ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุภูเขาไฟระเบิดและสึนามิ ซึ่งเกิดขึ้นไล่เลี่ยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นรวมกันเป็น 488 ราย และภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าวยังส่งผลให้ประชาชนอีกกว่า 85,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนไปหาที่พักพิงชั่วคราว
ภูเขาไฟเมราปี ซึ่งมีความสูง 2,968 เมตร และตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของจังหวัดยอร์กยาการ์ตาและจังหวัดชวากลาง ได้เกิดการปะทุหลายครั้งนับตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในวันนี้ภูเขาไฟปะทุแล้ว 2 ครั้ง และยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงจนถึงขณะนี้
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 ราย รวมทั้งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง 42 คน และอีก 69,412 คนต้องอาศัยในที่พักพิงชั่วคราว
สำนักข่าวซินหัวรายงาน ครั้งก่อนหน้านี้ที่ภูเขาไฟเมราปีเกิดการปะทุคือเมื่อปี 2549 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ก่อนหน้านั้นในปี 2537 ภูเขาไฟก็ปะทุจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 60 ราย สำหรับครั้งที่เกิดการปะทุรุนแรงที่สุดคือเมื่อปี 2473 ซึ่งตอนนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ อันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงกว่า 7.2 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะเมนตาไว ในจ.สุมาตราตะวันตก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ได้คร่าชีวิตประชาชน 450 ราย ขณะที่อีก 96 รายยังสูญหาย และอีก 14,983 รายไม่มีบ้านอยู่
โดยคลื่นสึนามิทำให้บ้านจำนวน 515 หลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอีก 204 หลังได้รับความเสียหายเล็กน้อย นอกจากนี้ สะพาน 7 แห่ง และอาคารประกอบพิธีทางศาสนา 7 แห่งพังถล่ม