นายกรัฐมนตรีระบุรัฐบาลพยายามดูแลและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไม่ให้มีความผันผวนรวดเร็วจนเกินไปและรับไม่ได้ ส่วนภาคแรงงานกระทรวงแรงงานจะคอยดูแล ขณะที่อุตสาหกรรมสิ่งทอนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ปรับตัวได้
เมื่อเวลา 10.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า คงไม่มีอะไรแนะนำนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เท่าที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ รัฐบาลพยายามดูแลและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไม่ให้มีความผันผวนรวดเร็วจนเกินไปและรับไม่ได้ ด้านภาคแรงงานจะมีกระทรวงแรงงานคอยดูแล ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ปรับตัวได้ และให้การเงินผ่อนคลายเข้ากับสภาวะการเงินในปัจจุบันได้
ต่อข้อถามว่า นอกจากอุตสาหกรรมสิ่งทอแล้วยังห่วงอุตสาหกรรมด้านอื่นอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุตสาหกรรมด้านอื่นยังพอปรับตัวได้ เพราะการแข่งขันยังไม่สูงมากนัก แต่ปัญหาอุตสาหกรรมสิ่งทอคือการแข่งขันที่เราสู้ฐานการผลิตในประเทศจีนและเวียดนามไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัว ส่วนอุตสาหกรรมอัญมณี ยังมีโอกาสสูง เพราะขึ้นอยู่กับฝีมือและเทคโนโลยี ที่ประเทศไทยมีค่อนข้างดีกว่า
ต่อข้อถามว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจในปี 2540 แล้วจะแตกต่างกันอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเตรียมการนั้น คิดว่าเรามีการเตรียมการที่ดีกว่า และมั่นใจว่าเราจะไม่มีผลกระทบในลักษณะเช่นเดียวกับปี 2540 ในขณะนี้มีปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว แต่ปี 2540 ค่าเงินบาทอ่อนตัว ทั้งสองเรื่องไม่เป็นผลดีทั้งคู่ สิ่งใดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ สังคมจะปรับตัวไม่ทัน เพราะฉะนั้น จึงต้องหาแนวทางแก้ไขในส่วนนี้ ซึ่งปัญหาค่าเงินบาทคงจะไม่มีผลกระทบต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 10.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า คงไม่มีอะไรแนะนำนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เท่าที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้ รัฐบาลพยายามดูแลและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไม่ให้มีความผันผวนรวดเร็วจนเกินไปและรับไม่ได้ ด้านภาคแรงงานจะมีกระทรวงแรงงานคอยดูแล ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ปรับตัวได้ และให้การเงินผ่อนคลายเข้ากับสภาวะการเงินในปัจจุบันได้
ต่อข้อถามว่า นอกจากอุตสาหกรรมสิ่งทอแล้วยังห่วงอุตสาหกรรมด้านอื่นอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุตสาหกรรมด้านอื่นยังพอปรับตัวได้ เพราะการแข่งขันยังไม่สูงมากนัก แต่ปัญหาอุตสาหกรรมสิ่งทอคือการแข่งขันที่เราสู้ฐานการผลิตในประเทศจีนและเวียดนามไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัว ส่วนอุตสาหกรรมอัญมณี ยังมีโอกาสสูง เพราะขึ้นอยู่กับฝีมือและเทคโนโลยี ที่ประเทศไทยมีค่อนข้างดีกว่า
ต่อข้อถามว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจในปี 2540 แล้วจะแตกต่างกันอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเตรียมการนั้น คิดว่าเรามีการเตรียมการที่ดีกว่า และมั่นใจว่าเราจะไม่มีผลกระทบในลักษณะเช่นเดียวกับปี 2540 ในขณะนี้มีปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว แต่ปี 2540 ค่าเงินบาทอ่อนตัว ทั้งสองเรื่องไม่เป็นผลดีทั้งคู่ สิ่งใดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ สังคมจะปรับตัวไม่ทัน เพราะฉะนั้น จึงต้องหาแนวทางแก้ไขในส่วนนี้ ซึ่งปัญหาค่าเงินบาทคงจะไม่มีผลกระทบต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--