นายกฯ เผยสภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด จนท.ยังสามารถรับมือได้

ข่าวทั่วไป Wednesday October 20, 2010 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์นำท่วมใน 17 จังหวัด ของศูนย์บัญชาการสาธารณภัย ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)

นายกฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวัดยังสามารถรับมือได้ โดยแต่ละหน่วยงานได้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้างานที่สำคัญคือการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

"ขณะนี้ยังรับมือได้อยู่ มติคณะรัฐมนตรีที่ออกมาก็คลายข้อจำกัดไปได้ระดับหนึ่ง...สัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์หน้า เรื่องเร่งด่วนคือการดูแลความเป็นอยู่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังติดตามพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำไหลมารวมกัน โดยเฉพาะในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มาบรรจบกับปริมาณน้ำที่มาจากแม่น้ำป่าสัก และในส่วนของน้ำที่ลงมาจากเขาใหญ่ คือตามเส้นทางน้ำที่จะต้องกระจายออกไป เช่น จังหวัดชัยภูมิ บุรีรัมย์ และพื้นที่อื่นๆ ด้วย

ส่วนการฟื้นฟูหลังจากปริมาณน้ำลดลงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายหน่วยงานได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ หรือความช่วยเหลือทางด้านสาธารณสุข แต่ยังคงไม่สามารถประเมินตัวเลขความเสียหายทั้งหมดได้

สำหรับการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปทุมธานีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรับมือขึ้นอยู่กับความรุนแรงของระดับน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดต่างๆ และปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมา

นอกจากนี้ ตนเองได้ให้แนวทางกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยว่า หากเห็นว่าสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดมีความจำเป็นต้องยกระดับการป้องกันก็สามารถประสานมายังรัฐบาลได้ เพื่อที่รัฐบาลจะได้พิจารณาและหาแนวทางแก้ไขต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมจากผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยจังหวัดนครราชสีมาได้รายงานว่ายังมีพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง 5 อำเภอ และสถานการณ์น้ำโดยทั่วไปยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคองระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น

ที่จังหวัดลพบุรีพยายามป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าเขตเมืองอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันโรงพยาบาล และสถานที่ที่สำคัญ ส่วนสถานการณ์รอบนอกมีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอบ้านหมี่ นอกจากนี้ยังมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ที่จังหวัดสระแก้วมีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก คืออำเภออรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศระดับน้ำได้ลดลงแล้ว และตลาดโรงเกลือก็เปิดค้าขายได้ตามปกติ

ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้น้ำในลุ่มน้ำมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 15-20 เซนติเมตร ซึ่งในพื้นที่อำเภอท่าเรือมีระดับน้ำสูงขึ้น และเชื่อว่าน้ำจะขึ้นถึงวันศุกร์และวันอาทิตย์นี้

ที่จังหวัดนครสวรรค์ ยังมีปัญหาในพื้นที่ 5 อำเภอ และที่อำเภอท่าตะโกประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงสุด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ระดับน้ำจึงจะอยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ในเขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์จะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากมีการเร่งระบายน้ำแล้ว

ที่จังหวัดชัยภูมิได้ขยายวงกว้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีน้ำทยอยไหลบ่าลงมาเรื่อยๆ ซึ่งทางจังหวัดได้มีการแจ้งเตือนไปยังจังหวัดขอนแก่นที่ต้องรองรับน้ำจากจังหวัดแล้ว

ที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้พยายามเร่งระบายน้ำทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เริ่มเบาบางลง และที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่อำเภอกบินทร์บุรีประสบวิกฤติมากที่สุด โดยระดับน้ำยังทรงตัว และน้ำจะเริ่มไหลไปสู่อำเภออื่นๆข้างเคียงต่อไปในอีก 2-3 วันข้างหน้ารวมทั้งในตัวเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม ระหว่างการรายงานสถานการณ์จากผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวถึงความกังวลในสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานีและบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานว่า ในส่วนของพื้นที่จังหวัดปทุมธานีมี 3 ปัจจัยที่ต้องระวัง คือ น้ำเหนือจากอยุธยาและน้ำจากเขื่อนป่าสัก ปริมาณน้ำฝน และน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ กทม.ด้วย แต่ได้เตรียมกระสอบทรายทำแนวคันกั้นน้ำไว้แล้ว

ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ประสบปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ แต่มีคนเสียชีวิตแล้ว 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก จึงต้องการกำชับผู้ปกครองให้ระมัดระวังด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ