แท็ก
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
สมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่
อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สุรยุทธ์ จุลานนท์
กรมการขนส่งทางบก
จังหวัดนนทบุรี
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ เวทีกลางภายในอาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เส้นทางใหม่ของโอทอป” (OTOP Generation Next) และงานจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น “OTOP Mid Year & Select 2007” โดยมีนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งจัดโดยคณะอนุกรรมการบริหารงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 7-15 กรกฎาคม 2550
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น กล่าวรายงานว่า การจัดงานเส้นทางใหม่ของโอทอป ในระหว่างวันที่ 7-15 กรกฎาคม 2550 รวมเป็นเวลา 9 วันนับเป็นความร่วมมือของ 5 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศแนวทางดำเนินงานด้านการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ที่มีผลสัมฤทธิ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชน กิจกรรมที่สำคัญในงานประกอบด้วย 1) กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจชุมชนกับเศรษฐกิจพอเพียงให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม 2) กิจกรรมนิทรรศการการมอบรางวัลบุคคลเกียรติยศแก่ตัวแทนชุมชนผู้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จำนวน 10 ราย 3) กิจกรรมงาน OTOP Mid Year ประกอบด้วย กิจกรรมจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนในชนบทได้มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ตั้งใจทำการผลิตอย่างได้คุณภาพและมาตรฐานมาร่วมจำหน่ายทั้ง 4 ภาค จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,622 บู้ธ กิจกรรมสีสรรจากแดนไกล วิถีไทยสงขลา นรา ยะลา ตานี สตูล อันเป็นกิจกรรมพิเศษสำหรับการจำหน่ายสินค้าโอทอปที่แสดงถึงเอกลักษณ์และแสดงถึงวิถีชีวิตของชุมชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนรวม 100 บู้ธ กิจกรรมการจำหน่ายอาหารเด่นประจำจังหวัดหรือโอทอปชวนชิม จำนวน 80 ร้าน กิจกรรมงาน OTOP Select 2007 หรือการซื้อขายจับคู่สู่สากลครั้งที่ 1 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการตลาดให้แก่ชุมชนและท้องถิ่น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิตชุมชน โดยมีผู้ซื้อที่เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ จำนวน 115 ราย พร้อมทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP Select จำนวนทั้งสิ้น 606 บู้ธ และมีนิทรรศการกิจกรรมโอทอปที่มีพัฒนาการจากชุมชนสู่ธุรกิจ รวมทั้งจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาธุรกิจและด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น การจัดงานครั้งนี้สามารถดำเนินการโดยฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ทุกระดับ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้ให้ความเอาใจใส่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้เป็นอย่างดียิ่ง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานว่า การพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า OTOP นั้น ถือว่าเป็นนโยบายที่รัฐบาลนี้ได้ให้ความสำคัญ และเป็นความริเริ่มของรัฐบาลที่ผ่านมา เรายังคงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากและดำเนินการให้มีความต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้ เป็นนโยบายที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในระดับฐานราก ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศโดยตรง นอกจากการปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น” แทน “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” เพื่อให้สะท้อนเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว รัฐบาลยังได้ปรับแนวนโยบายการทำงานของผลิตภัณฑ์ ชุมชนและท้องถิ่น หรือ OTOP เสียใหม่ ซึ่งเป็นทิศทางที่จะเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข อันเป็นยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทิศทางการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จะมุ่งความสำคัญไปอยู่ที่ชุมชน นอกเหนือจากเดิมที่มุ่งเฉพาะผลิตภัณฑ์ โดยชุมชนจะเป็นผู้เลือกกำหนดจุดยืนของชุมชนเองในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าหรือบริการ เช่น ชุมชนที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด โดยชุมชนสามารถจะพัฒนาตนเองภายใต้ภูมิปัญญาท้องถิ่น จุดเด่นทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต มีทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งต้องเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนของดินฟ้าอากาศ แต่สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและแตกต่าง นำไปสร้างตราสินค้าของชุมชนขึ้นมาได้ ย่อมส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีความโดดเด่น เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนอย่างแท้จริง ไม่มุ่งลอกเลียนแบบกันเช่นในปัจจุบัน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมั่นคง โดยไม่ต้องย้ายถิ่นไปสู่เมืองใหญ่ในภูมิภาค หรือเข้ามาในกรุงเทพมหานคร
แนวทางใหม่อีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลจะมุ่งให้ความสำคัญกับกระบวนการขับเคลื่อนการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ชุมชนและท้องถิ่นเป็นระบบครบวงจร ในลักษณะคู่ขนาน โดยใช้ตลาดเป็นตัวนำ เริ่มจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพทางการตลาด จากนักการตลาดชั้นนำของประเทศ เพื่อนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเข้าไปสู่การจับคู่ทางธุรกิจ ระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อ นำไปสู่กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งการทำงานอย่างครบวงจรนี้จำเป็นต้องมีการบูรณาการจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และเอกชน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะยังคงให้ความสำคัญต่อเนื่องในกิจกรรมการเพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนได้นำสินค้าและบริการออกมาจำหน่าย ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งการจัดงานโอทอปกลางปีในวันนี้ เป็นการย้ำถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลต่อการส่งเสริมผลิตภัณฑ์โอทอป และคาดหวังว่า กิจกรรมในช่วง 9 วันนี้ นอกจากจะทำให้ชุมชนผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการขายสินค้า มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผมยังเชื่อว่าจะเป็นเวทีให้ชุมชนได้เรียนรู้ จากองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการผลิตและการตลาดระหว่างกันด้วย นำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดยิ่งขึ้น ในขณะที่ประชาชนจะได้มีโอกาสชื่นชมผลงานของชุมชน ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากชุมชนที่สามารถพัฒนาตนเองเป็นผู้ประกอบการแล้ว ยังมีชุมชนอีกจำนวนมากที่ยังขาดความรู้และความสามารถด้านการผลิตและการตลาด รัฐบาลนี้จะยังคงทำหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตชุมชนและท้องถิ่น ให้ชุมชนมีการพัฒนาองค์ความรู้ทั่วไป การจัดการของชุมชนและเสริมสร้างความเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐานตามที่ผู้บริโภคต้องการ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมกับบุคคลเกียรติยศทั้ง 10 ราย ที่ได้รับการคัดสรรในปีนี้ โดยย้ำว่าบทบาทของบุคคลเกียรติยศจะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน การมีสำนึกของผู้ประกอบการด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนเป็นที่ยอมรับจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งความเสียสละในการทำงานร่วมกับชุมชนทั้งในฐานะผู้รับและผู้ให้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ และเชื่อว่าการขยายรางวัลแก่บุคคลเกียรติยศในปีต่อๆ ไป จะเป็นการสร้างกำลังใจแก่ชุมชนเข้มแข็ง และเป็นกระบวนการสำคัญนำไปสู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น ชุมชนมีส่วนร่วมสำคัญกับภาครัฐในการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงยิ่งขึ้นตลอดไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลบุคคลเกียรติยศให้แก่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จและมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน จำนวน 10 ราย ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดยคณะทำงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น พร้อมทั้งเยี่ยมชมกิจกรรมภายในงานด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น กล่าวรายงานว่า การจัดงานเส้นทางใหม่ของโอทอป ในระหว่างวันที่ 7-15 กรกฎาคม 2550 รวมเป็นเวลา 9 วันนับเป็นความร่วมมือของ 5 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศแนวทางดำเนินงานด้านการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ที่มีผลสัมฤทธิ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชน กิจกรรมที่สำคัญในงานประกอบด้วย 1) กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจชุมชนกับเศรษฐกิจพอเพียงให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม 2) กิจกรรมนิทรรศการการมอบรางวัลบุคคลเกียรติยศแก่ตัวแทนชุมชนผู้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จำนวน 10 ราย 3) กิจกรรมงาน OTOP Mid Year ประกอบด้วย กิจกรรมจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนในชนบทได้มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ตั้งใจทำการผลิตอย่างได้คุณภาพและมาตรฐานมาร่วมจำหน่ายทั้ง 4 ภาค จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,622 บู้ธ กิจกรรมสีสรรจากแดนไกล วิถีไทยสงขลา นรา ยะลา ตานี สตูล อันเป็นกิจกรรมพิเศษสำหรับการจำหน่ายสินค้าโอทอปที่แสดงถึงเอกลักษณ์และแสดงถึงวิถีชีวิตของชุมชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนรวม 100 บู้ธ กิจกรรมการจำหน่ายอาหารเด่นประจำจังหวัดหรือโอทอปชวนชิม จำนวน 80 ร้าน กิจกรรมงาน OTOP Select 2007 หรือการซื้อขายจับคู่สู่สากลครั้งที่ 1 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการตลาดให้แก่ชุมชนและท้องถิ่น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิตชุมชน โดยมีผู้ซื้อที่เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ จำนวน 115 ราย พร้อมทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP Select จำนวนทั้งสิ้น 606 บู้ธ และมีนิทรรศการกิจกรรมโอทอปที่มีพัฒนาการจากชุมชนสู่ธุรกิจ รวมทั้งจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาธุรกิจและด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น การจัดงานครั้งนี้สามารถดำเนินการโดยฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ทุกระดับ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้ให้ความเอาใจใส่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้เป็นอย่างดียิ่ง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานว่า การพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า OTOP นั้น ถือว่าเป็นนโยบายที่รัฐบาลนี้ได้ให้ความสำคัญ และเป็นความริเริ่มของรัฐบาลที่ผ่านมา เรายังคงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากและดำเนินการให้มีความต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้ เป็นนโยบายที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในระดับฐานราก ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศโดยตรง นอกจากการปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น” แทน “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” เพื่อให้สะท้อนเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว รัฐบาลยังได้ปรับแนวนโยบายการทำงานของผลิตภัณฑ์ ชุมชนและท้องถิ่น หรือ OTOP เสียใหม่ ซึ่งเป็นทิศทางที่จะเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข อันเป็นยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทิศทางการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จะมุ่งความสำคัญไปอยู่ที่ชุมชน นอกเหนือจากเดิมที่มุ่งเฉพาะผลิตภัณฑ์ โดยชุมชนจะเป็นผู้เลือกกำหนดจุดยืนของชุมชนเองในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าหรือบริการ เช่น ชุมชนที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด โดยชุมชนสามารถจะพัฒนาตนเองภายใต้ภูมิปัญญาท้องถิ่น จุดเด่นทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต มีทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งต้องเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนของดินฟ้าอากาศ แต่สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและแตกต่าง นำไปสร้างตราสินค้าของชุมชนขึ้นมาได้ ย่อมส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีความโดดเด่น เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนอย่างแท้จริง ไม่มุ่งลอกเลียนแบบกันเช่นในปัจจุบัน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมั่นคง โดยไม่ต้องย้ายถิ่นไปสู่เมืองใหญ่ในภูมิภาค หรือเข้ามาในกรุงเทพมหานคร
แนวทางใหม่อีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลจะมุ่งให้ความสำคัญกับกระบวนการขับเคลื่อนการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ ชุมชนและท้องถิ่นเป็นระบบครบวงจร ในลักษณะคู่ขนาน โดยใช้ตลาดเป็นตัวนำ เริ่มจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพทางการตลาด จากนักการตลาดชั้นนำของประเทศ เพื่อนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเข้าไปสู่การจับคู่ทางธุรกิจ ระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อ นำไปสู่กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งการทำงานอย่างครบวงจรนี้จำเป็นต้องมีการบูรณาการจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และเอกชน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะยังคงให้ความสำคัญต่อเนื่องในกิจกรรมการเพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนได้นำสินค้าและบริการออกมาจำหน่าย ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งการจัดงานโอทอปกลางปีในวันนี้ เป็นการย้ำถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลต่อการส่งเสริมผลิตภัณฑ์โอทอป และคาดหวังว่า กิจกรรมในช่วง 9 วันนี้ นอกจากจะทำให้ชุมชนผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการขายสินค้า มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผมยังเชื่อว่าจะเป็นเวทีให้ชุมชนได้เรียนรู้ จากองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการผลิตและการตลาดระหว่างกันด้วย นำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดยิ่งขึ้น ในขณะที่ประชาชนจะได้มีโอกาสชื่นชมผลงานของชุมชน ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากชุมชนที่สามารถพัฒนาตนเองเป็นผู้ประกอบการแล้ว ยังมีชุมชนอีกจำนวนมากที่ยังขาดความรู้และความสามารถด้านการผลิตและการตลาด รัฐบาลนี้จะยังคงทำหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตชุมชนและท้องถิ่น ให้ชุมชนมีการพัฒนาองค์ความรู้ทั่วไป การจัดการของชุมชนและเสริมสร้างความเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐานตามที่ผู้บริโภคต้องการ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมกับบุคคลเกียรติยศทั้ง 10 ราย ที่ได้รับการคัดสรรในปีนี้ โดยย้ำว่าบทบาทของบุคคลเกียรติยศจะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน การมีสำนึกของผู้ประกอบการด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนเป็นที่ยอมรับจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งความเสียสละในการทำงานร่วมกับชุมชนทั้งในฐานะผู้รับและผู้ให้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ และเชื่อว่าการขยายรางวัลแก่บุคคลเกียรติยศในปีต่อๆ ไป จะเป็นการสร้างกำลังใจแก่ชุมชนเข้มแข็ง และเป็นกระบวนการสำคัญนำไปสู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น ชุมชนมีส่วนร่วมสำคัญกับภาครัฐในการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงยิ่งขึ้นตลอดไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลบุคคลเกียรติยศให้แก่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จและมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาชุมชน จำนวน 10 ราย ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดยคณะทำงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น พร้อมทั้งเยี่ยมชมกิจกรรมภายในงานด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--