นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ข้อมูลความเสียหายด้านการเกษตรเบื้องต้น ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 ของจังหวัดสงขลา ด้านพืช มีเกษตรกรประสบภัย 83,400 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูกพืชที่คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 141,400 ไร่ แยกเป็น ข้าวนาปี 66,900 ไร่ ยางพารา 40,500 ไร่ ไม้ผล 13,400 ไร่ พืชผัก 15,200 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 600 ไร่ และพืชไร่ 4,800 ไร่
ด้านปศุสัตว์ มีโค กระบือ ที่ได้รับผลกระทบ 44,100 ตัว ด้านประมง มีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 3,394 ราย เรือประมงได้รับความเสียหาย 44 ลำ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 107,250,000 บาท นอกจากนี้ อาคารสำนักงานท่าเทียบเรือประมงสงขลา และแพปลา ก็ได้รับความเสียหายบางส่วนด้วย
ด้านจังหวัดปัตตานี ด้านพืช มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 9,097 คัวเรือน พื้นที่ประสบภัย 32,544 ไร่ และคาดว่าจะเสียหาย 12,922 ไร่ โดยจำแนกเป็น ข้าว คาดว่าจะเสียหาย 13,765 ไร่ พืชผัก 504 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 180 ไร่ ยางพารา 335 ไร่ และลองกอง 308 ไร่ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 2,271 ราย จำนวนสัตว์ ประกอบด้วย โค กะบือ สุกร เป็ด ไก่ แพะ แกะ และนกกระทา รวม 69,142 ตัว แปลงหญ้า 93 ไร่ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ 180 ราย โดยจำแนกเป็น บ่อปลา ได้รับความเสียหายจำนวน 222 บ่อ กระชัง 143 กระชัง และเรือ 50 ลำ
จังหวัดสตูล ด้านพืช มีเกษตรกรประสบภัย 10,402 ครัวเรือน ประกอบด้วย พืชไร่ พืชผัก คาดว่าจะเสียหาย 2,274 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น 7,929 ไร่ ข้าว 10,772 ไร่ ด้านปศุสัตว์ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 7,079 ราย แยกเป็น โค กระบือ 63 ตัว แพะ แกะ 285 ตัว สุกร 30 ตัว สัตว์ปีก 60,300 ตัว แปลงหญ้า 720 ไร่ ด้าน ประมง มีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 278 ราย 334 บ่อ มูลค่าความเสียหายประมาณ 793,425 บาท
ความเสียหายด้านการเกษตรของจังหวัดยะลา ด้านพืช มีเกษตรกรประสบภัย 15,275 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 12,135 ไร่ ประกอบด้วย พืชไร่ คาดว่าจะเสียหาย 534 ไร่ พืชสวน 3,985 ไร่ ข้าว 7,616 ไร่ ด้านปศุสัตว์ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 1,585 ราย ประกอบด้วย โค กระบือ เป็ด ไก่ แพะ แกะ รวม 9,046 ตัว ด้านประมง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาได้รับผลกระทบ 840 ราย 108 บ่อ มูลค่าความเสียหายประมาณ 736,275 บาท
"ภายหลังน้ำลด หน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการสำรวจเกษตรกรและพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ได้ตัวเลขความเสียหายที่แน่นอน และนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณให้ความช่วย เหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และสามารถฟื้นฟูอาชีพการเกษตรได้ดังเดิม"นายธีระ กล่าว