วันนี้ เวลา 10.15 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี (Dr. Muhammad Sayid Tantawy) ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอียิปต์ เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 23 — 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณการตอบรับคำเชิญการเยือนไทยของ ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอียิปต์ (Grand Imam of Al Azhar) และแสดงความชื่นชม ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี ผู้เป็นที่ยอมรับนับถืออย่างสูงในโลกมุสลิม และโดยเฉพาะได้เดินทางมาเยือนไทยเพียงประเทศเดียวในครั้งนี้ ทั้งนี้ ยังได้ขอบคุณ Grand Imam และสถาบันอัล อัซฮัร (Al Azhar) ที่ถวายการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ ระหว่างการเสด็จฯ เยือนอียิปต์เมื่อเดือนมีนาคม 2550
ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี กล่าวชื่นชมความทุ่มเทและแนวคิดของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทยโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะนำไปสู่การพูดคุยกัน การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งหากมีการรับฟังที่ดีแล้วจะนำไปสู่การแก้ปัญหา การสร้างสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งของไทยในอนาคต ในส่วนของดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี และสถาบันอัล อัซฮัร ต่างเน้นย้ำว่านอกจากจะสอนให้พลเมืองมีความรู้ ยึดทางสายกลาง การมีความอดทนอดกลั้นและการไม่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อนำความรู้ที่ได้รับมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศของตน และช่วยให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าได้พยายามแก้ไข ตามแนวทางสมานฉันท์และสันติวิธี ซึ่งหวังว่า ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี จะเป็นสื่อกลางในการทำความเข้าใจต่อผู้นำศาสนา ผู้นำทางความคิด และสาธารณชนในโลกมุสลิม เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการศึกษา ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญและเข้มแข็งในการพัฒนาและการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันไทยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ของอียิปต์ในการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยปีละ 80 ทุน และนักศึกษาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนี้ ต่างมีคุณประโยชน์ต่อการศึกษาของไทยรัฐบาลจึงพร้อมขยายความร่วมมือด้านการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยจะให้การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัรกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และหวังว่าจะขยายความร่วมมือกันในด้านอื่นๆ ต่อไป เช่นการวิจัย การแลกเปลี่ยนนักศึกษา นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร และรัฐบาลอียิปต์ที่ให้การดูแลนักศึกษาไทยอียิปต์เป็นอย่างดี และได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยมุสลิมเป็นประจำทุกปี ทั้งยังได้กล่าวถึงปัญหาขาดแคลนครูช่วยสอนวิชาหลักต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ดังนั้น หากมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัรจะพิจารณาส่งครูอาสาสมัครมาช่วยสอนก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ในโอกาสนี้ ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี แสดงความยินดีที่จะสนับสนุนและขยายความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยลัยของไทยกับมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีนักเรียนไทยจำนวนมากเดินทางมาศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
อนึ่ง การเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี นอกเหนือจากการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีแล้ว ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวียังหารือกับผู้บัญชาการทหารบก/ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และจุฬาราชมนตรี รวมทั้งเยี่ยมชมชุมชนไทยมุสลิม มัสยิดต้นสน และมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าของสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อรับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอิสลามศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณการตอบรับคำเชิญการเยือนไทยของ ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอียิปต์ (Grand Imam of Al Azhar) และแสดงความชื่นชม ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี ผู้เป็นที่ยอมรับนับถืออย่างสูงในโลกมุสลิม และโดยเฉพาะได้เดินทางมาเยือนไทยเพียงประเทศเดียวในครั้งนี้ ทั้งนี้ ยังได้ขอบคุณ Grand Imam และสถาบันอัล อัซฮัร (Al Azhar) ที่ถวายการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ ระหว่างการเสด็จฯ เยือนอียิปต์เมื่อเดือนมีนาคม 2550
ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี กล่าวชื่นชมความทุ่มเทและแนวคิดของนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทยโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะนำไปสู่การพูดคุยกัน การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งหากมีการรับฟังที่ดีแล้วจะนำไปสู่การแก้ปัญหา การสร้างสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งของไทยในอนาคต ในส่วนของดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี และสถาบันอัล อัซฮัร ต่างเน้นย้ำว่านอกจากจะสอนให้พลเมืองมีความรู้ ยึดทางสายกลาง การมีความอดทนอดกลั้นและการไม่ใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อนำความรู้ที่ได้รับมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศของตน และช่วยให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าได้พยายามแก้ไข ตามแนวทางสมานฉันท์และสันติวิธี ซึ่งหวังว่า ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี จะเป็นสื่อกลางในการทำความเข้าใจต่อผู้นำศาสนา ผู้นำทางความคิด และสาธารณชนในโลกมุสลิม เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการศึกษา ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญและเข้มแข็งในการพัฒนาและการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันไทยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ของอียิปต์ในการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยปีละ 80 ทุน และนักศึกษาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนี้ ต่างมีคุณประโยชน์ต่อการศึกษาของไทยรัฐบาลจึงพร้อมขยายความร่วมมือด้านการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยจะให้การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัรกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และหวังว่าจะขยายความร่วมมือกันในด้านอื่นๆ ต่อไป เช่นการวิจัย การแลกเปลี่ยนนักศึกษา นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร และรัฐบาลอียิปต์ที่ให้การดูแลนักศึกษาไทยอียิปต์เป็นอย่างดี และได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยมุสลิมเป็นประจำทุกปี ทั้งยังได้กล่าวถึงปัญหาขาดแคลนครูช่วยสอนวิชาหลักต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ดังนั้น หากมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัรจะพิจารณาส่งครูอาสาสมัครมาช่วยสอนก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ในโอกาสนี้ ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี แสดงความยินดีที่จะสนับสนุนและขยายความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยลัยของไทยกับมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีนักเรียนไทยจำนวนมากเดินทางมาศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
อนึ่ง การเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวี นอกเหนือจากการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีแล้ว ดร.มูฮัมหมัด ซัยยิด ฏอนฎอวียังหารือกับผู้บัญชาการทหารบก/ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และจุฬาราชมนตรี รวมทั้งเยี่ยมชมชุมชนไทยมุสลิม มัสยิดต้นสน และมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าของสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อรับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอิสลามศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--