กฟผ.หยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์แล้ว หลังระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ข่าวทั่วไป Thursday October 21, 2010 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ.ว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.53 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ.ทั้งหมด 42,887 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 69% ของความจุอ่างทั้งหมด ซึ่งน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 13% หรือ 6,278 ล้านลูกบาศก์เมตร

ดังนั้นในภาพรวมทั้งประเทศจะเห็นว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ.ในปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย มีเพียงอ่างเก็บน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว 620 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด

นายกิตติ กล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ ตามที่ได้มีการระบายน้ำไปเมื่อ 18 ต.ค. เนื่องจากระดับน้ำเกินระดับกักเก็บสูงสุด 25 ซม.นั้น ขณะนี้ กฟผ.ได้หยุดการระบายน้ำแล้วตั้งแต่เมื่อเวลา 02.00 น. และในส่วนเขื่อนห้วยกุ่ม ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ได้หยุดระบายน้ำแล้วเช่นกันตั้งแต่เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา

โดย กฟผ.ยังคงเฝ้าติดตามปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเหลือความจุรองรับน้ำได้อีก 228 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ตลอดช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา เขื่อนของ กฟผ.ได้มีส่วนช่วยในการป้องกันและบรรเทาน้ำท่วม โดยเก็บกักน้ำและระบายน้ำในอัตราที่น้อยมากหรือหยุดการระบายน้ำในบางช่วงเวลา เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทางด้านท้ายน้ำ เช่น เขื่อนภูมิพล ลดการระบายน้ำลงเหลือเท่าที่จำเป็นสำหรับการอุปโภคและบริโภค, เขื่อนสิริกิติ์หยุดการระบายน้ำบางช่วงเวลา เพื่อบรรเทาสภาพน้ำท่วมใน จ.พิษณุโลกและในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา, ส่วนที่เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณก็ระบายน้ำในอัตราน้อย และหยุดการระบายน้ำบางช่วงเวลา เพื่อบรรเทาสภาพน้ำท่วมใน จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ