจะทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่งคือว่า เราต้องพิจารณาในเรื่องของต้นเหตุ หรือเหตุของปัญหาว่ามาจากอะไรให้ได้ ซึ่งผมคงไปแนะนำไม่ได้ว่าเหตุที่มานี้เป็นอย่างไร แต่อย่างที่คุณกฤษณะฯ ได้พูดไปแล้ว นั่นก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จำเป็นจะต้องนำมาพิจารณา ในส่วนนี้เองเมื่อเราทราบเหตุแล้ว และรู้ว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังพยายามจะทำอยู่ในปัจจุบันคือแก้ไขปัญหาด้วยการพูดจากันทำความเข้าใจกัน และนำไปสู่กระบวนการที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวคือจะให้มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลซึ่งผ่านจากการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า กว่าที่จะไปทำให้เกิดปัญหากับชาติบ้านเมือง
ผู้ดำเนินรายการ อย่างเช่นวันศุกร์ที่เราบันทึกเทป ประมาณ 21.00 น.เขาบอกว่า คุณทักษิณฯ จะมาให้สัมภาษณ์เปิดใจกลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง อันนี้ถือเป็นสิทธิ รัฐบาลจะไม่ไปปิดกั้น ไม่ไปตัดสัญญาณอะไรใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ อย่างที่ได้มีการชี้แจงกันหลายหน่วยแล้ว ผมขอเรียนว่าถ้าหากว่าการดำเนินการนั้นไม่ได้เป็นการยั่วยุให้เกิดปัญหาขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถที่จะดำเนินการได้
ผู้ดำเนินรายการ จะไม่เป็นการทำให้เกิดความฮึกเหิมหรือความแข็งกร้าวดุดันมากขึ้นของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือเปล่า
นายกรัฐมนตรี ก็อย่างที่ผมได้ใช้คำแล้วว่า ถ้าไม่เป็นการยั่วยุ ก็เป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว
ขอให้ประชาชนรับฟังข่าวจากสื่อของรัฐ
ผู้ดำเนินรายการ ถ้าอย่างนั้นเราต้องติดตามสถานการณ์ ประเมินแบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง ดูท่านแล้ว ดูหนักใจไหมครับกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้หนักใจอะไรครับ ผมคิดว่าเราสามารถทำความเข้าใจและเชื่อในวิจารณญาณของพี่น้องประชาชน สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนคือว่า อย่าไปฟังข่าวลือ การที่จะฟังสิ่งที่น่าจะเชื่อถือได้คือในด้านการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล ข่าวลือไม่ได้เป็นเรื่องที่มีการยืนยันจากสื่อของรัฐแล้ว ถือว่าไม่ได้เป็นสิ่งเป็นความจริง
ผู้ดำเนินรายการ พูดถึงข่าวลือ ตอนนี้ทำไมถึงมีข่าวลือออกมาเยอะจริง ๆ ครับท่าน ทั้งเรื่องของลอบสังหาร เรื่องของปฏิวัติซ้อน ปฏิวัติซ้ำ แม้แต่ข่าวลือพุ่งตัวนายกฯ ก็มีครับ มาอย่างไรครับ ทำไมขนาดนั้นได้ครับ
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ข่าวลือ ต้องถามบรรดาสื่อทั้งหลายว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ส่วนมากแล้วมาใน sms มาในเว็บไซต์ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่อย่างที่เรียนแล้วว่าอะไรที่ไม่ได้ออกมาจากสื่อของรัฐแล้วถือว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่ ยังไม่ควรจะถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือได้
ผู้ดำเนินรายการ อย่างข่าวลือ ลือกันว่าอุ้มตัวท่านนายกฯ สุรยุทธ์ ฯ ไปไหนก็ไม่รู้ ท่านได้ข่าวบ้างใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมยังไม่ได้ข่าวเลยว่าจะมีใครมาอุ้มผม
ผู้ดำเนินรายการ ลอบสังหารผู้นำอย่างนี้ ไม่เฉพาะท่านนะครับ พลเอก สนธิฯ ก็โดน พลเอก สพรั่งฯ ก็โดน หรือแม้แต่คุณทักษิณฯ ก็โดนเหมือนกัน ท่านกลัวไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่ค่อยกลัวครับ เพราะว่าอายุก็มากพอสมควรแล้ว พูดกันตรง ๆ ถ้าหากว่าจะจบไปโดยถึงกาลเวลา ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอะไรสำหรับผม
ผู้ดำเนินรายการ แต่ก็ต้องไม่ประมาทใช่ไหมครับ เพื่อความปลอดภัย
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดูแล ตัวผมเองจะถามว่ากลัวหรือไม่กลัวนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอะไรมากมาย
ผู้ดำเนินรายการ แต่ข่าวลือที่ออกมามากมายหลายข่าว แม้แต่เคอร์ฟิวเป็นต้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนด้วย อย่างเช่นตลาดหุ้น เห็นได้ชัดเลยเมื่อวันก่อน หุ้นร่วงกราวรูด วันนี้ดีขึ้นมาหน่อย ใช่ไหมครับ ตรงนี้ชัดเจนว่ารัฐบาลจากนี้ไปถ้ามีข่าวอะไรไม่แน่ใจ โทรศัพท์ 1111 ได้ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ สอบถามได้
ผู้ดำเนินรายการ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่แน่ใจข่าวไหน อย่างไร โทรศัพท์มาเช็คได้เลย อย่าไปฟังข่าวที่ออกมา มีการปล่อยข่าวกันเยอะเหลือเกิน แล้วอย่างนี้หน่วยข่าวกรองท่านรายงานเรื่องของข่าวลือมาอย่างไร ต้นตอมาจากใคร กลุ่มไหน เช็คได้ครับ
นายกรัฐมนตรี ก็เช็คยาก อย่างที่ว่าคือมาเยอะเหลือเกิน คือถ้าผมมัวไปตามข่าวลือก็ลำบากพอสมควร เราอยากจะได้ข่าวจริง ๆ มากกว่าครับ เป็นเรื่องของหน่วยข่าว คือข่าวลือเราไม่ค่อยอยากสนใจ
ผู้ดำเนินรายการ แล้วรัฐบาลมีปล่อยบ้างไหมครับ ข่าวลือ
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปล่อยครับ ผมเรียนยืนยันว่าเราไม่ได้ปล่อยข่าวลือ เราต้องการที่จะชี้แจงทำความเข้าใจในสิ่งที่เป็นความจริง
การอายัดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรีดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม
ผู้ดำเนินรายการ หลายคนที่ติดตามบทบาทการทำงานของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ฯ โดยเฉพาะเดือนนี้เข้าสู่เดือนที่ 9 ตั้งแต่ท่านเข้ามารับตำแหน่งนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะมีการปรับลุคใหม่ ปรับภาพลักษณ์ใหม่ มีคนสังเกตตั้งแต่หลังคดียุบพรรค 30 พฤษภาคม ยุบพรรคไทยรักไทย คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 10 มิถุนายน ท่านออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ด้วยท่าทีที่รู้สึกว่าจะแข็งกร้าวดุดันมากยิ่งขึ้น ผิดฟอร์มจากที่ผ่าน ๆ มา ที่ถูกมองว่าหน่อมแน้ม นุ่มนิ่ม เป็นฤาษีเลี้ยงเต่าอะไรอย่างนี้ ตรงนี้ท่านตั้งใจจะให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมก็ฟังสิ่งที่พี่น้องประชาชนได้ให้คำแนะนำผม บ่นบ้างด่าบ้าง ก็รับมาปรับปรุง นั่นคือการปรับปรุงตัวของผมเอง ท่านอยากให้ผมดูไม่เป็นฤาษี ก็ไม่เป็น อยากให้เร็วหน่อย อย่าหน่อมแน้มก็ต้องทำตาม
ผู้ดำเนินรายการ นี่คือปรับแล้วนะครับ
นายกรัฐมนตรี พยายามปรับตามที่ว่า มันอาจจะดูไม่ได้อย่างใจ ก็ต้องขออภัยไว้ด้วย
ผู้ดำเนินรายการ แต่อีกด้านหนึ่งคนที่ชอบสไตล์แบบนี้ก็บอก ถูกใจเหลือเกิน นี่แหละสไตล์ที่อยากจะเห็นกับนายกรัฐมนตรีคนนี้ แข็งกร้าวบ้าง ดุดันบ้าง และถึงลูกถึงคน ถึงคดีความเลย เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ร้อน ๆ ตอนนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี คดีความคงไม่ได้เกี่ยวกับผม
ผู้ดำเนินรายการ บังเอิญท่านออกมาช่วงนั้นพอดี ถูกไหมครับ
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งสอดคล้องกัน ขอเรียนตรงนี้ว่าเราไม่ได้มีข้อมูลว่าทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะได้ออกมาชี้แจง ในส่วนของผมเองคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า เราควรจะเดินไปทางไหนกัน บ้านเมืองเรามีปัญหาอย่างนี้ เราควรจะเดินไปทางไหนกัน ผมไม่ได้มีข้อมูลว่า คตส. จะออกมาอย่างไร อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันแล้ว ไม่มีการนัดแนะ ไม่มีการไปล้วงลูกว่า คตส. จะออกมา
ผู้ดำเนินรายการ ใบสั่ง เขาบอกว่านี่ละใบสั่งเลย
นายกรัฐมนตรี ไม่มี เรียนได้ว่าไม่มี
ผู้ดำเนินรายการ บังเอิญพอดีมันตรงกัน
นายกรัฐมนตรี เป็นเหตุที่สอดคล้องกันพอดี ขอเรียนตรงนี้ว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ยึดถือคือการดำเนินการตามหลักนิติธรรม
ผู้ดำเนินรายการ แต่ผมเชื่อว่าต้องมีคนอาฆาตแค้นท่าน ใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่เป็นธรรมดาครับ ถือว่าเมื่อเรามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว จำเป็นที่จะต้องมีคนที่เห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา คนที่เป็นฝ่ายค้านบ้าง เป็นฝ่ายแค้นบ้าง เป็นธรรมดา
ผู้ดำเนินรายการ ท่านคิดว่ามันหนักหนาสาหัสเกินไปไหมครับ ถ้าเกิดเรามองอีกมุมหนึ่งของคนที่ถูกกระทำตอนนี้ คือทั้งคดียุบพรรค ยุบพรรคไม่พอยังยุบกรรมการบริหารพรรคอีก มัดมือมัดขาทำอะไรไม่ได้ ดำเนินการเคลื่อนไหวลงสมัคร ส.ส.อะไรก็ไม่ได้ มายึดทรัพย์อีก อายัดทรัพย์อีก ถือว่าเป็นการไล่ต้อนให้เข้าไปหลังพิงกำแพง เขาไม่มีทางหนี ไม่มีทางไปแล้ว ต้องสู้ตายอย่างเดียว
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ถ้ามามามองตรงนี้ก็สู้กันได้ ตามกระบวนการยุติธรรม ผมคิดว่าไม่ได้เป็นหลังพิงกำแพง ต้องดูว่ากรรมที่ท่านได้ดำเนินการมานั้น ส่งผลอย่างไร กระบวนการยุติธรรมที่ว่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบ และชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นธรรมอย่างไร ในสังคมของเราต้องมีความเป็นธรรม ใครที่ทำดีควรจะได้รับผลตอบแทนที่ดี ใครที่ทำไม่ดี ผลก็ต้องออกมา
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เป็นเรื่องของกรรมของการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วท่านประเมินความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ ทักษิณฯ อย่างไรครับ ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามหรืออย่างไร ปล่อยหมัดแย็บรบกวนใบหน้าท่านตลอดเวลาเลย เดี๋ยวก็มีข่าวไปอยู่ประเทศโน้น ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ไปรับปริญญา ดูแบบพยายามแสดงให้เป็นข่าว ท่านอย่างไรครับ จะเปิดเกมรุกกลับแก้เกมนี้อย่างไรบ้างครับ
นายกรัฐมนตรี ในส่วนของการดำเนินการนี้นะครับผมคิดว่าไม่ได้เป็นการเปิดเกมรุกกลับอย่างไร อย่างที่ได้เรียนแล้วคือเราไม่ได้มีการตอบโต้ สิ่งที่อยากจะทำคือขอให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจว่า รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะดูแลในเรื่องของความสงบ มีหน้าที่ที่จะบริหารงานของประเทศให้มีความคืบหน้าไป แล้วไปสู่ขั้นตอนของการเลือกตั้งในที่สุด ตรงนี้จะเป็นส่วนที่รัฐบาลมุ่งไปสู่จุดนั้น ขณะเดียวกันต้องดำเนินการตามหลักนิติธรรม เราจะไม่เข้าไปแทรกแซง เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จะให้กระบวนการยุติธรรมนั้นดำเนินไปตามความถูกต้อง เป็นไปตามครรลองจริง ๆ
รัฐบาลพร้อมพูดคุยกับทุกภาคส่วนที่มีปัญหา
ผู้ดำเนินรายการ ครับ ถ้าหากว่าทางฝ่ายอดีตนายกฯทักษิณฯ เขาอยากจะขอเปิดเจรจาเพื่อความสมานฉันท์ เพื่อจะยุติปัญหาเรื่องราวต่างๆ เรื่องม็อบ เรื่องคลื่นใต้น้ำ เรื่องกลุ่มอำนาจเก่า ท่านพร้อมไหมครับ
นายกรัฐมนตรี พร้อมครับ ผมพร้อมมาตั้งแต่ 9 เดือนที่แล้วอยู่แล้ว
ผู้ดำเนินรายการ แสดงว่าท่านเปิดรับอยู่แล้ว ถ้าจะเจรจาท่านชอบอยู่แล้วใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี เปิดรับอยู่แล้ว พร้อมอยู่แล้วครับ กับทุก ๆ ส่วนที่มีปัญหาและเราพยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหานั้น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ผู้ดำเนินรายการ และที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณฯ เคยติดต่อจะมาขอเจรจากับท่านบ้างหรือยัง
นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ถึงขั้นมีการเจรจาอะไรครับ พูดคุยกันธรรมดาเท่านั้นเอง
ผู้ดำเนินรายการ เห็นท่านมีการโทรศัพท์บ้าง 2 ครั้งใช่ไหมครับ หลังสุดนี่ก็ห่างไปหลาย
นายกรัฐมนตรี ครับ ผมต้องบอกว่าผมรับโทรศัพท์
ผู้ดำเนินรายการ เขาเป็นฝ่ายโทร.มา
นายกรัฐมนตรี ครับ
ผู้ดำเนินรายการ ครับ ก็นานแล้วหลังสุดนี่นานหลายเดือนแล้ว
นายกรัฐมนตรี นานแล้วครับ หลายเดือนแล้ว
ผู้ดำเนินรายการ แล้วท่านไม่เอะใจว่าอยู่ ๆ ทำไมอยู่ ๆ หายเงียบไป
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะว่าได้ทราบว่าเดินทางไปโน่นมานี่ตามข่าวที่ปรากฏครับ เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากว่าท่านมีปัญหาอะไร โทรมา ผมยินดีที่จะรับฟัง
ผู้ดำเนินรายการ พร้อมเปิดเจรจา เจรจาเรื่องอะไรครับ
นายกรัฐมนตรี ต้องแล้วแต่ผู้ยื่นข้อเสนอ
ผู้ดำเนินรายการ แต่ท่านก็ทราบปัญหา อย่างเช่นเรื่องม็อบ ก็ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงไม่มากก็น้อย ถูกไหมครับ เรื่องท่อน้ำเลี้ยง
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าคงไม่ได้เจรจาในเรื่องเหล่านั้น เป็นเรื่องที่ว่าถือว่าเป็นจุดสำคัญที่คุณทักษิณฯ คงจะต้องหาทางเจรจา คงเป็นเรื่องของทรัพย์สมบัติ เป็นในเรื่องของครอบครับ
ผู้ดำเนินรายการ เรื่องทรัพย์สมบัตินะครับ ที่ล่าสุดถูกอายัดไว้ เรื่องนี้น่าสนใจครับ ช่วงนี้เราพักสักครู่ครับ ช่วงหน้าผมจะมาถามท่านนายกรัฐมนตรี เรื่องของคดีอายัดทรัพย์ ที่สุดแล้วจะเป็นอย่างที่หลายคนหวั่นเกรงหรือเปล่า จะเป็นแค่เพียงมวยล้มต้มคนดู สมัยก่อนมันเกิดนี่ครับ เขาไปเทียบสมัยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา คล้าย ๆ กันเลยครับ ตั้ง คตส. และประกาศอายัดทรัพย์ อันนั้นหนักกว่านี้ด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่ายอดเงินน้อยกว่าเยอะ ใช่ไหมครับ ที่สุดแล้วนี้ศาลท่านก็สั่งยกฟ้อง เอาผิดอะไรใครไม่ได้ จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ช่วงหน้ามาถามท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ฯ กันต่อครับ
อดีตนายกรัฐมนตรีสามารถตั้งผู้แทนมาแก้ข้อกล่าวหาได้
ผู้ดำเนินรายการ ช่วงนี้กลับมาคุยกับเจ้าของบ้านพิษณุโลกคนปัจจุบันกันต่อครับ เมื่อสักครู่เราคุยค้างเรื่องของคดีอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการมองกันว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยได้หรือไม่ คือไปเทียบกับสมัย รสช. ยึดอำนาจ 23 กุมภาพันธ์ 2534 พอยึดอำนาจ สูตรสำเร็จอย่างหนึ่งคือแจ้งข้อหาต่าง ๆ ที่มีต่อรัฐบาลที่ยึดอำนาจไป หนึ่งในนั้นคือเรื่องการทุจริตฉ้อฉลคอร์รัปชั่น และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สิน นำไปสู่การอายัดทรัพย์ แต่ในที่สุดต่อมาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีอะไรในกอไผ่ มาสมัยท่าน 16 ปีผ่านไป ถ้าเกิดนับจาก รสช. ยุดนั้น ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมีโอกาสไหม ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้
นายกรัฐมนตรี เท่าที่ผมได้รับฟังจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งถือว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ได้มีอยู่แล้ว ในครั้งก่อนผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเหล่านั้น ก็คิดว่าเมื่อมาถึงวันนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายในแง่ทางด้านกฎหมายได้มีการศึกษาและหาทางที่จะแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต คงตอบได้แค่นั้น เพราะผมไม่ได้เป็นนักกฎหมาย และไม่ได้เข้าไปดูในรายละเอียดอย่างที่บอกแล้วว่า เราแยกกันทำงาน
ผู้ดำเนินรายการ ก็อยู่ที่ศาลในที่สุด น่าจะเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะคุณทักษิณฯ ก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ว่าคดีนี้ที่มีการอายัดทรัพย์กว่า 50,000 ล้านบาท จะเป็นสะพานเชื่อมให้คุณทักษิณฯ กลับมาเมืองไทยเร็วกว่าที่ควรไหม
นายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับการดำเนินคดี อย่างในปัจจุบันนี้ที่ คตส. ได้ประกาศไปแล้วว่า ขอให้มาแก้ข้อกล่าวหาภายใน 60 วัน ได้ทราบว่าในส่วนนี้สามารถตั้งผู้แทนได้ จากที่ คตส. ได้ชี้แจงมาแล้ว นั่นเป็นทางเลือกที่ผู้ถูกกล่าวหานั้นสามารถที่จะตั้งผู้แทนมาชี้แจงได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาว่าคงจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วในส่วนของผู้ถูกกล่าวหา
ผู้ดำเนินรายการ แต่ที่ต้องมาแน่ ๆ คือเมื่อไปถึงชั้นศาล ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล และที่มีข่าวว่าคุณทักษิณฯ อยากจะกลับมาเมืองไทย คิดว่าคุณทักษิณฯ อยากกลับจริง ๆ หรือเป็นเพียงแค่คำขู่ หรือต้องการจะปลุกความฮึกเหิมของกลุ่มผู้ชุมนุม
นายกรัฐมนตรี ผมคงตอบไม่ได้ เพราะว่าผมไม่ได้อยู่ใกล้ชิดขนาดนั้น จะขู่หรือไม่ขู่หรือว่ามาจริงหรือไม่มาจริง เป็นสิทธิของคุณทักษิณฯ อยู่แล้วที่จะกลับมาได้ จะกลับมาตอนไหนเมื่อไรถือว่าเป็นสิทธิ สิ่งที่ได้พิจารณาโดยคุณทักษิณฯ เองว่าสมควรจะมาเมื่อไร ก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอันหนึ่ง
ผู้ดำเนินรายการ และที่มีข่าวว่าถ้าหากว่าคุณทักษิณฯ กลับมาตอนนี้ถึงขั้นจะต้องเก็บกันเลย
นายกรัฐมนตรี คงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ในส่วนของรัฐบาลเราคงมีหน้าที่ที่จะดูแลความปลอดภัยของคนไทยทุกคน คนไทยทุกคนได้รับสิทธิที่จะได้รับการดูแลในด้านความปลอดภัยโดยเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายไทย กฎหมายรัฐธรรมนูญของเราได้กำหนดไว้ว่า พี่น้องประชาชน คนไทยทุกคนมีสิทธิอะไรบ้าง นั่นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ รัฐบาลยืนยันตรงนี้ว่าเราจะดูแลในเรื่องของสิทธิที่เท่าเทียมกันของทุกคน
ผู้ดำเนินรายการ แล้วในมุมมองของท่านในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลตอนนี้ ประเมิน ณ นาทีนี้คิดว่าคุณทักษิณฯ อยู่เมืองนอกดีอยู่แล้ว หรือควรจะกลับเมืองไทย
นายกรัฐมนตรี ผมคงไม่อยากประเมินแล้ว เพราะมีหลายเรื่องเหลือเกิน ซึ่งคงอยู่ที่การตัดสินใจของคุณทักษิณฯ เอง
รัฐบาลเตรียมเสนอกฎหมายลงประชามติต่อสนช.
ผู้ดำเนินรายการ และจากเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุมจะส่งผลต่อเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย เช่น การลงประชามติ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลื่อนเข้ามาเป็นวันที่ 19 สิงหาคม และจะโยงใยไปถึงการเลือกตั้งปลายปีที่ท่านวางไว้ด้วย มาถึงวันนี้ท่านยังมั่นใจไหมว่าจะเดินไปตามปฏิทินการเมืองที่วางไว้ก่อนหน้านี้
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าได้หารือกับทุกฝ่าย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในส่วนของการดำเนินการของ กกต. ก็ได้มีการเจรจากันว่าถ้าจะเลื่อนวันเวลาที่จะให้มีการลงประชามติขึ้นมาในช่วงวันที่ 19 สิงหาคม น่าจะกระทำได้ ขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติของการลงประชามติผ่านคณะรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อเข้าไปสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เตรียมการที่จะรองรับการลงประชามตินั้น ส่วนการที่จะประกาศวันเวลาเมื่อไร คงจะต้องดูว่าร่างรัฐธรรมนูญที่อยู่ในขั้นตอนของการอภิปรายอยู่ในขณะนี้ และจะสำเร็จออกมาเป็นร่างที่ 2 นั้นจะลุล่วงเมื่อไร นั่นเป็นส่วนประกอบอีกอันหนึ่งที่เรายังไม่สามารถที่จะตอบได้ในขณะนี้ คงจะต้องติดตามกันต่อไป
ผู้ดำเนินรายการ ดังนั้น ขณะนี้ปฎิทินการเมืองของรัฐบาลยังน่าจะเป็นแบบเดิมอยู่ใช่ไหมครับ เรื่องวันเลือกตั้งโอกาสที่จะเลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้น ยังมีอยู่ใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับการลงประชามติ ถ้าหากว่าเราสามารถที่จะเลื่อนการลงประชามติให้ใกล้เข้ามาได้ การเลือกตั้งก็เช่นเดียวกัน สามารถที่จะเลื่อนให้ใกล้เข้ามาได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนที่เป็นความต่อเนื่องซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
รัฐบาล-คมช. ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิด
ผู้ดำเนินรายการ เรียนถามท่านเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับท่อน้ำเลี้ยงเป็นประเด็นที่ต่อเนื่องยาวนานมา มาถึงวันนี้ท่านมีข้อมูลเพิ่มเติมเชิงลึกอย่างไร เกี่ยวข้องโยงใยไปถึงขนาดไหนอย่างไร การตรวจสอบเส้นทางการเงินทำได้ขนาดไหนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี ผมเรียนตรง ๆ ว่าผมไม่ได้เข้าไปติดตาม เพราะว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารจะเข้าไปดำเนินการ เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องเข้าไปติดตาม ซึ่งเป็นหน้าที่ในส่วนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ไปดำเนินการ เราแบ่งงานกันค่อนข้างชัดเจนในส่วนนี้
ผู้ดำเนินรายการ แต่ คมช. ต้องมารายงานท่านด้วย
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้รายงานรายละเอียดอะไร เพราะว่าส่วนมากเราพูดกันถึงเรื่องแนวทาง พูดกันถึงเรื่องนโยบายหลักๆ มากกว่า รายละเอียดไม่ได้ลงไปว่า ใครเป็นคนดำเนินการ ท่อน้ำเลี้ยงมาจากที่ไหน จำนวนเท่าไร ไม่ได้พูดถึง
ผู้ดำเนินรายการ แต่จะเกี่ยวโยงกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ขณะนี้มากเลย ถ้าเป็นจริงนะครับ ท่านต้องรับรู้รับทราบด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้มีการรายงานและหาแนวทาง หาวิธีการที่จะแก้ไขกัน ก็เป็นภาพกว้าง ๆ ไม่ได้เป็นภาพรายละเอียด ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าผมประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้ว รายละเอียดก็เป็นเรื่องที่ คมช. หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นภายใน (กอ.รมน.) จะไปดำเนินการ ทางฝ่ายบริหารคือดำเนินการแค่นั้น มอบอำนาจให้ผู้ปฏิบัติลงไปทำ
ผู้ดำเนินรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล กับ คมช. ตอนนี้ยังแนบแน่นกันดีใช่ไหมครับ หลัง ๆ ดูเหมือนจะปรับให้กระชับใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ก็เป็นข่าวลือ จริงๆ ไม่ได้มีอะไร ผมก็ยังอยู่เหมือนเดิม ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรที่กระชับแนบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ดำเนินรายการ อย่างตอนนี้เช่นมีปัญหาเรื่องม็อบ เรื่องเคอร์ฟิวส์ ต้องโทรศัพท์ติดต่อประสานงานกันใกล้ชิดมากขึ้นใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี มีเรื่องมากขึ้น ก็ต้องติดต่อกันเป็นธรรมดา
ผู้ดำเนินรายการ ส่วนใหญ่เจอกันแบบไหน นัดพบกันประชุมกันเป็นเรื่องเป็นราว หรือพี่ ๆ น้อง ๆ โทรศัพท์คุยกัน
นายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่โทรศัพท์คุยกัน ถ้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกันหลายฝ่ายจะนัดมาเจอกัน อันนี้เป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามปกติ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ขอเรียนได้ว่า ไม่ได้มีอะไรที่กระชับแน่น ไม่ได้มีอะไรที่หลวมคลอน ไม่มี ก็เป็นอย่างเดิม
(ยังมีต่อ)