ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (29 ต.ค. 53) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ณ จุดสำคัญๆ ดังนี้ จังหวัดนครสวรรค์ 2,745 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยา 3,717 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระรามหก 813 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,526 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์มาก
สำหรับผลการตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด วานนี้ (28 ต.ค.) มีดังนี้ สถานี C.4 สะพานพุทธฯ 2.01 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.49 ม. (ตลิ่ง 2.50 ม.รทก.) เวลา 10.45 น., สถานี C.12 กรมชลประทาน สามเสน วัดได้ 2.19 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.81 ม. (ตลิ่ง 3.00 ม.รทก.) เวลา 11.15 น. และสถานี C.22A ปากเกร็ด วัดได้ 2.48 ม.รทก. สูงกว่าตลิ่ง 0.02 ม.(ตลิ่ง 2.46 ม.รทก.) เวลา 11.30 น.
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ภาวะน้ำทะเลหนุนสูงเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือที่ยังไหลหลากจากทางตอนบน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง หมั่นตรวจสอบคันกั้นน้ำให้มีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้ง ขอให้ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยกรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป