แท็ก
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ร่างพระราชบัญญัติ
กระทรวงมหาดไทย
ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ เวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน ที่มีความเห็นแตกต่างกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า เรื่องดังกล่าวคงไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก แต่เป็นเรื่องแนวคิดที่ทั้งสองกระทรวงต่างก็มีแนวคิดที่จะทำให้การทำงานของระบบการบริหารงานมาจาก 2 ส่วน ซึ่งในส่วนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มองในด้านของฐานรากคือภาคของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยมองในส่วนของการทำงานจากระบบราชการ ซึ่งมีการปกครองทั้งส่วนภูมิภาคและการปกครองส่วนท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้ควรมีการหารือกันว่าจะทำอย่างไร ในเรื่องการพัฒนาระบบให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ก็มีหลายๆ ส่วนที่น่าจะได้มีการพูดคุยกัน อย่างเช่นในส่วนของสภาพัฒนาการเมืองก็เป็นร่างพระราชบัญญัติอีกฉบับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในเรื่องของการที่จะเข้ามามีส่วนร่วม
“ตรงนี้ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่เราจะก้าวไปข้างหน้า ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องคือให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้มากที่สุด ตามหลักการที่รัฐบาลได้แถลงไว้แล้วว่าการทำงานทุกๆ อย่างนั้น เราจำเป็นต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด และเชื่อว่าตรงนี้คงจะปรับกันได้ เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีไปแล้วว่ามอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาในรายละเอียด จริง ๆ คือจะมีการเชิญทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาหารือกัน เพื่อให้ได้ข้อยุติว่าการทำงานในระดับที่ลงไปสู่ฐานรากนั้น เราควรจะจัดระบบกันอย่างไรควรจะมีวิธีการที่ประสานกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า ทั้งสองกระทรวงต่างมีจุดยืนที่แตกต่างกัน และนายไพบูลย์ฯ พูดเรื่องการลาออก นายกรัฐมนตรีได้มีการทำความเข้าใจกับสองส่วนแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยแล้วว่า ในส่วนของการทำงานเพื่อให้ชาติบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้า จะต้องมาคุยกัน หาจุดที่มีความพอดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และต้องพูดด้วยเหตุและผล และหาว่าจุดสมดุลและความพอดีอยู่ตรงไหน เหมือนอย่างที่พูดอยู่ตลอดเวลาว่าหากเราเอาแต่ใจตัวเอง มันคงไปไหนไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเรื่องนี้จะได้ข้อยุติอย่างไร และคิดว่าการลาออกจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีเรื่องการลาออก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
“ตรงนี้ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่เราจะก้าวไปข้างหน้า ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องคือให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้มากที่สุด ตามหลักการที่รัฐบาลได้แถลงไว้แล้วว่าการทำงานทุกๆ อย่างนั้น เราจำเป็นต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด และเชื่อว่าตรงนี้คงจะปรับกันได้ เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีไปแล้วว่ามอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาในรายละเอียด จริง ๆ คือจะมีการเชิญทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาหารือกัน เพื่อให้ได้ข้อยุติว่าการทำงานในระดับที่ลงไปสู่ฐานรากนั้น เราควรจะจัดระบบกันอย่างไรควรจะมีวิธีการที่ประสานกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า ทั้งสองกระทรวงต่างมีจุดยืนที่แตกต่างกัน และนายไพบูลย์ฯ พูดเรื่องการลาออก นายกรัฐมนตรีได้มีการทำความเข้าใจกับสองส่วนแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยแล้วว่า ในส่วนของการทำงานเพื่อให้ชาติบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้า จะต้องมาคุยกัน หาจุดที่มีความพอดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และต้องพูดด้วยเหตุและผล และหาว่าจุดสมดุลและความพอดีอยู่ตรงไหน เหมือนอย่างที่พูดอยู่ตลอดเวลาว่าหากเราเอาแต่ใจตัวเอง มันคงไปไหนไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเรื่องนี้จะได้ข้อยุติอย่างไร และคิดว่าการลาออกจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีเรื่องการลาออก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--