นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ที่มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมี ตัวแทนเหล่าทัพ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวในการให้นโยบายในการรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติผ่อนคลายเรื่องการขยายวงเงินสำรองฉุกเฉินของจังหวัด และผ่อนคลายกฎระเบียบบางประการที่ช่วยได้ระดับหนึ่ง
"หลายพื้นที่ไม่เคยประสบปัญหามาก่อน ส่งผลให้สถานการณ์จากนี้ไปจะมีความที่สับสนและหลากหลายมากขึ้น เพราะหลายพื้นที่จะเริ่มน้ำลด แล้วมีประเด็นปัญหาที่ต้องฟื้นฟู ขณะที่จะมีพื้นที่ใหม่ๆที่ต้องรับน้ำตามทางน้ำที่จะไหลไป เช่น ภาคอีสาน ซึ่งจากการคาดการณ์คือวันที่ 4 พ.ย. ก็จะไปถึง จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญกับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ค่อนข้างเร็วจากน้ำเหนือที่ไหลลงมาบวกกับช่วงที่น้ำทะเลหนุนในอีก 2-3 วันนี้ ฉะนั้นขณะนี้จะเห็นภาพชัดเจนว่าจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และบริเวณริมน้ำได้รับผลกระทบรวมทั้งกทม.ด้วยบางส่วน ที่ต้องมีการบริหารจัดการ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วน คชอ.และศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยก็เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและเป็นช่องทางเตรียมการประสานข้อมูลให้มีความสอดคล้อง คือ 1.เรื่องการหารือเชิงนโยบายที่จะเสนอต่อคชอ.แล้วจะเสนอต่อครม.ที่มีอำนาจตัดสินใจ 2.การประสานการช่วยเหลือ เช่น จากนี้จะต้องบริหารจัดการอุปกรณ์ ซึ่งในบางพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มรุนแรงน้อยลง ก็จะโยกคนและอุปกรณ์ไปในพื้นที่ที่มีความต้องการมากกว่า และ 3.จากการบริจาคเงินเข้ามามากหลายสิบล้านบาท ควรกำหนดทิศทางให้เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับการทำงานของรัฐมากที่สุด