กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 10-28 ตุลาคม 2553 ว่า มีจังหวัดประสบภัยทั้งสิ้น 38 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ปัจจุบันจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 27 จังหวัด 238 อำเภอ 1,757 ตำบล 14,509 หมู่บ้าน 1,089,614 ครัวเรือน 3,292,377 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 3,468,204 ไร่ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ พิษณุโลก และจังหวัดหนองบัวลำภู
มีผู้เสียชีวิต 58 ราย (รวม 16 จังหวัด ได้แก่ ระยอง 1 ราย, ตราด 1 ราย, สระแก้ว 1 ราย, นครราชสีมา 14 ราย, ลพบุรี 10 ราย, นครสวรรค์ 8 ราย, ชัยภูมิ 2 ราย, สระบุรี 3 ราย, บุรีรัมย์ 6 ราย, ขอนแก่น 3 ราย, อุทัยธานี 1 ราย, นนทบุรี 1 ราย, ชัยนาท 2 ราย, กำแพงเพชร 3 ราย, สุพรรณบุรี 1 ราย และ พิจิตร 1 ราย) เป็นบุคคลสัญชาติไทย 57 ราย กัมพูชา 1 ราย
นอกจากนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะ ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนพืชผลทางการเกษตรของประชาชน ในระยะ 5-6 วันนี้ (26-31 ตุลาคม 2553) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 (ประจวบคีรีขันธ์) เขต 11 (สุราษฎร์ธานี) เขต 12 (สงขลา) เขต 18 (ภูเก็ต) และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในเขตความรับผิดชอบ โดยจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์