นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เผยได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท รวบรวมข้อมูลถนนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมแล้วรายงานกลับมาให้ทราบเพื่อจัดลำดับความสำคัญการฟื้นฟูว่าจะดำเนินการก่อน-หลังอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีชาวบ้านออกมาร้องเรียนว่าการฟื้นฟูไม่ทั่วถึง โดยการจัดลำดับความสำคัญนั้นจะเน้นถนนสายหลักที่มีการสัญจรหนาแน่นก่อน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้แบ่งพื้นที่การให้ความช่วยเหลือเป็น 3 ส่วน คือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ และภาคใต้ โดยแต่ละส่วนจะมีการจัดลำดับความสำคัญของถนนที่จะดำเนินการก่อน-หลัง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปตามความจำเป็นเร่งด่วนและทั่วถึง โดยกระทรวงคมนาคมจะไปประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดทั้ง 3 ส่วน เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งหมดก่อนกำหนดแนวทางฟื้นฟูถนนต่อไป คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะสรุปความเสียหายและแนวทางการฟื้นฟูถนนได้
ด้านนายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ความเสียหายของถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบจากเหตุน้ำท่วมระหว่างวันที่ 1 ส.ค.- 8 พ.ย.53 พบว่ามีถนนได้รับความเสียหาย 611 สายทาง ใน 66 จังหวัด สามารถสัญจรชั่วคราวได้แล้ว 477 สายทาง และอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม 134 สายทาง โดยประเมินความเสียหายประมาณ 4,275 ล้านบาท