ก.เกษตรฯ เผยยังต้องระวังในช่วง 28-29 ต.ค.คาดน้ำเหนือลงมาสมทบมากขึ้น

ข่าวทั่วไป Wednesday October 27, 2010 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก 2 วัน คือ วันที่ 28-29 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีปริมาณไหลเข้ามาสมทบในลุ่มน้ำจ้าพระยาจากทางภาคเหนือมากขึ้นและจะมีน้ำจากแม่น้ำปิงไหลมาสมทบอีกบางส่วน ถึงแม้น้ำในลุ่มแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านขณะนี้น้ำเริ่มทรงตัว ส่วนน้ำที่ จ. นครสวรรค์ ทรงตัวและได้เริ่มลดลงแล้ว

อย่างไรก็ดี ที่เห็นน้ำที่ไหลผ่านแม่เจ้าพระยายังมีปริมาณมาก เนื่องจากมาจากน้ำบางส่วนไหลมาจากลุ่มน้ำสะแกกรัง จึงทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก ประกอบกับน้ำทะเลหนุนบางส่วน ซึ่งจากนี้ไปสถานการณ์คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

รมว.เกษตร กล่าวว่า สถานการณ์การกักเก็บน้ำในเขื่อนป่าสักที่มีความเป็นห่วงกันว่าอาจเกิดปัญหากับเขื่อนหากมีการกักเก็บน้ำเกินปริมาณที่กำหนดว่า เรื่องดังกล่าวยืนยันว่าเขื่อนยังมีความแข็งแรงแม้ว่าปริมาณน้ำจะเกินปริมาณที่กำหนดที่ 960 ลบ.ม.ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนมีมากถึง 1,170 ล้าน ลบ.ม.โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะมีการเก็บไว้เพื่อการหน่วงน้ำในระยะช่วงสั้นๆ และจะมีการเร่งระบายออกให้เร็วที่สุดหลังน้ำทะเลหนุนสูงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป ทั้งนี้แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำเกินกว่าปริมาณที่มีการกำหนดไว้ แต่ในช่วงสั้นๆยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะปริมาณน้ำจะเกินกว่าที่กำหนดไว้ แต่คาดว่าจะมีปัญหาเพราะเป็นช่วงสั้นๆเท่านั้นเพราะเป็นการหน่วงน้ำ โดยขณะนี้เป็นการลดการพร่องลงซึ่งจากเดิมระบายน้ำออกจากเขื่อนวันละประมาณ 1,200-1,300 ล้าน ลบ.ม. ต่อวินาที เพื่อเป็นการรักษาระดับน้ำในท้ายน้ำ แล้วเราจะบริหารจัดการเร่งการพร่องน้ำออกให้เร็วที่สุด หลังน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะบริหารจัดการไม่ให้กระทบหรือให้กระทบน้ำน้อยที่สุด

"ตอนนี้ยังสามารถรับน้ำได้และกรมชลประทานจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะคำนึงถึงความมั่นคงและความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งไม่มีปัญหาแน่นอน"รมว.เกษตร กล่าว

ส่วนมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกร ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะรวบรวมข้อมูลให้เร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือในกรณีพิเศษ โดยจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็วต่อไป

ด้านศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (27 ต.ค. 53) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ณ จุดสำคัญๆ ดังนี้ จังหวัดนครสวรรค์ 2,804 ลบม. /วินาที เขื่อนเจ้าพระยา 3,457 ลบม. /วินาที เขื่อนพระรามหก 1,076 ลบม. /วินาที และที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,319 ลบม. /วินาที

แนวโน้มปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีฝนตกบริเวณภาคกลางตอนบนในช่วงวันที่ 25—26 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยังคงมีน้ำเหนือไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าปริมาณน้ำจะไม่เพิ่มสูงมากนัก ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามมาตรการ 4 ข้อ เพื่อลดปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่ทางตอนล่างแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง หมั่นตรวจสอบคันกั้นน้ำให้มีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้ง ขอให้ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยกรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ