นายกรัฐมนตรียืนยันสานต่อความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-อังกฤษ ในโอกาสที่อัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลาก่อนพ้นตำแหน่ง
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย David William Fall เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความชื่นชมเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยที่มี่บทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - สหราชอาณาจักร มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราชวงศ์ไทยและอังกฤษได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน
สำหรับเรื่องการลงทุนนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และหวังว่า จะมีการร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมไทย - สหราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งเอกอัครราชทูต สหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า ถึงแม้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยยังไม่มีความแน่นอนก็ตาม นักลงทุนอังกฤษยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยบริษัทอังกฤษได้มีการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรยังได้ตระหนักถึงปัญหาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และรัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับสหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆ ในการแก้ไขปัญหานี้
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความมั่นใจในการทำประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญว่า จะเป็นไปได้ด้วยดี และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกล่าวว่ารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาความรุนแรงภาคใต้ โดยการสร้างความสัมพันธ์กับประชาชนในท้องถิ่น โดยใช้แนวทางสมานฉันท์ การส่งเสริมการศึกษา และการสร้างอาชีพ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาย David William Fall เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความชื่นชมเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยที่มี่บทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - สหราชอาณาจักร มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราชวงศ์ไทยและอังกฤษได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน
สำหรับเรื่องการลงทุนนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และหวังว่า จะมีการร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมไทย - สหราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งเอกอัครราชทูต สหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า ถึงแม้สถานการณ์ทางการเมืองของไทยยังไม่มีความแน่นอนก็ตาม นักลงทุนอังกฤษยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยบริษัทอังกฤษได้มีการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรยังได้ตระหนักถึงปัญหาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และรัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับสหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆ ในการแก้ไขปัญหานี้
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความมั่นใจในการทำประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญว่า จะเป็นไปได้ด้วยดี และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกล่าวว่ารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาความรุนแรงภาคใต้ โดยการสร้างความสัมพันธ์กับประชาชนในท้องถิ่น โดยใช้แนวทางสมานฉันท์ การส่งเสริมการศึกษา และการสร้างอาชีพ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--