โฆษกหญิงของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เปิดเผยว่า สายการบินได้กลับมาให้บริการเที่ยวบินด้วยเครื่องแอร์บัส เอ380 อีกครั้ง หลังจากที่ได้ตรวจสอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวทั้ง 11 ลำอย่างละเอียด และไม่พบความเสี่ยงที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยด้านการบิน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ทางสายการบินได้นำเครื่องบินโบอิ้ง 777 มาให้บริการเที่ยวบินระหว่างซิดนีย์ เมลเบิร์น และสิงคโปร์ แทนเครื่องเอ380 ในระหว่างการตรวจสอบฝูงบินดังกล่าว โดยสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ให้บริการเที่ยวบินซิดนีย์-สิงคโปร์ จำนวน 2 เที่ยวบินต่อวัน และ เมลเบิร์น-สิงคโปร์ วันละ 1 เที่ยวบิน
การตัดสินใจระงับการใช้เครื่องบินเอ380 เป็นไปตามคำแนะนำของบริษัท โรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ เทรนท์ 900 ที่ใช้กับเครื่องเอ380 หลังจากที่เกิดเหตุเครื่องบินเอ380 ของสายการบินแควนตัสที่กำลังเดินทางจากสิงคโปร์ไปยังนครซิดนีย์ ระเบิดกลางอากาศ เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ทำงาน จนทำให้นักบินต้องนำเครื่องบินกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินชางงี ในสิงคโปร์ เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน วันนี้ แอร์บัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่น เอ380 ได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญเดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค
โดยแถลงการณ์ของแอร์บัสระบุว่า แอร์บัสจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคอย่างเต็มที่แก่สำนักงานตรวจสอบอุบัติภัย(Bureau d'Enquetes et d'Analyses (BEA)) ของฝรั่งเศส รวมถึงทางการออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
ทั้งนี้ แอร์บัสได้ส่งมอบเครื่องบินเอ380 ลำที่เกิดเหตุให้กับแควนตัส เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2551 เครื่องบินลำดังกล่าวได้ทำการบินมาแล้ว 8,165 ชั่วโมง และเที่ยวบินที่เกิดเหตุก็นับเป็นเที่ยวบินที่ 831